หน้าเว็บ

หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เบอร์นี แซนเดอร์ส – ชั่วขณะที่เขารู้ว่า ทรัมป์ ได้เปิดศึกบินถล่มใส่อิหร่าน

เบอร์นี แซนเดอร์ส – ชั่วขณะที่เขารู้ว่า ทรัมป์ ได้เปิดศึกบินถล่มใส่อิหร่าน

Watch The Moment Bernie Sanders Finds Out Trump Launched Strikes On Iran Live During His Rally

          https://youtu.be/DMo_snZ0iV0?si=KaXCbXiKf5DlGtpA

          นี่คือแถลงการณ์, แถลงการณ์จากโดนัลด์ ทรัมป์. ยกมาได้ว่า: “เราได้เสร็จสิ้นการโจมตีที่ประสบสำเร็จเต็มที่อย่างมากกับสามพื้นที่เป้าหมายด้านปรมาณูในอิหร่าน. ฯลฯ.  (This is the statement, statement from Donald Trump. Quote: “We have completed our very successful attack on the three nuclear sites in Iran, etc.)

          (กลุ่มผู้ชุมนุม ร้องตะโกน - ไม่เอาสงครามอีก!ไม่เอาสงครามอีก! ไม่เอาสงครามอีก! ไม่เอาสงครามอีก!)   (No More War! No More War! No More War! No More War! …)

          ผมเห็นด้วย. และผมต้องการที่จะบอกกับพวกคุณว่าบางอย่างไม่เพียงแต่แค่ข่าวนี้ ซึ่งผมเพิ่งจะได้ยินสัญญาณแจ้งเตือนภัยครั้งที่สองนี้ ที่พวกท่านทั้งหมดเพิ่งได้ยิน, แต่มันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรง. พวกคุณทั้งหมดต่างก็รู้ว่า หนึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถนำเอาประเทศนี้ไปสู่สงครามได้ คือ รัฐสภาสหรัฐ. ประธานาธิบดีไม่มีสิทธินี้.  (I agree.  And I want to tell you something not only this is news that I’ve just heard this second alarming that all of you have just heard, but it so grossly unconstitutional. All of you know that the only entity that can take this country of war is the Congress. The president does not have the right.)

          พวกคุณก็รู้, ผมได้พูดไปเมื่อชั่วครู่ที่ผ่านมานี้ เกี่ยวกับความจริงที่ว่า เรากำลลังอยู่ในหนึ่งของชั่วขณะอันยุ่งยากเดือดร้อนทั้งหลายในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของประเทศนี้. และทรัมป์, ทรัมป์เพิ่งสร้างทำมันให้ยิ่งยุ่งยากลำบากมากมายขึ้น. นั่นคือภาระหนักอีกอันหนึ่งที่เรากำลังจะต้องแบกไป และนั่นเพิ่มเป็นอีกข่าวสารหนึ่งที่เรากำลังที่จะต้องออกมากลางถนนกันไปทั่วทั้งประเทศนี้. (You know, I was talking a moment ago about the fact that we are living in one of the most difficult moments in the modern history of this country. And Trump, Trump just made it that much more difficult. That’s just another burden we’re going to have to carry and that’s just another message we’re going to have to get out all over this country.)

          ผู้คนอเมริกันไม่ได้ต้องการสงครามมากขึ้นอีกต่อไป, ตายกันมากขึ้น.  (The American people do not want more war, more death.)

