หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

เบอร์นี่ แซนเดอร์ส – “นี่คือที่เราจะต่อสู้กลับอย่างไร”

 เบอร์นี่ แซนเดอร์ส – “นี่คือที่เราจะต่อสู้กลับอย่างไร”

*NEW* "This is HOW we FIGHT BACK" 2025 - Bernie Sanders Latest

          https://youtu.be/Xqxig5RJ06c?si=2yxanbl6vaJMke3D

 

          ขอบคุณอย่างมากที่มาร่วมกับผม. เรากำลังอยู่ในชั่วขณะอันตรายและไม่อาจคาดการณ์ได้ ในประวัติศาสตร์อเมริกัน, และผมกำลังได้รับโทรศัพท์ทั้งหลายจากผู้คน ผู้ซึ่งไม่เพียงแต่จะวิตกกังวลเท่านั้นเกี่ยวกับว่าอะไรกำลังบังเกิด, สงสัยว่าเราจะไปข้างหน้าอย่างไรให้ดีที่สุด. (We are living in a dangerous and unpredicted moment in American history, and I’m getting a lot of calls from people who are not only upset about what’s happening, wondering how we best going forward.)

          เอาละ, ให้ผมบอกคุณ, เราต้องชาญฉลาด. เราต้องรวมตัวกันเป็นองค์กร, และเราต้องต่อสู้กลับ. นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับการหมกหมุ่นอยู่ในความสิ้นหวังและหลบซ่อนตัวอยู่ใต้สิ่งปกคลุม. เดิมพันทั้งหลายนั้นสูงเกินไป. เราไม่ได้แค่ต่อสู้เพื่อตัวของเราเอง. เรากำลังต่อสู้เพื่อลูกหลานทั้งหลายของเรา, เพื่ออนาคตของชนรุ่นหลังทั้งหลาย. เรากำลังต่อสู้เพื่ออนาคตของดาวเคราะห์นี้. (Well, let me tell you, we have got to be smart. We’ve got to be organized, and we’ve got to fight back. This is not a time for wallowing in despair and hiding under the covers. The stakes are just too high. We are not just fighting for ourselves. We’re fighting for our kids, for future generations. We’re fighting for the future of this planet.)

          ในสองสัปดาห์แรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา, โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขัดขืนท้าทายรัฐธรรมนูญ โดยการยกเลิกจบสิทธิการเป็นพลเมืองด้วยการเกิดในประเทศ, ไล่หมาเฝ้าบ้านทั้งหลายของรัฐบาล(เจ้าหน้าที่ของรัฐ - ผู้แปล) ปล่อยให้มีการเจาะเข้ามาตามแนวชายฝั่งพรมแดนทั้งหลาย, อภัยโทษผู้ก่อความไม่สงบที่ใช้ความรุนแรงทั้งหลาย, ได้ระงับการสงเคราะห์ช่วยเหลือต่างประเทศ, และได้พยายามที่จะตัดเงินกองทุนรัฐบาลกลางแทบทั้งหมด. (In the first two weeks of his presidency, Donald Trump defied the Constitution by ending birthright citizenship, fired the government watchdogs allowed drilling along our coastlines, pardoned violent insurrectionists, suspended all foreign aid, and tried to cut off virtually all federal funding.)

          ดังนั้น, แล้วเราจะไปข้างหน้ากันอย่างไร? (So, how do we go forward?)

          อันดับแรก, เพื่อให้เป็นที่ได้ผล, เราต้องมีความเข้าใจว่าอะไรในข้อเท็จจริงที่กำลังบังเกิดขึ้นรายรอบเราอยู่ในตอนนี้. (First, to be effective, we’ve got to understand what in fact is happening around us right now.)

          อันดับที่สอง, เราจำเป็นต้องการยุทธศาสตร์ระยะสั้น. อะไรที่เราทำวันพรุ่งนี้และวันถัดไปและวันถัดไปหลังจากนั้น? (Second, we need a short-term strategy. What do we do tomorrow and the next day and the day after that?)

          อันดับที่สาม, เราจำเป็นต้องการยุทธศาสตร์ระยะยาว. เราจะก่อสร้างการเคลื่อนไหวที่เราได้รับอำนาจทางการเมือง อย่างไรกัน?(Third, we need a long-term strategy. How do we build a movement that gains political power?)

