หน้าเว็บ

วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ยานิส วารูฟาคิส - ทุนนิยมจะกินประชาธิปไตย

 

ยานิส วารูฟาคิส – ทุนนิยมจะกินประชาธิปไตย – นอกเสียแต่ว่าเราพูดกันออกมาให้ดังๆ

Capitalism will eat democracy -- unless we speak up | Yanis Varoufakis

         https://youtu.be/GB4s5b9NL3I?si=SqTJL8lpFaHLzR40


ประชาธิปไตย(democracy). ในฝ่ายตะวันตก(in the West), เราทำความผิดพลาดอย่างมหึมาในการที่ทึกทักยอมรับมัน(we make a colossal mistake taking it for granted).

         เรามองว่าประชาธิปไตย(democracy)ไม่ใช่เป็นความเปราะบางมากที่สุดของดอกไม้ทั้งหลายอย่างที่มันเป็นจริง(not as the most fragile of flowers that it really is), แต่เรามองมันเป็นเช่นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ของสังคมเรา(as part of our society’s furniture).

         เราโน้มเอียงที่จะคิดเอากับมันว่าเป็นเช่นสิ่งที่มอบให้อันปฏิเสธไม่ได้(we tend to think of it as an intransigent given).

         เราเชื่ออย่างผิดพลาดว่าทุนนิยม(capitalism)นั้นเป็นสิ่งให้กำเนิดประชาธิปไตยอันหลีกเลี่ยงไม่ได้( begets inevitably democracy).

         มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น(it doesn’t).

         ลี กวนยู (อดีตนายกรัฐมนตรี)ของสิงคโปร์(Lee Kuan Yew1)และผู้ลอกเลียนแบบเขา

         1https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B5_%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B9

อันยิ่งใหญ่ทั้งหลายในปักกิ่ง(his great imitators in Beijing)ได้สาธิตแสดงโพ้นเลยไปกว่าความสงสัยอย่างเป็นเหตุผลได้(have demonstrated beyond reasonable doubt)ว่ามันเป็นความเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ที่จะมีทุนนิยมอย่างเจริญรุ่งเรือง(that it is perfectly to have a flourishing capitalism), การเติบโตเป็นพิเศษ(spectacular growth), ขณะที่การเมืองทั้งหลายยังคงเป็นอิสระจากประชาธิปไตย(while politics remains democracy-free).

         แท้จริงเลย(indeed), ประชาธิปไตยกำลังพำนักอาศัยอยู่ในละแวกบ้านเรา(democracy is residing in our neck of the woods), ที่นี่ในยุโรป(here in Europe). ในตอนต้นปีนี้, ในขณะที่ผมเป็นตัวแทนของประเทศกรีซ(representing Greece)--รัฐบาลกรีกจากการเลือกตั้งใหม่(the newly elected Greek government)—ในประชาคมยุโรป(Eurogroup)ในฐานะรัฐมนตรีคลัง(as its Finance Minister), ผมได้รับการบอกในเงื่อนไขที่ไม่มีที่ไม่แน่ชัด(in no uncertain terms)ว่ากระบวนการประชาธิปไตยของประชาชาติเรา(our nation’s democratic process) – การเลือกตั้งทั้งหลายของเรา(our elections) – ไม่สามารถถูกยินยอมให้แทรกแซง(could not be allowed to interfere)กับนโยบายเศรษฐกิจทั้งหลายที่ได้ถูกดำเนินการในประเทศกรีซ(that were being implemented in Greece).

         ในขณะนั้น(in that moment), ผมได้รู้สึกว่า ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการปลดปล่อยของ ลี กวนยู(there could be no greater vindication of Lee Kuan Yew), หรือพรรคคอมมูนิสต์จีน(the Chinese Communist Party), ที่จริงแล้วของเพื่อนผู้บิดพริ้วทั้งหลายบางรายของผมผู้แต่คอยบอกผมอยู่เรื่อยๆ(indeed of some recalcitrant friends of mine who kept telling me)ว่าประชาธิปไตยจะถูกประกาศห้าม(that democracy would be banned)ถ้ามันได้ข่มขู่ว่าจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใด(if it threatened to change anything).