          คุณรู้มั้ย, มันอาจจะเป็นความคิดที่ดี ถ้าเราได้มุ่งเน้นอยู่กับปัญหาที่เกิดอยู่ที่ในโอคลาโฮมา และเวอร์มอนท์ มากไปกว่าเข้าไปเกี่ยวข้องในสงครามอีกอันหนึ่ง ที่ผู้คนอเมริกันไม่ได้ต้องการ. ให้ผม, ให้ผม, แค่พูดเช่นนี้ว่า ในเมฆหมอกของอะไรทั้งหมดซึ่งกำลังดำเนินอยู่นี้, อะไรที่เป็นความสำคัญอันมหึมาก็คือว่า เราไม่ได้ให้ความสนใจกับวิสัยทัศน์ว่า ประเทศเรานี้ต้องไปที่ไหน. (You know, it might be a good idea if we concentrated on the problems that exist in Oklahoma and Vermont rather than getting involved in another war that the American people do not want. Let me, let me, let me just say this that in the midst of all of what is going on, what is enormously important is that we do not give up on a vision of where this country must go.)

          อะไรที่กลุ่มทรงอำนาจนั้น, อะไรที่กลุ่มทรงอำนาจนั้นต้องการให้พวกคุณที่จะเชื่อคือว่า พวกคุณไม่มีอำนาจ, ว่าพวกคุณไม่สามารถทำสิ่งใดได้ประสบสำเร็จ. พวกเขามีมันไปหมดแล้ว. ไม่มีอะไรที่พวกคุณสามารถทำได้. และในชั่วขณะของประวัติศาสตร์อเมริกันนี้, อะไรที่เราต้องทำในเวอร์มอนท์และโอคลาโฮมา, ในเท็กซัส, ทั่วทั้งหมดในประเทศนี้ ก็คือลุกขึ้นมายืนและสู้กลับไปและบอกกับพวกเขามานี่คือประเทศของเรา.  (What the establishment, what the establishment wants you to believe is that you have no power, that you can’t accomplish anything. They have it all. Nothing you could do. And this moment in American history, what we have got to do in Vermont and Oklahoma, in Texas, all over this country is stand up and fight back and tell them this is our country.)

          และผมไม่สนใจใส่ใจด้วย. ผมไม่สนใจใส่ใจด้วยว่าคุณจะเป็นพวกหัวก้าวหน้า, พวกสายกลาง, หรือพวกอนุรักษ์. ประเทศนี้เป็นของพวกเราทุกคน, ไม่ใช่คนเพียงกำมือเดียวของเศรษฐีพันล้านทั้งหลาย. และเมื่อเรามองออกไปสู่อนาคต, อะไรประเภทที่อเมริกาเป็นอย่างที่เราต้องการ, ก็ขอให้เราได้เข้าใจอะไรสองสามอย่าง.  (And I don’t care. I don’t care if you are a progressive, a moderate, or a conservative. This country belongs to all of us, not just a handful of billionaires. And when we look out into the future, the kind of America we want, let’s understand a few things.)

          หมายเลขหนึ่ง, แทนที่ในการจะตัดการเก็บภาษีไปให้พวกเศรษฐีพันล้านทั้งหลาย, เราควรที่จะสั่งการให้พวกเขาได้จ่ายส่วนแบ่งอย่างยุติธรรมมาเป็นภาษีทั้งหลาย. ไม่เลย, เราไม่ควรที่จะโยนคนเมริกันกว่า 16 ล้านคนออกไปจากระบบดูแลสุขภาพที่พวกเขาเคยได้รับ. เราควรที่จะได้ทำอะไรเหมือนเช่ประเทศหลักใหญ่อื่นๆเขาได้ทำกัน. ระบบดูแลสุขภาพให้กับพวกเราทั้งหมดให้ เป็นสิทธิของมนุษย์ทุกคน.   (Number One, instead of giving tax breaks to the billionaires, we should demand they start paying their fair share of taxes. No. we should not be throwing 16 million Americans off the Health Care they have. We should be doing what every other major country does. Guarantee health care to all as a human right.)

          นี้เป็น, นี้ไม่ใช่ความคิดสุดโต่ง. มันได้มีอยู่อย่างชัดเจนในทุกประเทศมั่งคั่งอื่นๆ. หน้าที่ของระบบดูแลสุขภาพอย่างสมเหตุสมผล ไม่ได้การทำประโยชน์ให้เศรษฐีพันล้านหลายร้อยคนกับบริษัทยาและบริษัทประกันสุขภาพทั้งหลายนั้น. มันเป็นการจัดหาการดูแลสุขภาพอย่างมีคุณภาพเพื่อทุกคน.  (This is, this is not a radical idea. It exists in virtually every other wealthy country. The function of a rational health care system is not to make hundreds of billions for the drug companies and the insurance companies. It’s to provide quality care to all.)

