หน้าเว็บ

หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

โภคิน พลกุล - ชำแหละ “สังคมการเมืองไทย”

โภคิน พลกุล - ชำแหละ “สังคมการเมืองไทย”

ชำแหละ "สังคมการเมืองไทย" มองผ่านมุม "โภคิน พลกุล" | คุยนอกกรอบกับสุทธิชัยหยุ่น | 10 ต.ค. 67

          https://www.youtube.com/live/rnrvI5ZbA0U?si=sqHLNKeuFEyktzQH

สุทธิชัย หยุ่น:    วันนี้มาเจออาจารย์โภคิน พลกุลนี่ ต้องคิดถึงความหลังพอสมควร เพราะว่าเราก็รุ่นใกล้ๆกัน เห็นได้ว่าอาจารย์โภคินเป็นรุ่นยังเติร์กนักกฎหมาย รุ่นแรกๆที่ตอนที่ผมทำข่าว ตอนนั้นใช้กันว่าซดกันมันส์เลยก็ได้นะ สัมภาษณ์รุ่นอาจารย์มีชัย มีวิษณุ เครืองาม โภคิน พลกุลเนี่ยะ โอ๋ อยู่ในแวดวง แล้วจะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร? ทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างไร? เราจะป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารอย่างไร? นะครับ.

          จนถึงทุกวันนี้อาจารย์โภคิน เรายังต้องพูดปัญหาเหล่านี้หรือ?

รศ. โภคิน พลกุล1:   ถูกต้องแล้ว.

สุทธิชัย หยุ่น:    ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นประเทศเราไม่ไปข้างหน้าเลยเหรอ?

          1https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A0%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%99_%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5

            รองศาสตราจารย์ โภคิน พลกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และ อดีตรองประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นนักวิชาการและนักการเมืองชาวไทย ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศพรรคไทยสร้างไทย อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคด้านนโยบายและแผนงานของพรรคเพื่อไทย นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)

รศ. โภคิน พลกุล:   ผมคิดว่า ตอนแรกก็เป็นความหวังของพวกเรา วันนี้ก็มีน้องๆยังเติร์กรุ่นใหม่ๆนะครับ วันนั้นเราก็คิดว่า เอ๊ะ ทำยังไงบ้านเมืองมันไม่ถูกสะดุดด้วยการรัฐประหาร เพราะว่าถ้าปล่อยให้เค้าไหลไปเรื่อยๆเนี่ยะ เราอย่าไปว่ากัน ทุกอย่างมันต้องเรียนรู้ แล้วประสบการณ์ที่ไม่ดีเค้าก็จะเปลี่ยนแปลงมัน แต่ส่วนใหญ่คนชั้นนำคนอื่นเค้าไม่เชื่อในสิ่งเหล่านี้ เคามองประชาชนเป็นเหมือนคนที่ว่า เค้าไม่รู้เรื่อง ต้องชั้นเป็นคนlead แล้วคุณก็ฉีกไปฉีกมา ก็ดูเหมือนว่า ความพยายามที่จะแก้รัฐธรรมนูญ ที่ให้มี สสร. ประชาชนเลือกตั้งมาร่างเนี่ยะ มันค่อนข้างจะพูดๆยังงั้นน่ะ แต่ไม่ลงมือทำ เพราะอะไร?

สุทธิชัย หยุ่น:    ผมก็คิดว่า ตอนแรกๆก็ดูเหมือนว่าจะทำแล้วนะ เอา สสร. ซึ่งประชาชนเลือกมา  จะได้เริ่มต้นให้ถูกซะที ไม่ใช่กลัดกรพะดุมเม็ดแรกผิดเนี่ยะนะ ก็ดูเหมือนทั้งพรรคเพื่อไทย ทั้งพรรคฝ่ายค้านเค้าก็เห็นดีเห็นงามกัน แต่พอตั้งรัฐบาลชุดนี้ ดูเหมือนความพยายามนั้นจะค่อยๆจางหายไป.

รศ. โภคิน พลกุล:   ก็ผมไล่ง่ายๆนะครับ พอมีรัฐธรรมนูญฉบับเนี๊ยะ เราก็รู้สึกว่าเป็นฉบับที่มันไม่ได้ตอบโจทย์ประชาชน ผมเนี่ยะตอนนั้นอยู่พรรคเพื่อไทย ก็เป็นคนรณรงค์ทุกอย่าง ยกร่างรัฐธรรมนูญจนกระทั่ง ท่านจำได้ว่าไปถึงในสภาวาระที่ 3 แล้ว ก็มีคนไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ทำได้มั้ย? ขัดรัฐธรรมนูญหรือเปล่า? เอาย่อๆนะ ชาวบ้านจะได้ฟังเข้าใจ ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าทำได้ แต่ไปถามประชามติก่อน เอ้า!

ผมเล่าง่ายๆ กลไกทุกวันนี้นะครับ ก็มาเขียนให้การแก้รัฐธรรมนูญเนี่ยะ แทบจะทำไม่ได้เลย ทำให้เสียงข้างน้อยเนี่ยะ เป็นคนกำหนด ว่าจะแก้ได้หรือไม่ได้ พอเป็นอย่างนี้ปั๊บ เวลาที่เราจะแก้รัฐธรรมนูญ แม้แต่แก้บทบัญญัติที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้อง ไปถามประชามติ แก้อำนาจหน้าที่ศาล อำนาจหน้าที่อะไรๆน่ะ ไปถามประชามติหมด ซึ่งมัน...มันก็คงไม่ทำอะไรแล้ว.

แล้วไอ้กฎหมายประชามติเดิมเนี่ยะ ไปถามเนี่ยะ รอบแรกที่จะถือว่าประชามติใช้ได้นี่ สมมติว่ามีประชากรอยู่ตอนนี้ที่มีสิทธิเลือกตั้งเนี่ยะ 52 ล้านคน เราก็ต้องได้ครึ่งหนึ่ง บวกอีก 1 คน ซึ่งมัน เอาว่า คนนอนอยู่บ้านเนี่ยะ คือคนที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นถ้าจะรณรงค์ไม่ให้คนไปผ่านเนี่ยะ ก็บอก ใครที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องไปออกเสียง นอนอยู่บ้านไป มันก็ไม่มีทางถึงเกินครึ่งหนึ่ง บวก 1 คนแล้ว ถูกมั้ยครับ?