         คืนนี้, ในที่นี้, ผมต้องการนำเสนอต่อคุณกรณีทางเศรษฐกิจสำหรับประชาธิปไตยอันแท้จริง(an economic case for an authentic democracy).

         ผมต้องการขอให้พวกคุณเข้าร่วมกับผมในการเชื่ออีกครั้ง(ask you to join me in believing again)ว่า ลี กวนยู, พรรคคอมมิวนิสต์จีน(the Chinese Communist Party)และแน่นอนแล้วก็กลุ่มยุโร(and indeed the Eurogroup)ได้ทำผิดในการเชื่อว่าเราสามารถจ่ายแจกประชาธิปไตยได้ – ว่าเราจำเป็นต้องมีประชาธิปไตยที่แท้จริงอย่างอึกทึกคึกโครม(need an authentic, boisterous democracy). และถ้าปราศจากประชาธิปไตย(without democracy), สังคมทั้งหลายของเราก็จะน่าขยะแขยง(our societies will be nastier), อนาคตของเรามืดมัว(our future bleak), และเทคโนโลยียิ่งใหญ่ใหม่เอี่ยมทั้งหลายของเราก็เปล่าประโยชน์(our great, new technologies wasted).

         การพูดถึงเรื่องเปล่าประโยชน์(speaking of waste), อนุญาตให้ผมชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งอันน่าสนใจหนึ่ง(allow me to point out an interesting paradox)ที่กำลังคุกคามเศรษฐกิจทั้งหลายของเราขณะที่เราพูดกัน(that is threatening our economies as we speak). ผมเรียกมันว่าความขัดแย้งยอดแฝด(the twin peaks paradox).

         ยอดหนึ่งคุณเข้าใจ(you understand) -- คุณรู้จักมัน(you know it), คุณจำมันได้(you recognize it)คือภูเขาของหนี้สินทั้งหลาย(is the mountain of debts)ที่ได้ทอดเงาทอดยาวหนึ่ง(has been casting a long shadow)อยู่เหนือสหรัฐอเมริกา(over United State), ยุโรป(Europe), โลกทั้งหมด(the whole world). เราทั้งหมดต่างจกจำภูเขาแห่งหนี้สินนี้ได้.

         แต่ผู้คนน้อยรายที่แยกแยะมองเห็นคู่แฝดของมัน(few people discern its twin). ภูเขาของเงินสดที่ไม่ได้ใช้งาน(a mountain cash)ที่เป็นของผู้เก็บออมร่ำรวยทั้งหลาย(belonging to rich savers)และเป็นของนิติบุคคลทั้งหลาย(and to corporations), ซึ่งตื่นกลัวเกินไปที่จะลงทุนมัน(too terrified to invest it)เข้าไปในกิจการการผลิตทั้งหลาย(into productive activities)ที่สามารถผลิตสร้างรายได้ทั้งหลาย(that can generate the incomes)ที่จากมันคุณสามารถชำระหนี้ยุติภูเขาของหนี้สินทั้งหลายได้(from which you can extinguish the mountain of debts)และที่สามารถผลิตสิ่งทั้งหลายทั้งหมดเหล่านั้นที่มนุษยชาติจำเป็นต้องการมันอยู่อย่างสิ้นหวังได้(and which can produce all those things that humanity desperately needs), อย่างเช่นพลังงานเขียว(like green energy).

         ทีนี้ให้ผมให้คุณสองตัวเลข(let me give you two numbers). กว่าสามเดือนที่ผ่านมา, ในสหรัฐอเมริกา(in United States), ในบริเทน(in Britain)และในเขตยูโร(in Eurozone), เราได้ลงทุน(we have invested), อย่างร่วมกัน(collectively), 3.4 ล้านล้านดอลลาร์(3.4 trillion dollars)กับบรรดาสินค้าทั้งหลายที่สร้างความมั่งคั่ง(on all the wealth-producing goods)สิ่งทั้งหลายอย่างเช่น โรงงานอุตสาหกรรมทั้งหลาย(industrial plants), เครื่องจักร(machinery), อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ทั้งหลาย(office blocks), โรงเรียนทั้งหลาย(schools), ถนน(roads), ทางรถไฟ(railways), และอะไรอื่นทั้งหลายไปเรื่อยๆ(and so on and so forth).