          เมื่อเรามองไปสู่อนาคต, เราต้องสั่งการว่าทุกแรงงานในอเมริกาได้รับค่าจ้างแรงงานที่ดีที่พอเพียงในการดำรงชีพ. การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสุดอย่างน้อยต้องเป็น 17 เหรียญต่อชั่วโมง.  (When we look into the future, we must demand that every worker in America earns a decent wage. Raise the minimum wage top at least 17 bucks an hour.)

          เราสามารถสร้างสรรค์งานอาชีพทั้งหลายที่จ่ายค่าจ้างที่ดีได้ด้วยการเป็นงานอาชีพผ่านสหภาพ, ด้วยการ สร้างบ้านพัก 5 ล้านหน่วยสำหรับผู้มีรายได้น้อย และสามารถจ่ายให้ได้. ไม่ได้เป็นความคิดสุดโต่ง. ไม่ได้เป็นความคิดสุดโต่งเลยที่จะบอกเช่นนั้นในด้านเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ของการแข่งขันกันนี้, ทุกคนหนุ่มสาวในประเทศนี้, ไม่ต้องคำนึงถึงรายได้, ควรที่ตจะได้รับสิทธิที่จะได้รับการศึกษาระดับสูง.    (We can create millions of good - paying jobs by Union jobs, by building 5 million units of low-income and affordable housing. Not a radical idea. Not a radical idea to say that in a competitive global economy, every young person in this country, regardless of income, should have the right to get a higher education.)

          เราสามารถและต้องทำให้วิทาลัยและมหาวิทยาลัยของรัฐทั้งหลาย, วิทยาลัยของชุมชนทั้งหลาย, ค่าเล่าเรียนโรงเรียนอาชีวะทั้งหลาย, ต้องฟรี. (We can and must make public colleges and universities, community colleges, trade schools tuition, free.)

          และเมื่อเราพูดคุยกันถึงอิสรภาพ และสหายร่วมอาชีพทั้งหลายของผมมากมายพูดคุยถึงเรื่องอิสรภาพกันทุกวัน. เอาละ, อะไรที่อิสรภาพหมายถึงในท่ามกลางสิ่งต่างๆทั้งหลายอื่น นั่นก็คือผู้หญิงทุกคนในประเทศนี้ได้มีสิทธิที่จะควบคุมในร่างกายของเธอเอง.  (And when we talk about freedom and many of my colleagues talk about freedom every day. Well, what freedom means among other things is that every woman in this country has a right to control her own body.)

          และให้ผมได้แค่พูดเรื่องนี้, เหล่านี้คือช่วงเวลาของความยากลำบากเดือดร้อน และคุณเพิ่งได้ยอินเมื่อห้านาทีที่เพิ่งผ่านมานี้, กำลังจะที่หนักหนาสาหัสยิ่งขึ้น. แต่ในท่ามกลางเมฆหมอกของทั้งหมดในการนั้น, ไม่ได้แค่ต่อสำหรับชีวิตทั้งฟลายของพวกเรา, แต่สำคัญยิ่งขึ้นมากกว่าต่อลูกๆและหลานๆทั้งหลายของพวกเรา, เราต้องเข้าใจว่าความสิ้นหวังนั่นเป็นแค่ทางเลือกหนึ่ง.  (And let me just say this, these are tough times and you just heard five minutes ago, going to be even tougher. But in the midst of all of that, not just for our lives, but more importantly for our kids and our grandchildren, we have got to understand that despair is not an option.)