อ้าว! ตอนนี้มาจะแก้ไขใหม่ กลับไม่มีกำหนด เรียกว่า ขั้นต่ำเลย แปลว่า มา 3 คนก็ได้ 4 คนก็ได้ นี่คือ...ก็เลอะเทอะไปกันใหญ่ ประเด็นตอนนั้นที่ผมพยายามผลักดันกึคือว่า เรามาแก้กัน ผ่านสภาหมด พอเป็นยังงี้ ผมก็บอก ถ้าเราไปรอประชามติ ถามครั้งที่ 1 เอาฉบับใหม่มั้ย? ครั้งที่ 2 ต้องถามอยู่แล้วมันบังคับ เพราะว่าคุณไปแก้บทบัญญัติเรื่องนี้ ครั้งที่ 3 ก็ไปถามประชามติอีก ผมก็บอก ก็พอดีหมดวาระ ไม่ได้แก้ แล้วก็วนกันอยู่ยังเงี๊ยะ แล้วมานั่งเถียงกัน ตรงนั้นดีตรงนี้ไม่ดี ผมก็บอกว่า เอายังงี้ ถ้าเอาตามผมเนี่ยะ วันนี้ผมยกร่างใหม่แล้ว ทำประชามติครั้งเดียว เพราะว่าคุณจะไปติดใจอะไรไปทำฉบับใหม่ ก็ทำฉบับเดิมเนี่ยะ แต่แก้ไขเพิ่มเติม โดยที่ เอาเพื่อมันตัดปัญหาทั้งปวงก็ คือไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ซะ ถูกมั้ยครับ? ที่เหลือก็ หมวด 1 มันมีไม่กี่มาตรา เป็นเรื่องอำนาจอธิปไตย ความเป็นรัฐเดี่ยว หมวด 2 เกี่ยงกับองค์พระมหากษัตริย์ หมวด 3 คือเรื่องประชาชนขึ้นไปทั้งนั้นเลย สิทธิเสรีภาพประชาชน บทเฉพาะกาล...(ที่เหลือนั้นแก้ได้หมด - สุทธิชัย หยุ่น)

ก็มาแก้ซะทั้งหมด เลือก สสร. มา พอเราแก้รัฐธรรมนูญแบบนี้น่ะ แล้วก็ไอ้เงื่อนไขบ้าๆบอๆ เช่น ไม่ต้องมี สว. จำนวนหนึ่ง หนึ่งในสาม ไม่เห็นด้วย ก็ตัดทิ้งได้หมด ทำเหมือนมันปกติ อันนี้เป็นประชามติซะรอบ ช่วยกันรณรงค์ว่า ให้ผ่านนะ พอผ่านเสร็จก็ไปเลือก สสร. กันมา เค้าก็มายกร่างเสร็จ พอยกร่างเสร็จ ก็ความเห็นผมเนี่ยะ ไม่ต้องไปถามประชามติอีก เพราะโอกาส ก็กฎหมายประชามติมัน ถ้าไม่มี เรียกว่าอะไร? ขั้นต่ำก็จะดูประหลาด ยิ่งประหลาดไปใหญ่ สมมติมีคนไปลงคะแนนล้านเดียว ได้ 5 แสนกับ 1 คนน่ะ ประชามติผ่าน จากคนมีสิทธิเลือกตั้ง 52 ล้านคน ก็ยิ่งโจ๊กกันไปใหญ่. (เป็นเรื่องตลกมาก - สุทธิชัยหยุ่น) เป็นเรื่องตลกอีก.

คุณจะไปทำตลกนี้ทำไม? ก็ถ้าแบบนี้ แบบปี 39 ก็เพราะไอ้ฉบับปี 40 เนี่ยะ ผมก็เป็นคนตัวหลักเลย เอาไปรัฐสภา ถ้ารัฐสภาเห็นชอบ จบ ไม่ต้องไปประชามติ แล้ววันนี้วุฒิสภาเค้าไม่ได้เป็นคนที่คุณตู่เค้าแต่งตั้งแล้วนี่ ถูกมั้ย? ก็เอายังงี้ ก็ชักชวน ก็ไม่ ก็จะทำประชามติ 3 รอบ แล้วไปแก้กฎหมายประชามติให้มันไม่มีต้องมี chini column คือไม่ต้องมีขั้นต่ำ เท่าไหร่ก็ได้ แต่ยังไม่รู้ ถึงเวลาอาจจะต้องมีก็ได้ แต่มี มีเท่าไหร่ล่ะ?

ปัจจุบันที่มีกฎหมายอยู่น่ะ มันต้องเกินกึ่งหนึ่งมาคนนึง เอามาคนนึง เอ้า คุณจะเอาเท่าไหร่ 1 ใน 3 รึ? ให้เห็นว่าเป็นประชามติ2น่ะ มันต้องได้พอสมควร นะ ไม่งั้นมันจะเป็นไปได้ยังไง  

2https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4

สุดท้ายก็ว่าไปว่ามา ว่าไปว่ามา ไปปนกับเรื่องนิรโทษกรรม ที่ผ่านมาอีก เอา 112 มั้ย? คือพันกับเรื่องพวกนี้ซะจนหมด จนกระทั่ง ไม่ได้จะทำอะไร ไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเลย เนี่ยะปัญหานี้มันก็เกิด ในที่สุด  ก็ไม่ทำ.

แล้วก็มาแจกเงิน เอ้าแจกก็แจก กระบวนการจะแจก แต่จะถามว่า คนอยากได้ คนลำบาก ถามว่า แต่พอแจกด้วยวิธีอย่างเนี๊ยะ หรือจะแจกเป็นดิจิตอลอะไรต่อไปอะไรก็ตามแต่เนี่ยะ มันหมุนจริงหรือไม่? ผมว่ามันอาจจะไม่หมุนอะไรมากมายล่ะ คือช่วงเวลาต่างๆ มันผ่านที่คุณจะลงให้คนตั้ง 50 ล้าน เพื่อจะกระจายบกระตุ้น ตอนนี้มันก็ไม่ได้หมุนไปหมุนมาหมุนมาปีนึงละ เห็นภาพมั้ยครับ?

ผมว่าสิ่งเหล่าเนี๊ยะ ถ้าผมพูดตรงไปตรงมานะ เหมือนคนที่รับผิดชอบน่ะเห็นแก่ตัวทั้งนั้นเลย.

สุทธิชัย หยุ่น:    เพื่อกุมอำนาจอยู่ เพื่อไม่ให้หลุดจากอำนาจ เพื่อไม่มีใครมาท้าทายได้.

รศ. โภคิน พลกุล:   ผมไม่ทราบว่า ทำไมเป็นยังงี้ ถ้า...ถ้าถามผมนี่น่ะครับ ถ้าผมเป็นนักการเมือง หรือจะเป็นอาจารย์อะไรก็ตามแต่ สิ่งที่ผมทำอันเนี่ยะ อยู่พรรคเดียวกับคุณหญิงหน่อยเนี่ยะ จะพรรคเล็กมันไม่สำคัญ ผมก็พูดกับน้อง ๆ ทุกคนว่า เราต้องมีปรัชญา หรือเป้าหมายนะ ถ้าจะทำอะไร? ถ้าถามผม ผมก็บอกว่า ปรัชญาของผม เป้าหมายของผมก็คือ ทำยังไงจะให้คนไทยทุกคนเนี่ยะ เรามีความรู้สึกเราเป็นพี่น้องกัน เราช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ถ้าเราสร้าง เค้าเรียกว่า mindset คือความรู้สึกนึกคิดไม่ได้ มันก็จะเลอะเทอะอย่างเนี๊ยะ

          เอ้า ถ้าทำอย่างนี้คุณต้องทำยังไงต่อ? ผมก็บอก ดังนั้นเป้าหมายเราก็คือ คนไทยทุกคนตั้งแต่เด็กในครรภ์ จนคนสูงวัยเนี่ยะ รัฐต้องดูแล ให้เขามี เราในรัฐธรรมนูญเราบอกต้องมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะมีศักดิ์ศรียังไงถ้าเค้าต้อง คิดว่าพรุ่งนี้มีกินมั้ย? ลูกเข้าโรงเรียนมีชุดให้มั้ย? ผมก็บอกว่าให้...(หรือว่าแบมือรอให้รัฐบาลแจกให้ - สุทธิชัย หยุ่น).