         3.4 ล้านล้านฟังดูเหมือนเงินมากมาย(sounds like a lot of money)จนกระทั่งคุณนำไปเปรียบเทียบมันกับ 5.1 ล้านล้านดอลลาร์(compare it to $5.1 trillion)ที่เรี่ยราดเป็นโคลนเละไปทั่วในประเทศเดียวกันนี้(that slushing around in the same countries), ในสถาบันทางการเงินทั้งหลายของเรา(in our financial institutions), ไม่ได้ทำอะไรที่อย่างแน่ชัดที่สุดในช่วงระยะเวลาเดียวกัน(doing nothing absolutely nothing during the same period)นอกจากสร้างการพองตัวของตลาดซื้อขายหุ้นทั้งหลาย(except inflating stock exchanges)และปั่นราคาทั้งหลายบ้านให้สูงขึ้น(bidding up the house prices).

         ดังนั้น, ภูเขาของหนี้สิน(a mountain of debts)และภูเขาของเงินสดที่ไม่ใช้งาน(a mountain of idle cash)ก่อรูปยอดแฝด(form twin peaks), ล้มเหลวที่จะยกเลิกแต่ละฝ่ายลงมาได้(failing to cancel each other out)โดยผ่านปฏิบัติการปกติของตลาดทั้งหลาย(through the normal operation of the markets).

         ผลลัพธ์ก็คือค่าจ้างงานทั้งหลายที่ซบเซา(the result is stagnant wages), มากกว่าหนึ่งในสี่ของผู้มีอายุ 25 ถึง 54 ปีในอเมริกา, ในญี่ปุ่น(Japan)และในยุโรป(Europe)ไม่มีงานทำ(out of work). และเพราะเหตุนี้(consequently), อุปสงค์มวลรวมต่ำ(low aggregate demand – แปลว่า ผลรวมของความต้องการซื้อสินค้าและบริการน้อย – มีบทความเกี่ยวกับ”อุปสงค์มวลรวม/อุปทานมวลรวมของประเทศไทย และนโยบายเชิงกลยุทธทางการคลังกับทางการเงิน ของประเทศไทยที่น่าสนใจ อ่านได้ที่ 2 linkข้างล่างนี้), ที่อยู่ในวัฏจักร/วงเวียนที่ไม่มีวันสิ้นสุด(which in a never-

         http://www.ecojournal.ru.ac.th/journals/23_1516972490.pdf

file:///C:/Users/CATS1234/Downloads/ner_manager,+Journal+manager,+4.pdf

ending cycle), เสริมกำลังการมองโลกในแง่ร้ายของนักลงทุนทั้งหลาย(reinforces the pessimism of the investors), ผู้, กำลังหวาดกลัวอุปสงค์มวลรวมต่ำ(fearing low demand), ลดทอนการผลิตของมันโดยการไม่ลงทุน(reproduce it by not investing) – ชัดๆเหมือนบิดาของโออีดิปุส(exactly like Oedipus’s father1), ผู้, ตื่นตระหนกโดยคำทำนายของเทพพยากรณ์

         1https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA

(terrified by the prophecy of the oracle)ว่าลูกชายของตนนั้นโตขึ้นก็จะฆ่าตน, เลยวางแผนสร้างโดยไม่รู้ตัวต่อสถานการณ์ทั้งหลาย(unwittingly engineered the conditions)เพื่อให้แน่ใจว่าโออีดิปุสบุตรของตน(that ensured that Oedipus, his son), จะฆ่าเขาร(would kill him).

         นี่คือการทะเลาะของผมกับระบอบทุนนิยม(this is my quarrel with capitalism).

         ความฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองทั้งหมดของมัน(its gross wastefulness), ทั้งหมดของเงินสดที่ไม่ใช้ประโยชน์นี้(all this idle cash), ควรถูกเติมพลังให้กับการปรับปรุงชีวิตทั้งหลายให้ดีขึ้น(should be energized to improve lives), ให้กับการพัฒนาความสามารถพิเศษทั้งหลายของมนุษย์(to develop human talents), และอย่างแท้จริงสนับสนุนทางการเงินต่อเทคโนโลยีทั้งหมายทั้งหมดเหล่านี้(and indeed to finance all these technologies), เทคโนโลยีสีเขียวทั้งหลาย(green technologies), ที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างที่สุดยิ่งต่อการกอบกู้รักษาดาวเคราะห์โลก(which are absolutely essential for saving planet earth).