          นั่นคืออะไรที่พวกเขาต้องการให้เราที่จะเชื่อ. ไม่มีในพวกเราเลยที่ได้รับสิทธิพิเศษในการซ่อนอยู่ใต้ที่กำบังหลบภัยเหล่านั้นด้วย. เดิมพันทั้งหลายนั้นสูงเกินไป. และผมอยากที่จะเตือนพวกคุณถึงบทเรียนประวัติศาสตร์สั้นๆว่า ที่ผ่านของประวัติศาสตร์แห่งประเทศนี้ คืออะไรที่เราได้เห็นกันอยู่เสมอมา.  (That’s what they want us to believe. None of us have the privilege of hiding under the covers. The stakes are just too high. And I would like to remind all of you short history lesson that throughout the history of this country what we have always seen.)

          https://youtu.be/DMo_snZ0iV0?si=_8NZAUT6IiqrrSoz

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บัณฑูร ล่ำซำ – รู้คุณแผ่นดิน

บัณฑูร ล่ำซำ – รู้คุณแผ่นดิน

          https://youtu.be/Qst_PGl6F5g?si=W22rVyerjxKlfWqq

          คนไทยจริงๆก็มีพื้นฐานของความเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว ในเรื่องต่างๆที่เรารู้สึกดี ในความเป็นไทย ก็มีอัธยาศัยไมตรีต่อกัน และความรักในประเทศซึ่ง มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของจิตใจของคนไทย มาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผ่นดินของรัชกาลที่ ๙ นี่ ซึ่งยาวนานมาก.

          ก็ผมคิดว่า โดยพื้นฐานของความรู้สึกร่วมกันเช่นนี้เนี่ยะ คนไทยก็มีคว่ามเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่แล้ว แต่ว่าในระหว่างนั้นก็อาจมีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องบางเรื่อง ซึ่งอันนี้นเนี่ยะ เป็นเรื่องที่เป็นของปกตินะฮะ จะให้เห็นพ้องต้องกันทุกคนน่ะ เป็นไปไม่ได้ แต่การที่มีพื้นฐานของความรู้สึกที่เป็นไทยด้วยกัน เห็นหน้าก็รู้ว่าคนนี้เป็นไย พูดไทยก็รู้ว่าคนนี้เป็นไทย ยังเงี่ยะ โดยพื้นฐานร่วมกันอันนี้เนี่ยะ ทำให้การปลุกจิตสำนึกในคว่ามเป็นไทยเนี่ยะ อยู่ในวิสัยที่ทำได้อยู่เสมอ ถ้าไม่ลุแก่อคติจนเกินไป ถ้าไม่ลุกับทิฏฐิส่วนตัวจนเกินไปเนี่ยะ ก็สามารถที่จะ สร้างความสามัคคีโดยรวมในประเทศได้

          ค่านิยมอันดีงามของไทย ก็คือความถ้อยทีถ้อยอาศัย อันนี้เป็นลักษณะพิเศษของคนไทย คือ...คือถึงแม้จะมี อ่า เหตุการณ์อะไรก็ตามที่อาจจะเกิดความ เรียกว่า อาจจะกระทบกระทั่งกันบ้างเนี่ยะ ถ้าไม่ ไม่ลุแก่อารมณ์จนเกินไปแล้วเนี่ยะ คนไทยจะเก่งในเรื่องของการที่ อะลุ้มอล่วยด้วยถ้อยทีถ้อยอาศัย และอันนี้ผมว่าเป็น เป็นลักษณะพิเศษที่ชาติอื่นไม่ค่อยจะมี ถ้าเราใช้ให้ถูก ใช้ในกรณีที่ทำให้เรื่อง แทนที่จะที่เป็นเรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ก็จะสามารถที่จะ มีความพร้อมเพรียงกัน ที่จะทำงานใหญ่ๆได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะลืมกติกาที่สำคัญนะ กติกาของสังคมที่สำคัญๆ กฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ ความที่บอกว่าอะลุ้มอล่วยไม่ได้แปลว่า เราจะไม่มีกติกาที่เหมาะสมใช้ ในชีวิตของสังคมไทย.

