- ...เผอิญเม้นท์ไว้ในเฟซของตัวเองซะยืดยาว....เห็นว่าน่าจะเอามาแปะโม้เก็บไว้ที่บล็อกนี้ เพื่อให้หากลับมาอ่านอีกได้ง่าย...เลยเพิ่มตัวตนในนี้ซะเลย...แค่อ่านกันสนุกๆนะครับ...
- ...คือผมคิดว่า "จิต" คือพลังงาน/คลื่น(เหมือนคลืิ่นวิทยุ/แม่เหล้กไฟฟ้า)...ที่เชื่อมติดต่อกันเป็นเครือข่ายทั้งจักรวาล...เหมือนTRUE, AIS, DTAC...ระดับ 9G...เพียงแต่ว่า"มือถือ"/เครื่องรับ/ตัวเรา....นั้นมี"จิตสำนึก"อยู่ในระดับใดและมีความสามารถในการเชื่อมติดต่อได้แค่ไหน? ถ้า 84,000 เซลล์สมอง-ก็คงแค่ 2G/ทรานซิสเตอร์ อ่ะนะ...หุหุหุ... ...ปัญหาคือ พอศึกษาในทางพุทธศาสน์แล้ว...ปัญญาระดับกระบือของผม-เข้าใจภาษากัมมัฏฐานยาก...คือยังนึกภาพออกมาเป็นภาษาโลกียะ-ลำบาก...ก็เลยต้องหันกลับไปหา-"ราก"...ทางสภาวะจิต จากบรรดา"โยคี"ฮินดูอารยันที่สอนคนทั่วไป และปราชญ์ทางพุทธที่เทศน์ลดระดับกับคนทั่วไปแอย่างเช่น พุทธทาสภิกษุ/ท่าน ปอ.ปยุตโต และหลวงปู่ธรรมยุตทั้งหลาย...รวมทั้งท่านทะไลดามะองค์ปัจจุบันด้วย... ...ที่ตลกคือ แปลคำ"ธรรม"จากภาษาอังกฤษนี้ - กลับเข้าใจได้ง่ายตามปัญญากระบือ - กว่าภาษา"ไทย"ซะอีก...หุหุหุ...เอางี้ เช่น เชื่อ/ศรัทธา...ภาษาอังกฤษใช้ 3 คำ 3 ระดับ คือ belief/faith/confidence ....ทีนี้ ถ้าเป้น "สติ" ก็ mindfulness ถ้า สัมปชัญญะ ก็ awareness...เห็นมั๊ย? ผมว่า ฟังรู้เรื่องง่ายกว่า -ไทยปนบาลี อ่ะนะ...
- Like
- Reply
- 34m
- Patcharaboon Somnuekทีนี้เรื่อง"จิต/mind" กับ "กาย/body"...คือ "นาม" กับ "รูป"เนี่ยะ...ก็เลยต้องเข้าไปหา...ว่า "สมอง" นั้นทำงานกับ "วิญญาณขันธ์/consciousness" ขึ้นมาได้อย่างไร? เพราะ "กาย" หรือ "สมอง" นั้นก็คือ"มือถือ/เครื่องจับ - พลังงานจิต" ของจักรวาลไง... ...ทีนี้ก็เลย...ต้องเข้าไปถึงอีกว่า...แล้ว"ชีวิต" - มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? แบบว่า...อะไรคือ แบต/battery ของ"มือถือ/body"...คือถ้าวนไปทางพุทธ -ก็ต้อง "อิทัปปัจจยตา/ปฏิจสมุปบาท" แหะแหะแหะถ้าจะละเอียดอ่อนมากไปสำหรับปัญญากระบือ...ก็เลยวกไปทางตะวันตก...เพราะตะวันตกคือ วิทยาศาสตร์...และวิทยาศาสตร์ คือ เหตุผลเชิงรูปธรรม/เชิงวัตถุ...งายกว่า...หนังสือเดิมในบ้านก็ซื้อมาอ่านนานแล้วไว้เยอะ...เช่น ของท่านCarl Sagan, ท่าน Frank Cappa(อันนี้ฉบับแปล) คือ ชีวอินทรีย์ คืออะไร? อะไรทำให้เกิด สารอินทรีย์ ที่มีการเคลื่อนไหว/เจริญเติบโต/ขยายพันธุ์ได้...ขึ้นบนโลก....แหะแหะแหะ....ความจริงถ้าบอกว่า - "พระเจ้า"ทำขึ้นมา...หรือ"อิทัปปัจจยตา"ทำขึ้นมา....มันก็ง่าย....แต่ก้-ไม่รู้เรื่องอยู่ดีอ่ะเน๊าะ...คือ ตอบว่า มันเป็น "ยังงั้นแหละ/เช่นนั้นเอง/suchness"...ก็จบง่ายๆดิ่...แล้วชีวิตหลับเกษียณที่ไม่ต้องทำงานให้ใคร-กินบุญเก่าที่สะสมเอาไว้...ที่เหลืออยู่อีกตั้ง 35 ปี...มันก็จืดชืด...สมองฝ่อ/จิตเหี่ยว-ไปตามส่วนอื่นๆเลยอ่ะดิ่...ไปนะั่งหลับตาอยู่คนเดียวในที่วิเวก - ก้เสียดายที่ไม่ทำประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่น....ให้มี 5Gกะเค้ามั่งอ่ะดิ่...