          ถูก...มันไม่มีศักดิ์ศรีหรอก ศักดิ์ศรีคือเค้าพร้อมจะทำมาหากินเค้าเอง มากน้อยแต่เค้าภูมิใจ เค้าทำ เราต้องปลุกคนขึ้นมาอย่างนี้ เอาถ้าปลุก ผมบอกว่า...เราต้องให้โอกาสเค้าก่อนที่ไม่ให้เค้าไปจมกับ อะไร ไอ้พนันออนไลน์ ยาเสพติด ไอ้บุหรี่เหล้า เพราะว่าเค้า...ที่อย่างนี้มันเกิดปัญหาพวกเนี๊ยะ หรือแม้แต่ค้ามนุษย์ เค้าไม่มีท่างเลือกแล้ว เค้าเครียด เค้าคิดไม่ออกหรอก เค้าก็ไปบ้าๆบอๆอย่างเนี๊ยะ ซึ่งน่าสงสาร.

          ดังนั้นถ้าเราปรับระบบมันใหม่ คุณสุทธิชัยครับ เด็กในครรภ์เนี่ยะ เอาไปเลย 3,000 บาท เรา 5 ขวบ เราให้เข้า ป.1 ได้ละ มัธยมประถมเนี่ยะ เรียนทำไม 12 ปี เราเริ่ม 6 ขวบ กว่าจะไปจบเอา 18 วันนี้ผมถามคุณสุทธิชัยว่า ความรู้อยู่ที่ไหนครับ? มันอยู่ในอากาศหมด ครูก็ใช้แอพ ของgoogle ทุกคนทำกัน การบ้งการบ้านใช้ AI ช่วยกันหมด เราอย่าไปหลอกตัวเอง ดังนั้นความเห็นผมก็คือ ประถมมัธยมเนี่ยะ เอาซัก 10 ปีพอมั้ย? แล้วเด็กเข้าเรียน 5 ขวบ เด็ก 15 จบ ม.ปลาย มหาวิทยาลัย 16-17 หลักสูตรสั้นๆก็พอละ แพทย์เรียนทำไมตั้ง 6 ปีอ่ะ? เดี๋ยวนี้ UN ที่ซูดานผม ดูเค้าลดลงมาเหลือ 5 ปีละ ต่อไปก็อาจจะเหลือ 4 ปี คือคนเนี่ยะ (ก็ความรู้หาได้ง่าย - สุทธิชัย หยุ่น) ถูก แล้วมีเยอะที่จะเลือก แต่ที่สำคัญคือประสบการณ์ แล้วก็การทำงานร่วมกันอย่างพี่อย่างน้อง เราต้องปั้นสิ่งนี้ขึ้นมา.

          แล้วเมื่อเราทำอย่างนี้ปั้บ คุณสุทธิชัยดูสิครับว่าต่อไปนี้ แรงงานมันขาดช่วงละ แล้วเด็กรุ่นใหม่เนี่ยะ ก็มีความรู้สึก กระแสกำลังเกิดทั่วโลกก็คือ เฮ้ยชั้นไม่ซื้อบ้าน ชั้นก็เช่าอยู่ ชั้นก็ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ ดังนั้นเราต้องปลุกขึ้นมาว่า ว่าเฮ้ยเราต้องทำนะ ทำเพื่อใคร? หนึ่งตัวเองต้องทำละ สองก็เพื่อพี่น้องของเราด้วย ถ้าเราจะอยู่ในสังคมที่เราเรียกว่า comfort มันสบายไง เราสบายคนเดียวไม่ได้ พี่น้องสบายด้วยกัน เราต้องปลุกอันนี้ขึ้นมา เขาต้องจะมีพลัง ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง แต่เค้าจะทำเพื่อพี่น้อง ของเค้าทุกคน ไม่ใช่ญาติโยมในบ้าน พี่น้องคือคนไทยด้วยกัน ถ้าเราสร้างอย่างนี้ได้

ผมก็ถามต่อ เนี่ยะนั่ง debate กันอย่างนี้นะครับ แล้วเราให้เท่านี้แล้ว คุณสุทธิชัย เค้าก็ไม่ต้องไปกู้ กยศ. เพราะว่าเมื่อเวลามันสั้นลงเนี่ยะ เค้าทำอะไรฮะ? รัฐไปดูแลเค้าแค่ 17-18 ปีเนี่ยะ เค้าจบปริญญาตรีแล้ว ถ้าเค้าจะจบ ขณะที่หลักสูตรเราก็ปรับปรุงซะ เน้นเรื่องของประสบการณ์ เรื่องการทำงานต่างๆ ให้มันบวกกับวิชาการ ให้มันมากขึ้น เผลอๆ 50-50 เลยก็ได้ มหาวิทยาลัยโรงเรียนต้องไป 5 วันมั้ย? อาจจะไม่จำเป็น เนี่ยะ 3 วันก็พอ มันก็ออนไลน์ได้อะไรได้หมด ถูกมั้ยครับ? ตรงนี้ก็จะมีข้อดีด้วย สมมติว่าพ่อแม่ขายก๋วยเตี๋ยวไก่ ขายบะหมี่ ลูกก็ช่วยได้ถ้า 10 กว่าขวบ.

แล้วถ้าประสบการณ์ ทำไมจะต้องไปฝึกงานโรงแรม 5 ดาว ก็ไปเรียนรู้จากคนทำข้าวมันไก่ตรงนี้ ก๋วยเตี๋ยวไก่ตรงนี้ พัฒนาตรงนี้ กินประเทศกินโลกมันมั่งสิ ถูกมั้ยครับ? แล้วเด็กถ้าเค้ามี พูดง่ายๆเค้าเรียกอะไร passion คือความมุ่งมั่นขึ้นมาแล้วเนี่ยะ เค้าหาความรู้เค้าเองนะ เราต้องปลุกคนแบบนี้ขึ้นมา ไม่ใช่ไป เอาเงินไปแจก แล้วเอาไปนั่น มันไม่มีความหมายเลย ถูกมั้ย? มันยิ่งไปตอกย้ำ ความยากจนเค้าลงไปอีก.

พอเราทำอย่างนี้เสร็จหมด คุณสุทธิชัยลองนึกภาพนะ บ้านเมืองมัน คนมันทะเลาะมันต้องมีกันบ้าง แต่เค้าจะมองไปข้างหน้ามากกว่าจะมองปัญหา วนๆเวียนๆกันอยู่อย่างเนี้ยะ ไม่เดินไปซักที ผมจึงคิดว่า ต่อไปนี้อยากเห็นหรือนักการเมือง มองอันนี้เป็นหลัก อย่าไปมองว่าเราจะหาเงินไว้เยอะๆ ไปซื้อเสียง อยากเอาเศรษฐีคนนู้นนายทุนคนนี้ มา backup เรา แล้วมันจะสร้างความแตกแยกทั้งสังคม ผมอยากเห็นอย่างนี้ วันนี้ผมก็มาถึงเท่านี้ เราก็เหมือนรุ่นเดียวกัน อยากจะฝากต่อไปให้รุ่นหลังๆ เอาสิ่งนี้ไปทำเถอะ.