คือในบริบทของโลกทุนนิยมปัจจุบันเนี๊ย สิ่งที่ตามมา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือความ...ความแตกต่างกันของ อ่า เรียกว่าความมั่งคั่ง มันมาพร้อมๆกันกับโลกของทุนนิยม ซึ่งอันนี้มันเป็นสิ่งที่ถ้าปล่อยไว้เนี่ยะ ก็เป็นความบาดหมาง โดยธรรมชาติในหมู่มนุษย์ในชาตินั้นๆ แล้วคนไทยมีนิสัยของการที่แบ่งปันอยู่แล้ว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อยู่แล้ว มีการให้ มีการให้กันเป็นปกติ อยู่แล้วเนี่ยะ ถ้าสามารถเอาลักษณะอันเป็นไทยอันนี้เนี่ยะ ซึ่งเป็นลักษณะที่ ที่ดีงามเนี่ยะ เอามาใช้อย่างกว้างขวาง ในบริบทของ โลกสมัยใหม่ของการทำมาหากินเนี่ยะ ก็จะสามารถที่จะลด ไอ้...ไอ้ความแตกแยก ความที่ใครมีมากกว่าใคร จนเกินไปเนี่ยะ ลงไปได้ขั้นหนึ่ง คนที่มีมากคนที่มีอำนาจมากกว่า คนที่มีทรัพย์มากกว่า คนที่มีโอกาสดีกว่า ก็ยังมีความรู้สึกว่า เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้คนอื่นที่ด้อยกว่าได้ แล้วทั้งหมดโดยรวมก็จะรู้สึกดีขึ้น แล้วก็จะรู้สึกว่า ยังเป็นชาติเดียวกัน ยังเป็นพวกเดียวกัน ยังสามารถำอะไรต่างๆร่วมกันได้.

ก็การพัฒนาเป็นเรื่องที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะโลกเนี่ยะ แข่งขันกันมาก ในสมัยนี้ โลกแข่วงขันกันในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขาย ซึ่งเป็นหัวใจของความเป็นอยู่ของมนุษย์ทั้งโลกเนี่ยะ ฉะนั้นการที่ อ่า อยู่ภายใต้การกดดันเช่นนี้เนี่ยะ มันจะต้องทำให้เกิดความรู้สึกว่า ต้องสู้ในลักษณะที่อย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่า คนไทยโดยรวม ประเทศไทยโดยรวมเนี่ยะ มีความสามารถในการแข่งขัน ในทุกด้านกับประชาคมโลกได้ แล้วก็อยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้.

ฉะนั้น มันจะ...มันไม่มีใครมาหยิบยื่นอะไรให้ได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นทุกคนควรจะสำนึก และคำนึงอยู่เสมอว่า ไอ้การที่จะต้องพัฒนาตนเอง และพัฒนาหมู่คณะไปด้วยกันเนี่ยะ เป็นเรื่องหน้าที่ของทุกคนที่ต้องทำในประเทศไทย.

ถ้าทำจิตให้แน่วแน่ว่า เรามีหน้าที่ ต่อประเทศชาติด้วย ต่อผู้คนทั้งหลายที่เรารับผิดชอบด้วยเนี่ยะ หน้าที่อันนั้นคือหน้าที่ที่จะทำในสิ่งที่ดีๆ ให้มันเกิดขึ้นในสังคม มันก็จะเป็นสิ่งที่จะเป็นกำลังใจในแต่ละวัน ที่จะตื่นมาแล้วลุกขึ้นไป ประกอบสัมมาอาชีพ แล้วก็ฌทำเรื่องต่างๆที่เป็นประโยชน์ด้วยกัน สำหรับตัวเองด้วย และสำหรับหมู่คณะ ประเทศชาติด้วย.

           https://youtu.be/Qst_PGl6F5g?si=Qm-hT3AqoeDsn6Ah