- Like
- Reply
- 21m
- Patcharaboon Somnuek...นึกถึงสมัยเรียน-อยากรู้อะไร...ก็ต้องไปห้องสมุด...ต้องอดข้าวไปซื้อหนังสือมาอ่าน...ลำบากยากเข็ญแท้ๆ...ถามใครๆไเค้าก็ตอบไปงั้นๆ...รู้แต่รำคาญที่เด็กๆอย่างเราชอบไปถามไม่เลิกแล้วยังเถียงได้ด้วยอีกตั่งหาก...พอมาตอนนี้ 5G มีเน็ต/มีกูเกิ้ล....อยากรู้อะไรๆก้…See more
- Like
- Reply
- 9m
- Edited
- Patcharaboon Somnuek...มะวานไปซื้อข้างแกง/กาแฟ/ขนมหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์...รอห้างเปิดแปีบนึง...เจอพระภิกษุเดินหลบคนสวนมาบนทางเท้า...เลยนิมนต์เบี่ยงหลบผู้คนไปข้างๆเพื่อถวาบปัจจัย...ให้ไปร้อยนึง...ท่านให้ศีลให้พรบอกว่ากำลังจะไปรังสิต/เดือดร้อนค่าเดินทางอยู่พอดี...ผมก็เลยว่า...หลวงพ่อมาผิดทางแล้วอ่ะนะ...ถ้าไปรถเมล์/รถตู้ต้องข้ามถนนรามอินทราไปฝั่งโน้น/เพราะทางนี้ไปมีนบุรี-มันอ้อม...ที่โน้นเพราะถนนรามอินทรามันกว้างและต้องเดินข้ามตะพานข้ามสูง 5 เมตรอีกตั่งหาก...ทีนี้-ตามสันดานเชอร์ล็อค โฮล์ม...เห็นแต่แรกแล้วว่า หลวงพ่อท่าเดินกระเผลก/ขาพิการข้างหนึ่ง...เลยบอกว่า...เอางี้-นั่งแท๊กซี่ไปเลยดีกว่า...แต่หลวงพ่อเอาเงินร้อยนึงมาคืนผมก่อน/แล้วเอาแบ๊งค์ห้าร้อยที่เหลืออยู่อีกใบเดียวของผมนี้ไปแทน...จะได้พอ ค่ารถ...แบบว่าตังค์ผมเหมิ่ดกระเป๋าพอดี...เด่วจะไปซื้อข้าวเหนียวปิ้งไส้เผือกไส้กล้วยขาประจำตรงโน้น/กับพวงมาลัยไหว้พระพรหม-ชาประจำอีกอ่ะแหละ...ส่วนสาวยาคูลท์เอาไว้วันหลังก้ได้(10 ขวด 70 บาท)เพราะมีลุกแล้ว...หุหุหุ...เดป็นอันว่า - มะวานผมดัน...ชี้ทางไปให้พระภิกาุแหล่ว...แถมช่วยให้ไปสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีก....ไม่รู๊ว่าจะบาปหรือไปทำร้ายใครเค้าได้อีก - ก็ชั่งหัวมัน(ยี่ปุ่นต้ม)แหละ...เน๊าะ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น