สุทธิชัย หยุ่น:    การเมืองแบบใหม่ที่อาจารย์เห็น พยายามมองพยายามสร้างเนี่ยะ มันจะเกิดได้มั้ย? อะไรเป็นอุปสรรค ตอนนี้เราพูถึงแม้กระทั่งเรื่อง แก้รัฐธรรมนูญประเด็นจริยธรรมเนี่ยะ เป็นเรื่องใหญ่เลยเห็นมั้ย? แล้วมันจะนำไปสู่การเมืองที่สะอาดขึ้น การเมืองที่โปร่งใส ขึ้นได้ยังไง?

รศ. โภคิน พลกุล:   มันไม่มีหรอกครับ ยิ่งคุณไปทำไปสร้างกฎเกณฑ์ คุณไม่ได้สร้างเพื่อให้ทุกคนเนี่ยะ ปฏิบัติได้ คุณสร้างเพื่อเอาไว้เล่นงานใครคนใดคนหนึ่ง ถูกมั้ยครับ? มันก็ยิ่งตอกย้ำความไม่เป็นธรรม ตอกย้ำสิ่งที่มันเป็นปัญหาตลอดเวลา แต่ไม่ใช่แปลว่า ไม่ต้องมี ไม่ใช่ประเด็นอย่างนั้นนะ คือเราพูดกันน่ะ คือมันต้องมีอยู่แล้ว แต่เวลาคุณมีอำนาจ คุณก็ปล่อยให้คนไม่มีจริยธรรมมาบริหารได้ พอวันนี้มันก็ย้อนกลับมา อ้าว ตอนนี้เกิดไม่ได้ ถูกมั้ยฮะ? มันก็เลยกลายเป็น ไม่รู้ต้องทำอะไรกันแล้วล่ะ

งั้นผมว่า หันมาทำอย่างที่ผมเรียนมาตอนต้นก่อน อันนั่นคือพื้นฐาน เมื่อความรู้สึกเรามีเนี่ยะ แม้จะเถียงกัน ไม่ดีต่อกันในหลายเรื่อง แต่ยังรู้สึกเป็นพี่น้อง ยังรู้สึกว่า เราทำงานทุกวันนี้ ไม่ใช่เราเท่านั้นนะ ผมกำลังทำให้พี่น้องทุกคนที่นี่ด้วย เราเดินไปด้วยกันนะ ทำไมจะสร้างไม่ได้ อยากเห็นคนรุ่นใหม่ๆเนี่ยะ ไม่ใช่ว่าเราจะไปชนอันนู้นชนอันนี้ชนอันนั้น มันไม่ได้แก้ปัญหา มันต้องปลุกให้คนรู้สึก อยากอยู่ร่วมกัน แล้วก็ไม่ใช้ไปเรียนหลักสูตรเพื่อหา network เพราะพวกตัว อ่า จะตั้งรัฐมนตรี จะตั้งอะไร ก็เอาพวกเรียนหลักสูตรเดียวกันเข้ามา มันเลอะเทอะอ่ะ แล้วดเราก็ มันทำให้ยิ่งเห็นแก่ตัว ยิ่ง corrupt หนักเข้าไปอีก.

งั้น ตอนนี้คนต้องการมั้ย? ต้องการ network ใช่ แต่ไม่ใช่ network ที่มัน smart มันต้องเป็น network เพื่อพี่น้องทุกคน และเราด้วย ผมว่าถ้าเราทำอย่างนี้ได้น่ะฮะ เมืองไทยจะเป็น model ที่น่ารักมาก แล้วมันสามารถทำได้ เพราะ nature คนไทยเนี่ยะ เป็นคนมีเมตตา เป็นคนชอบช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้ว ไม่ ไม่เห็นแก่ตัว แต่เรากำลังสร้างคนให้เห็นแก่ตัว แล้วก็เห็นแก่พวกพ้อง มันเป็นอย่างนี้หมด.

สุทธิชัย หยุ่น:    ระบบอุปถัมภ์เนี่ยะ มันจะเลิกได้ยังไง? คนรุ่นใหม่มองการเมือง ก็อีกแบบนึงนะ เท่าที่ผมสังเกต คนรุ่นใหม่เค้าจะให้ความสำคัญเรื่องความ โปร่งใส เรื่องของสิ่งแวดล้อม เรื่องของความถูกต้อง อาจารย์เห็นโอกาสความเปลี่ยนแปลง ไหม?

รศ. โภคิน พลกุล:   มันมีนะครับ แต่มันไม่ไปทั้งระบบ ก็เราดูสิ่งแวดล้อมสิฮะ เห็นมั้ยฮะ? ที่มันเกิดวิกฤติ น้ำท่วมดินถล่ม ก็มนุษย์ เค้าเตือนกันมาเป็นสิบๆปี ถามว่ามันดี มันไม่ดีขึ้น เพราะมีคนเห็นแก่ตัวตลอดเวลา ฉันจะขอผ่านไปที อันเนี๊ยะผมถึงว่ามัน ระบบการศึกษา คุณต้องปลุกจิตวิญญาณอันนี้.

ผมยังชอบจีนนะ เค้าจะดีไม่ดี อย่างจีนเค้าก็บอกว่า เราต้องมาสร้างประชาคมของเชื้อชาติที่เรามาแบ่งปันกัน เพราะโลกมีอันเดียว ถ้าคุณอยู่แบบแบ่งปันไม่ได้ มันอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก ถูกมั้ยครับ? แต่วันนี้ ก็พยายามแข่งขันกัน จะเอาแพ้ชนะกัน ถามว่า แล้วมันได้อะไรขึ้นมา? ผมจะบอกว่า เนี่ยะ วันหนึ่งสงครามยูเครนก็ต้องยุติ แบบไหนก็ตามแต่ แต่อย่างน้อยก็มันก็ต้องยุติ ถ้าไม่ยุติสงครามโลกก็จบด้วยกันหมดนะ ถ้าใช้นิวเคลียร์ แต่ถ้ายุติแล้วถามคนที่บาดเจ็บที่ตายที่ลำบากมหาศาลเนี่ยะ ตอบโจทย์อะไรครับ? สงครามเวียตนามตอบโจทย์อะไร? ในกาซ่า ในเลบานอนแบบเดียวกันน่ะ.

แต่มนุษย์กำลังทำอะไร? ปล่อยเค้า แต่เรามาสร้างของเราตัวนี้ แล้วจริงๆเราไม่ได้หนักหนาอย่างนั้นครับ ผมเชื่ออย่างเดียวว่า การสร้างความรู้สึก ภาษาอังกฤษเค้าเรียก brotherhood system ความเป็นพี่เป็นน้อง ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน สร้าง network จากหัวใจ ไม่ใช่ไปหกา network ตามหลักสูตรต่างๆ เพื่อไปเอาเปรียบคนอื่น ผมว่าเราต้องช่วยกันละ ถ้าเราทำวันนี้ได้น่ะฮะ เหมือนอย่างจีนน่ะ วันนี้ทำกระแสมาล่ะ ไม่อวดรวยละ แอนตี้ของฟุ่มเฟือย มันก็เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลผลักดันเต็มที่.