          ในที่นี้, ในมุมมองของผม, ภาพรวมสรุปโดยย่อเป็นเช่นอะไรที่กำลังบังเกิดขึ้นภายใต้ทรัมป์. (Here is, in my view, a brief overview as what is happening under Trump.)

          ที่สำคัญมากที่สุด, การเคลื่อนที่ไปสู่ระบอบคณาธิปไตยในประเทศของเรา, ว่าประเทศของเราดำเนินการโดยคนรวย และทรงอำนาจที่มีการดำเนินการอย่างรวดเร็วอยู่. และมันไม่ได้เป็นไปอย่างลับๆ. เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน, โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำพิธีสาบานตนสำหรับการดำรงตำแหน่งในวาระที่สองของเขา, ที่กำลังยืนอยู่ที่ข้างหลังเขาเป็นสามชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลก, อีลอน มัสก์, เจฟฟ์ เบโซส และมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก. เหล่าผู้ชายซึ่งได้กลายเป็นกลายเป็นร่ำรวยขึ้นกว่า 200 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่ทรัมป์ได้รับการเลือกตั้ง, และใครในตอนนี้มีมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เงินมากขึ้นกว่าสังคมชนอเมริกันครึ่งล่าง, 170 ล้านผู้คน. (Most importantly, the move toward Oligarchy1 in our country, government run by the rich and the powerful is proceeding rapidly. And it’s not being done secretly. A little a week ago, Donald Trump was inaugurated for his second term, standing right behind him were the three richest men in the world, Elon Musk, Jeff Bezos and Mark Zuckerberg. Men who have becomes over $200 billion richer since Trump was elected, and who now are worth almost $1 trillion more money than the bottom half of American society, 170 million people.)

          1https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2

 

          แต่มันไม่ใช่คณาธิปไตยที่เราควรจะวิตกกังวลถึง. ประเทศนี้ภายใต้ทรัมป์กำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปสู่ลัทธิอำนาจนิยม/ เผด็จการ. (But it’s not just oligarchy that we should worry about. This country under Trump is moving rapidly toward Authoritarianism2.

          2https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1

          แค่สองสามตัวอย่าง: ในการละเมิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายรัฐบาลกลาง, ทรัมป์ ได้พยายามในวันก่อนที่จะระงับความช่วยเหลือสงเคราะห์และเงินกู้ทั้งหมดของรัฐบาลกลาง. นั่นหมายความเขาได้ปิดกั้นเงินทุนช่วยเหลือสำหรับ เมดิเอด, เฮด สตาร์ท, แสตมป์อาหาร, อาสาสมัครผู้ไร้บ้าน ฯลฯ. หลายหมื่นล้านคนอเมริกัน, บางรายเป็นผู้คนที่เปราะบางมากที่สุดในประเทศของเรา, ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจนี้. (Just a few examples: In violation of the Constitution and federal law, Trump attempted the other day to suspend all federal grants and loans. That means he blocked funding for Medicaid, Head start, food stamps, homeless veterans, etc., etc.  Tens of millions of American, some of the most vulnerable people in our country, were impacted by the decision.)

          อย่างโชคดี, ชาวอเมริกันทั้งหลายทั่งทั้งประเทศทั้งหมดได้ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธและได้พูดว่า ไม่, ไม่, ไม่. และด้วยการช่วยเหลือขากศาลทั้งหลาย, อย่างมาก, แต่ก็ไม่ทั้งหมดของการยับยั้งและกองทุนทั้งหลายได้ถูกล้มเลิก. คุณอาจจะสังเกตเห็นได้ว่า ทรัมป์ได้กำลังข่มขู่สื่อทั้งหลายด้วยการฟ้องร้องคดีความ ต่อ ABC, CBS, Meta และ Des Moines register. (Fortunately. Americans all across the country stood up in outrage and said no, no, no. And with the help of the courts, much, but not all of that freeze and funding was rescinded. You may have noticed that Trump is intimidating the media with lawsuits against ABC, CBS, Meta and The Des Moines Register.)