ทีนี้ถ้าคนไทยไม่อวดรวยกันสิ อวดรวยอวดน้ำใจไมตรีที่จะมีต่อกัน อวดการแบ่งปันกัน คุณสุทธิชัยลองนึกภาพ มันแป๊บเดียวนะครับ เพราะมันอยู่ในหัวใจคนไทยอยู่แล้ว เราไม่เอาสิ่งนี้ขึ้นมา เรากลับเยาะเย้ยถากถางกันไปกันมาตลอดเวลา ให้...

สุทธิชัย หยุ่น:    ค่านิยมเนี่ยะ ค่านิยมเดิมที่เคารพคนมีสตางค์ แล้วก็อุปถัมภ์ พรรคพวกของเรา สำคัญกว่าสังคมทั่วไปเนี่ยะ มันแก้ยาก. (คำว่าแก้ยากน่ะ – คือคำแก้ตัวของผู้ที่ไม่ยอม/ไม่อยากแก้...สุทธิชัย หยุ่น นี่น่าเบื่อมาก...พูดเอ่ยทำเสียงขัดแทรก ความที่ผู้อื่นเค้ากำลังพูด...ทำลายบริบท/สิ่งแวดล้อม-น้ำเสียงอันงดงาม ของท่านโภคินฯตลอดเวลา - ผู้ถอดความ)  

รศ. โภคิน พลกุล:   นี่ล่ะครับ พวกเราต้อวงช่วยกัน แล้วก็น้อง ๆที่จะเรียนอยู่ ไม่ว่าในมหาวิทยาลัย หรือนักการเมืองรุ่นเยาว์ทั้งหลาย จนกระทั่งเด็กประถมมัธยมเนี่ยะ ปลุกอันนี้ขึ้นมาสิฮะ ถูกมั้ยครับ? ถ้ามันปลุกอันนั้ขึ้นมา รัฐบาลเอานี้ไปไปปลุกมั้ย? เพราะคนได้ประโยชน์คือคนไทยทั้งหมด ปทนที่เค้าจะไปไร้สาระ เค้าจะขึ้นมายืนเพื่ออยากโอบอุ้มพี่น้องเค้า.

          ผมเชื่อว่าด้วยวิธีนี้วิธีเดียวอ่ะครับ พรรคการเมืองแบบไหนก็ได้ แต่คุณมีอันนี้เป็นปรัชญาได้มั้ย? ที่เหลือคุณมาดูสิว่า จะบริหารประเทศ อย่างสมมติว่าผมเนี่ยะ ผมดูยุทธศาสตร์ 5 ด้านนี่ ดูแล้วเวียนหัว เราคิดจะบอก ความจริงประเทศไทยเนี่ยะ ต้องเก่งแค่ 4 อย่าง

1. อาหาร อาหารก็ตั้งแต่ข้าวเป็นเมล็ดเนี่ยะ ข้าวเปลือกจนกระทั่งแปรรูปแบบไหนก็ได้ หรือไปทำข้าวมัรนไก่ อะไร คุณต้องเก่งเรื่องอาหาร

2. คุณต้องเก่งเรื่องสุขภาพ

3. คุณต้องเก่งเรื่องท่องเที่ยว

4. ใช้ location ของประเทศให้เป็นประโยชน์ เ วันนี้คุณจะทำ land bridge ก็ดูเทียบกับคลอง ในระยะ 3-4 50 ปีข้างหน้า อันไหนได้ประโยชน์มากกว่ากัน แต่ไม่ใช่คิดเพียงแค่ 10-20 ปี เอาประโยชน์เฉพาะหน้า.

3 ตัวแรก คุณสุทธิชัยครับ มันเกื้อกูลซึ่งกันและกันหมดเลย อหาร สุขภาพ ท่องเที่ยว แล้วที่ไหนจะทำสู้ประเทศไทย เงินที่มีจาก R & D น่ะ ก็เอามาโฟกัสเหล่านี้ให้หมด เราปลุกคนตัวใหญ่ คนตัวกลาง ร่วมมือกับคนตัวเล็ก สมมติว่า อาหารเนี่ยะคุณจะทำ ผมไม่รู้ละ จะข้าวหมูแดง ข้าวผัดอะไร ไปสู้กับพวกของฝรั่งทั้งหมดทั้งหลาย (เราไม่แพ้ - สุทธิชัย หยุ่น) ไม่แพ้ แต่คุณต้องมาทำ research and development มาทำ R & D มาค้นคว้ากันซิว่า ทำยังไง จะ pack ยังไง อุ่นยังไง ทุกอย่างมันต้องอาศัย การทดลองการทำไป ภาครัฐก็มาช่วยอันนี้หมด ถูกมั้ยครับ?

แล้วถ้าเด็กคนไหนที่เห็นว่า ชั้นก็เป็นเชฟที่ยิ่งใหญ่ ชั้นสามารถทำข้าวหมูแดงให้ยิ่งใหญ่ในโลกได้ เอ้า ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ก็ของฝรั่งเค้าทำอะไร? ไม่เห็นจะมีความลึกซึ้งเท่า วัฒนธรรมพวกเราเรื่ออาหารเลย เราทำอย่างนี้ไปขาย มันจะไปขายมันก็ต้องดูว่า โลกเค้าอยู่ตรงไหน? เค้าต้องการอะไร? คุณจะ present ยังไง? ถามว่า คุณมีวิจัยตรงนี้มั้ย? การทดลองตรงนี้มั้ย? การ back up คุณสร้างขึ้นมา ไทยมีอันนี้ที่เราเรียก soft power เยอะด้วย แต่คุณแค่ไปนุ่งกางเกงช้าง ใส่แล้ว...สร้างภาพนั่น มันก็ใช่ แต่มัน...มันเป็นเรื่องของ drama มากกว่าจะลงไปจริงๆ

ไปปั้นเลย ร้านไหนทำข้าวมันไก่เก่ง เอาเด็กที่สนใจไปเรียนมั้ย?

สุทธิชัย หยุ่น:    แต่รัฐบาลต้องสนับสนุนไง

รศ. โภคิน พลกุล:   มันง่ายมากเลย มันมีอยู่เต็มไปหมด แต่คุณไม่เอาไป connect กัน ไม่เอาไปติดต่อกัน

สุทธิชัย หยุ่น:     ไม่ต้องใช้งบประมาณมากด้วยนะ

รศ. โภคิน พลกุล:   โห มันจี๊ดเดียว เผลอๆเนี่ยะ ร้านเค้ารู้ ปีนี้เค้าอาจจะรับเด็กเท่านี้ มาจากบ้านนอกมั่งก็ได้ พอเด็กเค้ากลับไปอยู่บ้านนอกเค้า สมมติว่ามาเรียนรู้ช่วงปิดเทอม เค้าก็ไปทดลองทำ พ่อแม่ก็ต้องปลื้มใจละ แทนที่ลูกจะมัวแต่เล่น social เค้าเล่นจริง เค้าเล่นเป็น search ดูละ สมมติทำข้าวมันไก่ เอ้ย สิงคโปร์มันดัง มันต่างยังไง?

สุทธิชัย หยุ่น:      ใช่เค้าเล่น social เป็น อย่างเป็นสาระ เข้าหาข้อมูล.    

รศ. โภคิน พลกุล:   ถูก. ทุกวันนี้ เล่น social ไร้สาระ  เสียเป็นส่วนใหญ่ ถูกมั้ยครับ? แล้วก็นั่งติด อะไรอย่างเนี๊ยะ เราต้อง นี่แหละ ความรู้มันอยู่ในนี้ แต่แทนที่คุณจะใช้ mechanism หรือกลไกอันนี้ คุณไปใช้ทำลายตัวเอง คุณไม่ได้สร้างตัวเอง เราต้องปลุกทุกคนขึ้นมาว่า โอ้โห วันนี้คนรุ่นเรา ดูสิแต่ก่อนพิมพ์ดีดก๊อกแก๊กๆ ...(ใช่ ใช่ เรายังรอดมาได้เลยนะ - สุทธิชัย หยุ่น) เอ่อ แล้วก็มานั่งเขียน นั่งตลอดเวลา...

สุทธิชัย หยุ่น:      อย่างที่อาจารย์เรียน ตอนเนี่ยะ อาจารย์เป็นทนายความหรือว่าเป็น...แม้กระทั่งตอนเล่นการเมืองใหม่ๆ ก็ยังพิมพ์ดีดอยู่นะ.

รศ. โภคิน พลกุล:   พิมพ์ก็ ก็ทำผมปริญญาเอกที่ฝรั่งเศสน่ะ ก็มีพิมพ์ดีดโอลิมเปียเล็กๆ ก๊อกแก๊กๆ อยู่อย่างเนี๊ยะ พิมพ์ส่งงานให้อาจารย์...(วานเยอะ หนักมาก กระดาษกี่ใบ – สุทธิชัย หยุ่น) โห เรียกว่า (ควสามอดทนเราสูงมากนะ ถ้าย้อนกลับไปเนี่ยะ – สุทธิชัย หยุ่น) โห เอาว่า 24 ชั่วโมงนี่ เอา ไม่นับนอนประมาณ 6-7 ชั่วโมงนะ ทำงานจริงน่ะ ยิ่งตอนเขียน thesis น่ะ 14-15 ชั่วโมงต่อวัน จนคอปวดอ่ะ มันต้องทำเพราะว่ามันไม่มี...             

สุทธิชัย หยุ่น:      สมัยนั้น ทำวิทยานิพนธ์น่ะ ต้องไปห้องสมุดนะ เปิดหนังสือ...                

รศ. โภคิน พลกุล:   ถูก ผมเข้าห้องสมุด  3...3 ห้องสมุดนี้เค้ามีตำราเยอะ thesis เยอะ อันนี้ นิตยสารเยอะ อันนี้ อะไรเนี๊ยะ ต้องไปดู เข้า อย่างเนี๊ยะ จด จด เพราะว่าจะcopyก็ มันแพง...(ไม่มีเครื่องxerox - สุทธิชัย หยุ่น) แล้วตอนหลังถึงมีก็ แผ่นนึงไม่ได้ถูกๆ ใช่มั้ยฮะ? เดี๋ยวนี้แบบ (search แป้บเดียวมาหมด - สุทธิชัย หยุ่น) มาหมดละ พอมีเอาไปตรวจที่บ้านก็จบละ.

สุทธิชัย หยุ่น:      ฉะนั้นมันน่าจะง่ายขึ้นนะ ในการสร้างปัญญา ในการหาความรู้ ในการสร้างให้เกิดคนที่ มีภูมิปัญญา เพราะมันห่ได้ง่ายขึ้น...(ปัญญามันหาได้วง่าย ด้วยคอมพิวเตอร์/network นี่อ่ะนะ? - ผู้ถอดความ)  

รศ. โภคิน พลกุล:   ครับ ก็วันนี้ผมก็ยังเงี้ยะ คุณสุทธิชัย แม้แต่ข่าว แม้แต่ฟุตบอล เราก็ชอบดู มันถ่ายทอดสด ทีนี้ผมขี้เกียจดู มันต้องบางทีก็เป็นตี 2 ตี 3 เราทำร้ายตัวเอง ก็ต้องปรับ mindset ใหม่ พรุ่งนี้เดี๋ยวเค้าสรุป ก็มาดูเค้าก็ได้...หรือของคุณสุทธิชัย ผมก็ดู ใช่มั้ย? แล้วดู บางทีสมมติว่า ตรงนี้เราไม่สนใจมากนัก ก็ forward ไป ไปเอาคีย์ตรงนี้ๆ สมมติclipคุณสุทธิชัย ครึ่งชั่วโมง ผมอาจจะดูแค่ 10 นาที getละ นี่คือความรู้ที่เราได้ แล้วจะทำอะไร? นี่ ผมจะทำอะไรผมก็เปิดดูเนี่ยะ ดูแล้วดูอีก ดูแล้วดูอีก จนกระทั่ง คิดว่าตกผลึกระดับหนึ่ง แล้วก็ทดลอง ถ้าเด็กทำอย่างนี้หมดเนี่ยะ โอ้โห ผมว่าโลกโคตรเลย (ไปได้ไกลเลย - สุทธิชัยหยุ่น) ถูกฮะ แล้วจะเอาภาษาอะไรอ่ะ?

สุทธิชัย หยุ่น:      นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้อาจารย์ เรื่องตั้งพรรคการเมืองนี่แหละ ใช่มั้ยครับ?

รศ. โภคิน พลกุล:   ผมก็จะทำจนกว่าผมจะทำไม่ไหวนะ ไม่ต้องการไปมีอำนาจ เพื่อไปเห็นแก่ตัว แต่อยากเห็นพี่น้องเนี่ยะ เค้าเติบโตเพื่อ เรียกดูคนในบ้านเราน่ะ แม่คงแม่ครัวคนขับรถเราต่างๆนี่อ่ะนะ ลำบากทุกคนนะ บางทีเราถาม เอ้า ลูกเป็นไง? คนนี้เป็นไง? นั่นเป็นไง? ทุกคนมีปัญหาหมด แล้วทุกคนเล่นมั้ย? หนึ่งเล่นหวย สองอะไรก็ได้ที่ชั้นคิดว่าใครมาหลอกชั้น แล้วชั้นจะได้เงินง่ายๆ แบบไร้สาระเนี่ยะ เอาหมดนะ อ้าว อย่างเราดเนี่ยะ มีคนมาลงทุนกะเค้ามั้ย? ได้ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน คุณจะกล้ามั้ย? มันเป็นไปไม่ได้ ธุรกิจอะไร? แต่ชาวบ้านเนี่ยะ ทันที ทันที.