          ถ้าทรัมป์ไม่ชอบในอะไรที่สื่อรายงานข่าวทั้งหลาย, เขากำลังข่มขู่พวกนั้นด้วยการดำเนินคดีด้วยกฎหมาย, บ่อนเซาะขุด รัฐธรรมนูญ ที่แก้ไขครั้งที่ 1. (กีดกันรัฐบาลมิให้ออกกฎหมายซึ่งวางระเบียบสถาบันศาสนา หรือกฎหมายที่ห้ามการปฏิบัติศาสนาอย่างเสรี หรือลดทอนเสรีภาพในการพูด เสรีภาพสื่อ เสรีภาพในการสมาคม หรือสิทธิในการร้องทุกข์ต่อรัฐบาลเพื่อปัดเป่าความเดือดร้อน - ผู้แปล) นั่นคือการเคลื่อนไหวโดยตรงสู่ระบอบอำนาจอธิปไตย/เผด็จการ. ในตอนนี้, นั่นเป็นภาพรวมอย่างกว้างๆของที่ไหนซึ่งเราอยู่ที่ไหนในวันนี้. ในประเด็นของยุทธศาสตร์ระยะสั้น, เราต้องโหมระดมพลอย่างแข็งขันเท่าที่เราสามารถจะต่อต้านได้กับเป้าประสงค์อันตรายทั้งหลายของทรัมป์.  (If Trump doesn’t like what media reports, he is threatening them with lawsuits, undermining the First Amendment3. That is a direct movement toward authoritarianism. Now, that’s a very broad overview of where we are today. In terms of short-term strategy, we’ve got to mobilize as strongly as we can against Trump’s dangerous proposals.)

          3https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%8D%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_1

 

          และให้ผมแค่พูดเรื่องนี้, อย่างสำคัญยิ่ง, ใช่, พรรครีพับลิกันควบคุมวุฒิสภา. แต่เราอย่าได้ลืมไป, เสียงหลักใหญ่ข้างมากทั้งหลายของพวกเขานั้นเล็ก. ในสภาผู้แทนฯ, ที่มีอยู่ 435 สมาชิก, พวกเขามีสี่กลุ่ม-ลงคะแนน-หลัก. นั่นเป็นการชนะกันด้วยคะแนนเสียงเพียงน้อยนิดบางเฉียบ. และร่างกฎหมาย/รับบัญญัติทั้งหลายของพวกเขาก็อาจพ่ายแพ้ได้. มีจำนวนของรีพับลิกันข้างนอกนั้นผู้ซึ่งเอาชนะในเขตเดโมแครตทั้งหลายเพียงเล็กน้อยจากเกณฑ์วัดทั้งหลาย.  (And let me just say this, importantly, yes, the Republicans control the House and the Senate. But do not’s forget, their majorities are small. In the House, a body of 435 members, they have a four-vote majority. That is a razor thin margin. And their legislation can be defeated. There are a number of Republicans out there who won in Democratic districts by small margins.)  

          ดังนั้น, ให้ผมบอกกับพวกคุณ, พวกคนเหล่านี้ได้ตอบรับต่อโทรศัพทเรียกและอี-เมล์ทั้งหลายจริงๆ. ดังนั้น, ถ้ามีชิ้นใดของร่างกฎหมายที่คุณไม่เห็นด้วย, ก็จงไปที่โทรศัพท์ปและเรียกไปที่ศูนย์แคปิตอล ที่เบอร์ 202-224-2131. และอะไรที่เป็นบางอย่างของข้อกฎหมายในร่างรัฐบัญญัตินั้นที่เราควรจะเป็นที่ได้กังวลด้วย? (So, let me tell you, these guys do respond to phone calls and e-mails. So, if there’s a piece of legislation you disagree with, get in the phones and call the Capital switchboard at 202-224-2131. And what is some of that legislation that we should be concerned about?

          พรรครีพับลิกันในตอนนี้กำลังทำงานกับอะไรที่ได้ถูกเรียกว่า กระบวนการใช้เสียงข้างน้อยในการออกมาตรการทางกฎหมาย (50 วุฒิสมาชิก). ที่คือองค์ประกอบที่สำคัญมากที่สุด, ซึ่งน่าจะเป็นกาช่วยลดหย่อนภาษีก้อนโตสำหรับผู้มั่งคั่งที่จะต้องจ่ายให้แก่รัฐ, โดยการที่รัฐได้ตัดโครงการช่วยเหลือสุขภาพและโครงการสงเคราะห์อื่นๆ ซึ่งครอบครัวชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงานรายได้น้อยจำเป็นต้องพึ่งพาอยู่.  (Republicans right now are working on what’s called the Budget Reconciliation Bill4. The most important element, which would be a massive tax break for the wealthy to be paid for by large cuts in Medicaid and other programs that working families and low-income people desperately need.)