ตรงนี้แหละที่รัฐต้องบอก ในโลกอย่างนี้ไม่มี คุณต้องทำ แต่เมื่อคุณทำ ผมปรับระบบ ผมมีให้เลย คุณเอาไปเลย แล้วใช้เงินจี๊ดเดียว แม้แต่เรื่องแจกเงินเนี่ยะ ตอนนั้นคุยกับคุณหญิงหน่อยเนี่ยะ คุณหญิงสุดารัตน์ ก็บอก เราจะไปแจกทำไม? วันเนี๊ยะคนมันเป็นทาสของไอ้พวกหนี้นอกระบบ ผมก็เลยมาคิดว่า ถ้าสมมติเราเอาเงินจากคนรวยมา เล่าตรงนี้นิดนึง วันนี้ทั้งโลกก็เหมือนกันหมดละครับ เงินมันล้นโลก แต่มา ออกมาเท่าไหร่มันก็ไหลไปหาคนรวยหมด เอ้า เราไปดูสิ ที่เค้าทำวิจัยออกมา ยามที่ทุกข์ยากหมด คนรวยยิ่งรวยขึ้น ไอ้จนมันจนลงไปเรื่อย คือแบ็งค์ชาติก็เพิ่งพูดใช่มั้ยฮะ? คนรวย 5%น่ะ ครอบครัว wealth 85% แล้วเหลืออีก 15 มันคนตั้ง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ มันก็จนกันหมดสิฮะ ถามว่าคุณจะกระจาย wealth ยังไง? ไม่ใช่ไปเพิ่ม GDP

แต่ผมว่าเค้าพูดถูก แต่ทำอย่างไร? คุณจะเพิ่มศักยภาพเค้าในการหาเงิน แต่วันนี้ที่ผมมาดู SME นั่นแหละครับ เชาเข้าไม่ถึงแหล่งเงิน ร้อยละ 80  - 90 เลย เพราะว่าเค้าไม่มีหลักประกันอะไร จะไปหาธนาคารได้ เห็นมั้ย? ครั้งก่อนที่ออกไอ้ พรก.มา 5 แสนล้าน ถามว่า กู้ถึง 3 แสนมั้ย? ไม่ถึง อยู่ในธนาคารหมด (เพราะว่าคุณสมบัติไม่เข้า – สุทธิชัย หยุ่น) ก็มันไม่เข้า ผมก็เลยคิดว่า ถ้าอย่างงั้นเนี่ยะ เราแจกคนละหมื่น เอาซัก 30 ล้านคนก็ได้ นะ เอาคนที่ แล้ว แต่คุณมีหน้าที่ ใช้เงินต้นกับดอกเบี้ยคืน คิดร้อยละ 1 ต่อเดือน เอา 12 ต่อปี แล้วตอนแรก...(เอาไปลงทุนน๊ะ - สุทธิชัย หยุ่น) ก็แล้วแต่ อาจจะมีคนเอาไปเล่นบ้าง แต่ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เนี๊ยะ เอาไปทำประโยชน์ (แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ย เพื่อคุณรับผิดชอบ - สุทธิชัย หยุ่น) ก็ เราต้องสร้างความรับผิดชอบ แต่เค้าพอไปเจอนอกระบบเนี่ยะ แค่ไปยืมพันบาทเนี่ยะ ร้อยละ 200 40 ต่อปีนี่มัน มันกลายเป็นกี่พันก็ไม่รู้ละ ถูกมั้ย? แต่ถ้าคุณเอาไปอันนี้.

ผมก็มาคิดดู ถ้ารัฐบาลออกพันธบัตร บอกให้ดอกเบี้ยร้อยละ 3 คุณสุทธิชัยว่า 5 แสนล้านนี่หมดใน 3 นาทีมั้ย? เพราะวันนี้เอกชนดีๆ นั่นก็ 3 โดยประมาณ ไอ้ 7 นี่ก็หวาดเสียว คือ 7 นี่หวาดเสียว ไม่มี rating ก็ยังงี้หมด หมดปั้บ เอามาแจก แล้วเราไปเป็นขั้นตอน ถ้าคุณรักษาเครดิตได้ 6 เดือน เดี๋ยวคุณกู้เพิ่มอีกหมื่นนึง 1 ปีคุณกู้ได้อีก 2 หมื่น อย่างงี้เขาไปทำธุรกิจ SME เล็กน้อยก็ได้ maximum ให้แสนนึงเลย คน ให้ไป 30 ล้านคน เอ้า ชักดาบซัก 5 ล้านคน มันยังสูสีนะ เราให้ทดลองดู แล้วพอเราดูว่า สมมติเราจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 3 ให้ธนาคารของรัฐไป run เรื่องเนี๊ยะ เค้าก็คำนวณ เค้าบอกอย่างมากอีกร้อยละ 2 แปลว่า เรามีต้นทุนอยู่ร้อยละ 5 เอาร้อยละ 10 เรายังกำไรร้อยละ 5 นะ 5 ถูกชักดาบไปบ้าง เค้าบอก ปีแรกขาดทุนนิดหน่อย พอ 2 3 4 มันจะมีกำไรละ เป็นหมื่นล้านด้วยซ้ำ เอาไปเติมได้อีก แต่ประชาชนเนี่ยะจะรู้ว่า รัฐบาลคือธนาคารของเขา ชั้นไปกู้มาให้เธอ แต่เธอใช้ชั้น.

แล้วเราก็ไปดูจากกองทุนหมู่บ้านน่ะ NPLต่ำของธนาคารนะ ความรู้สึกต่อความรับผิดชอบของเขา แล้วเป็นอันนี้ คือเราต้องกล้าเชื่อว่า คนส่วนใหญ่เค้าอยากทำถูกต้องนะ คนไม่ดี คนเลอะเทอะก็มี อันนี้ก็เป็นภาระไป แต่มันไม่ใช่คนทั้งหมดมันเลอะ ถ้าเราทำอย่างนี้ แล้วก็กฎระเบียบการอนุมัติอนุญาตที่เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดเนี่ยะ ผมก็บอกว่า ถ้าคุณไล่แก้น่ะ ตายแล้วเกิดใหม่ก็ไม่จบ ฉะนั้น ความดีของพลเอกประยุทธ์แกอันนึง กฎหมายโรงแรม แกแขวนนะ แกแขวน 2 ปี ก็เพิ่งทำไปไม่ผิดกฎหมาย ก็แขวนการบังคับใช้กฎหมายไว้ 2 ปี แต่ระหว่างนั้นก็ไม่ได้ไปแก้ให้มันเสร็จ พอการแขวนจบ ก็ผิดใหม่ ผมก็เลย ไอเดียนี้ ผมก็ออกกฎหมายกลางซักฉบับ ผมอยากpromoteก็ไปแขวนๆๆ เพื่อกระตุ้นข้าราชการ ถ้าคุณไม่ปรับแก้ ก็แขวนอย่างนี้ ก็คนก็ไม่ต้องไปเสียเบี้ยบ้ายรายทาง (คือไปแก้มันยาก แขวนไว้ก่อน - สุทธิชัย หยุ่น)

แขวนไว้ก่อน เอ้า ถ้าคุณคิดว่า แก้แล้วเหมาะสมก็เร่งรัดลงไป ถ้าคุณไม่เร่งรัดก็แขวนกันอยู่อย่างเนี๊ยะ แต่แน่นอนล่ะ มัน คุณสุทธิชัยจะเปิดร้านอาหาร โอ้โห มันยุ่งนะ มันต้อง ไหนจะขอ ยุ่งยากนะ แม้ว่าจะไปขายเหกล้าขายเบียร์ก็ต้องไปขอสรรพสามิต นะ คือต่างคนก็ต่างมีเบี้ยบ้ายรายทางกันหมด แล้วคนตัวเล็กนี๊ดเดียว สุดท้ายก็คือ ชั้นไม่ขอเลย วันดีคืนดีก็โดนจับ มัน ชีวิตคนจนมันน่าสงสารที่สุดเลย แล้วเราช่วยเค้าตรงนี้ดีกว่า แต่ขอทำให้ถูฏต้อง ขอว่า เฮ้ย เอาเธอขายไป แต่อย่าขายเด็กนะ แล้วคุณข่ายเด็กคุณก็ผิดอยู่แล้ว เรื่องอื่น แต่ทำไมคุณต้องไปขอเพื่อขอขาย? คือ มันไม่จำเป็นเกือบทั้งหมด แล้วมันเป็นภาระ เป็นต้นทุนที่มหาศาล เราก็แขวนนี้ แขวนนี้ แต่เอาเงินให้เค้าไป.