          4 https://www.scbeic.com/th/detail/product/7444

          ในเวลาที่รายได้ไม่อาจคาดคะเนได้และความมั่งคั่งซึ่งไม่เสมอภาคทัดเทียมกัน เมื่อมีผู้คนมากมายเหลือเกินกำลังดิ้นรนต่อสู้ให้มีอาหารมาวางที่โต๊ะ, เราต้องไม่ทำร่ายทำลายโครงการสำหรับช่วยเหลือครอบครัวชนชั้นกลาง เพื่อที่จะได้ลดหย่อนภาษี/ตัดภาษีที่ต้องเก็บจากมหาเศรษฐ๊พันล้านทั้งหลายออกไปได้. (At a time of unprecedented income and wealth inequality when so many of our people are struggling to put food on the table, we must not savage programs for working families to provide huge tax breaks for billionaires.)

          เราต้องต่อต้านอย่างจริงจังพยายามของทรัมป์ ในการเนรเทศคนจำนวนมากมหาศาลออกนอกประเทศ. ใช่, เราต้องสร้างความแข็งแรงให้พรมแดนทั้งหลายของเรา. ใช่, เราควรเนรเทศผู้คนผู้ที่ได้ก่อเหตุร้ายอาชญากรรมร้ายแรงในประเทศนี้. แต่, ไม่, ไม่, เราไม่สามารถทำลายครอบครัวทั้งหลายผู้ที่ได้อาศัยและทำงานอยู่ในประเทศอย่างสันตอิสุขมาเป็นหลายทศวรรษ. (We must vigorously oppose Trump’s effort at mass deportation. Yes, we must strengthen our borders. Yes, we should deport people who have been convicted of serious crimes. But, no, no, we cannot destroy families who have lived and worked in this country peacefully for decades.)

          ไม่แค่ดเพียงโครงการเนรเทศมวลชนออกนอกประเทศของทรัมป์นี้ ผิดจริยธรรม, ดังทั้งหมดที่พวกคุณก็รู้, เรากำลังมองเห็นความเลวร้ายและวิบัติร้ายแรงทางภูมิอากาศกันในประเทศของเราและทั่วทั้งหมดทั้งโลกเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก. ลองคิดถึง L.A. ลองคิดถึงนอร์ธ แคโรไลนา. (Not only is Trump’s mass deportation program immoral, it will have a severely negative impact on our economy. AS all of you know, we are seeing extreme weather disturbances and devastation in our country and all over the world related to climate change. Think about L.A. Think about North Carolina.)

          เราต้องต่อต้านอย่างรุนแรงกับความบ้าบอเยี่ยงเด็กทารกและลัทธิบ้าบอนี้, ที่เพียงแต่จะทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงอันหลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถานการณ์ภูมิอากาศ ให้ร้ายแรงเลวร้ายลงยิ่งขึ้น. และสิ่งเหล่านั้นเป็นแค่ส่วนน้อยของประเด็นวาระทั้งหลายที่กำลังลงมาหาตามท่อนั้นๆ. แต่เราไม่สามารถแค่เล่นป้องกัน. เราต้องเป็นฝ่ายรุก. (We must vigorously oppose this absurd drill baby drill doctrine, which only make an incredibly dangerous climate situation even worse. And those are just a few of the issues that are coming down the pipe. But we cannot just play defense. We have got to be on the offense.)

          กรุณาอย่าได้ลืมไปว่านั่นเป็นระเบียบวาระชองการประชุมที่เรากำลังต่อสู้เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนกันอย่างกว้างขวาง, ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางโดยครอบครัวชนชั้นกลาง/ชนชั้นทำงานทั้งหลายทั่วทั้งประเทศ และเราต้องดำเนิการต่อสู้ต่อไปสำหรับระเบียบวาระนั้นๆ. (Please never forget that the agenda that we are fighting for is widely supported, widely supported by working families all across this country and we must continue to fight for that agenda.)

          ผูเคนชาวอเมริกันไม่ต้องการให้ตัดโครงการสงเคราะห์เมดิคเอดและการแปรรูปของเมดิแคริ์ พวกเขาเข้าใจว่าการดูแลสุขภาพเป็นสิทธิของมนุษย์, ไม่ใช่สิทธิพิเศษที่มอบให้กัน. เราต้องดำเนินต่อไปในการดิ้นรนต่อสู้เพื่อเมดิแคริ์ เพื่อทั้งหมด เพื่อที่คนอเมริกันทุกคนได้รับการดูแลสุขภาพ ที่เขาและเธอจำเป็นต้องการ. (The American people do not want cuts to Medicaid and the privatization of Medicare. They understand that health care is a human right, not a privilege. We must continue the struggle for Medicare for All so that every American has the healthcare that he or she needs.)

          นั่นไม่ใช่ความคิดรุนแรงสุดโต่ง. นั่นเป็นอะไรที่คนอเมริกันต้องการ. ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำของรัฐบาลกลาง 7.25 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง เป็นค่าจ้างแรงงานอันอดอยาก. เราต้องยกค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำให้เป็นค่าจ้างแรงงานที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ. ที่อย่างน้อยที่สุดคือ 17 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง. ถ้าคุณทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในอเมริกา, คุณควรจะไม่มีชีวิตอยู่อย่างอดอยากยากจน. (That’s not a radical idea. That’s what the Americans want. Federal minimum wage of $7.25 an hour is a starvation wage. We must raise that minimum wage to a living wage. At least $17 an hour. If you work 40 hours a week in America, you should not be living in poverty.)

          และทั่วทั้งประเทศนี้, เรามีวิกฤตใหญ่ในเรื่องบ้าน/ ที่อยู่อาศัย. และมันไม่ใช่แค่เพียง 500,000 ของคนที่ไร้บ้าน. มันเป็นหลายล้านของครอบครัวชนชั้นกลาง/ ชนชั้นทำงาน ผู้ที่ใช้เวลา 40, 50, 60 ปีด้วยรายได้อันจำกัดในการจะได้บ้านมาสักหลัง. (All over this country, we have a major housing crisis. And it’s not just 800,000 who are homeless. It is millions of working families who are spending 40, 50, 60% of their limited incomes on housing.)

          แทนที่จะใช้จ่ายเกือบ 1 ล้านล้านในหนึ่งปีกับความสูญเปล่าและพุงปลิ้นบวมพองของงบประมาณของเพนตากอน, เราต้องสร้างบ้านพักอาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและสามารถจ่ายได้ เป็นนับหลายล้านหน่วย. และเมื่อเราทำนั่น, เราได้เอาผู้คนจำนวนมหึมาทั้งหลายไปทำงานที่ งานทั้งหลายที่ค่าจ้างดีของสหภาพ. (Instead of spending almost $1 trillion a year on a wasteful and bloated Pentagon budget, we have got to build millions of units of low income and affordable housing. And when we do that, we put large numbers of people to work at good paying Union jobs.)

ผมสามารถว่าต่อไปได้อีกยาวยาน, แต่ให้ผมสรุปด้วยการบอกอย่างนี้: สหรัฐอเมริกาเป็นประชาชาติที่มั่งคั่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก. ถ้าเรายืนขึ้นร่วมกันและต่อต้านความพยายามทั้งหลายของฝ่ายขวาสุดโต่งที่จะแบ่งแยกเราขึ้นด้วยเรื่องชาติพันธุ์ของเรา, ด้วยศาสนาของเรา, ด้วยการระบุเพศของเรา, หรือที่ซึ้งเราเกิด, ถ้าเรายืนหยัดกด้วยกัน, ไม่มีอะไรที่เราไม่สามารถทำให้สัมฤทธิ์ผลได้. (I could go on and on, but let me conclude by saying this: The United States is the wealthiest nation in the history of the world. If we stand together and oppose right wing efforts to divide us up by our race, by our religion, our sexual orientation, or where we are born, if we stand together, there is nothing that we cannot accomplish.)

          บรรทัดล่างสุด, เรามาไปข้างหน้ากันและต่อสู้เพื่อรัฐบาลและเศรษฐกิจที่ใช้การได้กับทุกๆคน, ไม่ใช่แค่คนส่วนน้อยสองสามราย. เราแค่ง่ายๆไม่มีความฟุ่มเฟือยของการร้องครวญครางและโหยไห้. (Bottom line, let us go forward and fight for a government and an economy that works for all, not just a few. We simply do not have the luxury of moaning and groaning.)

เราต้องยืนขึ้นและต่อสู้กลับไป. เราสามารถทำมันได้. (We got to stand up and fight back.  We can do it.)

มาไปข้างหน้าร่วมกัน. ขอบคุณอย่างมากครับ. (Let’s go forward together. Thank you very much.)

https://youtu.be/Xqxig5RJ06c?si=VeAZ6wZWSiakBA6V

                 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น