คุณไม่ต้องมีเครดิตละ สมมติบ้านผมนี่ได้ 4 คน 4 หมื่น เอ้า ในที่สุดมันจะระวังกันเองนะ ถ้าไม่ได้อันนี้ ขอนี้ไปแปะอันนี้ก่อน คนจะเริ่มมีวินัยว่า เฮ้ย ชั้นมีเครดิต เครดิตคือศักดิ์ศรีของมนุษย์นะ คนไม่มีเครดิตคือคนไม่มีศักดิ์ศรีนะ คุณจะให้คนมีศักดิ์ศรี คุณต้องสร้างเครดิตให้เค้า แล้วคุณปล่อยอย่างนี้ก็หมด คุณสุทธิชัยดูสิฮะ อเมริกาเนี่ยะ บริหารประเทศด้วยการสร้างหนี้ แต่ตราบใดคนยังเชื่อดอลลาร์ก็สร้างได้เรื่อย ๆ เอ้า ก็สร้างไป ก็พิมพ์ไป เอ้า พอพิมพ์เสร็จ เวินเฟ้อ ก็มาลด-มาขึ้นดอกเบี้ย พอขึ้นเงินไม่เฟ้อแล้ว ก็มาลดดอกเบี้ย เค้าก็เล่นเกมเค้าอยู่แค่เนี๊ยะ แต่เรามันเล็ก พิมพ์เงินเยอะก็ไม่ได้ แล้วยังมี crypto3 เข้ามาอีก ไอ้ crypto นี่เงินเอกชนนะ คิดกันเอง อะไรกันเอง

3https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5

พอเอาไปแปะกับดอลลาร์ก็ ไปวางแปะแล้วกู้ธนาคารมา มันก็กลายเป็นเติมเงินในระบบอีก เพราะงั้นเงินมันล้นโลกหมด เพียงแต่ทำยังไงจะเอาเงินตรง เราไม่ได้ทำร้ายคนรวยนะ แต่ทำยังไงเงินที่มันกระจุกเนี๊ยะ เอาลงมาหมุนข้างล่าง

          ผมว่าทำอย่างนี้ได้นะ นะครับ แล้วหมุนให้คนข้างล่างมีวินัย ขณะเดียวกันเราสร้างความคิด หรือปรัชญาว่า เราพี่น้องกัน เราต้องดูแลเกื้อกูลกัน เราจะไม่อวดรวยใส่กัน เราจะอวดความมีเมตตา ให้กันและกัน ลองสร้างประเทศอย่างนี้สิฮะ ผมก็ไม่เห็นได้ยินใครพูดอย่างนี้ พูดแต่อะไรก็ไม่รู้ เค้าจะเป็นงูเห่า เค้าจะหักหลังคนนู้นคนนี้ มันอะไรกัน ถูกมั้ยครับ?

สุทธิชัย หยุ่น:      เห็นมั้ยครับ? ว่าแนวทางตอนนี้ มันจะเกิดได้มั้ย? อย่างที่แนวคิดของอาจารย์.

รศ. โภคิน พลกุล:   ผมคิดว่าเราต้องช่วยกันแล้วล่ะ แล้วก็ผลักดัน เพราะนี่มันเป็นทางออก ทางเดียวอ่ะครับ แล้วมันจะไปแก้ทุกปัญหา ถ้าเราเชื่อสิ่งนี้นะ ประเทศนี้ยิ่งใหญ่ แต่ถ้าเราไปมองประชาชน ชั้นจะแจกตังค์ ชั้นจะแบบมองเธอ หวังว่าแจกแล้วข้างหน้า ได้ลงคะแนนให้ชั้น ประเทศไม่ได้เกิดหรอกครับ มันจะจมปลักไปเรื่อยๆ.

สุทธิชัย หยุ่น:      แล้วเราก็จะเป็นประเทศบ๊วยๆในอาเซียน อย่างที่เราเห็นอยู่.

รศ. โภคิน พลกุล:   แต่โลกมันน่ากลัวตรงที่ว่า คนรุ่นใหม่ในเวลานี้ส่วนหนึ่ง ก็คือ ชั้นก็ทำอยู่ไปวันๆ ไม่มีพลัง เอาพูดง่ายๆ ไม่ใช่ว่ารุ่นเราดีนะ แต่รุ่นเรานี้ทำงานหนักนะ ทำงานหนักนะ วันนึงเป็น 10 ชั่วโมงนะ มันมัน เราถึงทำอะไรได้หลายอย่าง แล้วก็ทุกวันนี้ก็ยังทำงานหนักเหมือนเดิม ไม่ได้ว่างเลย ถูกมั้ยครับ? แต่การทำงานมันทำให้เรา มีความสุข แต่เป้าหมาย ของงานก็คือ ถ้าทำหวังตัวเองรวย ยิ่งใหญ่คนเดียวเนี่ยะ คุณจะทุกข์ คุณต้องไปพร้อมกัน ถ้าคุณตั้งเป้าหมายง่า ตัวชั้นได้ พี่น้องชั้นก็ได้ ผมว่ามีความสุขด้วยกัน

สุทธิชัย หยุ่น:      ด้วยสิ่งที่อาจารย์รณรงค์ แล้วก็ชักชวนให้คนทั้งประเทศได้มองเห็น ถ้าจะเปลี่ยนประเทศไทยจริงๆ ต้องอยู่ตรงนี้นะครับ ขอบคุณมากครับอาจารย์โภคินครับ

รศ. โภคิน พลกุล:   ครับ สวัสดีครับ.

ในวัย 72 ดร. โภคิน พลกุล ยังมี passion ยังมีความมุ่งมั่น ยังมีความรถนาอย่างแรงกล้า ที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย ของดีมีอยู่ในตัวครับ ทำยังไงถึงจะปลุกกระแส เพื่อสร้างสังคม ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ให้ได้ประโยชน์สูงที่สุด ฟัง ดร. โภคิน แล้ว มีกำลังใจมากขึ้นเลยครับ ติดตามคุยนอกกรอบทุกวันพฤหัส สามทุ่มครึ่ง ทาง ไทยPBSครับ.

https://www.youtube.com/live/rnrvI5ZbA0U?si=M0PuoXOUK53hLXX-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น