         ผมทำถูกต้องไหมในการเชื่อว่าประชาธิปไตยอาจจะเป็นคำตอบนั้น?(am I right in believing that democracy might be the answer?)

         ผมเชื่อเช่นนั้น(I believe so), แต่ก่อนที่เราจะเคลื่อนกันต่อไป(but before we move on), อะไรที่เราหมายความถึงว่าคือประชาธิปไตย?(what do we mean by democracy?)

         อริสโตเติล2ให้คำจำกัดความประชาธิปไตย(Aristotle defined democracy)ว่าเป็น การสถาปนา/รูปแบบการปกครองที่มีอิสรชนและผู้ยากจน(as the constitution in which the free and the poor), อยู่ในชนกลุ่มใหญ่หลัก(being in the majority), ควบคุมการปกครอง/รัฐบาล(control government).

         2https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A5

         ตอนนี้, แน่นอนว่าประชาธิปไตยแบบชนเอเธนส์(Athenian democracy)ได้แยกย่อยกันออกไปมากเหลือเกิน(excluded too many).

         ผู้หญิง(women), ผู้อพยพ(migrants)และ, แน่นอน, ทาสทั้งหลาย(the slaves).

         แต่มันจะเป็นการผิดพลาด(would be a mistake)ที่จะละเลยปล่อยไปซึ่งความสำคัญของประชาธิปไตยแบบชนเอเธนส์โบราณ(to dismiss the significance of ancient Athenian democracy)ในพื้นฐานการเป็นใครที่มันได้แยกออกมา(on the basis of whom it excluded).

         อะไรที่ได้ตรงประเด็นมากยิ่งกว่า(what is more pertinent), และดำเนินต่อมาเป็นยิ่งในประชาธิปไตยแบบชนเอเธนส์โบราณ(continues to be so about ancient Athenian democracy), คือการเพิ่มเข้ามาของชนแรงงานยากจน(was the inclusion of the working poor), ผู้ที่ไม่ได้เพียงแค่ได้สิทธิที่จะพูดอย่างอิสระเท่านั้น(who not only acquired the right to free speech), แต่สำคัญยิ่งไปกว่า(more importantly, อย่างร้ายแรง(crucially), พวกเขาได้รับสิทธิทั้งหลายในการตัดสินใจทั้งหลายทางการเมือง(acquired the rights to political judgements)ซึ่งได้ให้มาในน้ำหนักเท่ากัน(that were afforded equal weight)ในการตัดสินใจของการเกี่ยวข้องกับเรื่องราวสาระทั้งหลายของรัฐ(in the decision-making concerning matters of state).

         ทีนี้, แน่นอนละ, ประชาธิปไตยแบบชนเอเธนส์(Athenian democracy)ไม่ได้อยู่ได้ยืนยาว(didn’t last long). เหมือนเทียนไขที่ดเผาไหม้สว่างเจิดจ้า(like candle that burns brightly), มันก็เผาไหม้หมดสิ้นอย่างรวดเร็ว.

         และอย่างแท้จริง, ประชาธิปไตยเสรีนิยมทั้งหลายของเรา(our liberal democracies)ในทุกวันนี้ไม่ได้มีรากทั้งหลายของพวกเขาเป็นเช่นชนเอเธนส์โบราณ(today do not have their roots in ancient Athenians). พวกเขามีรากทั้งหลายใน แม็กนา คาร์ตา/มหากฏบัตร(they have their roots in the Magna Carta3), ในการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ ปี 16884(in 1688 Glorious Revolution), และอย่างแท้จริงจากในรัฐธรรมนูญชนอเมริกันด้วย(indeed in the American constitution).

         3https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3

         4https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%8C

         ในทางตรงกันข้าม(whereas), ประชาธิปไตยแบบชนเอเธนส์(Athenians democracy)ได้มุ่งเน้นอยู่กับการที่ประชาชนผู้ไร้เจ้านาย(was focusing on the motherless citizen)และเพิ่มอำนาจให้กับชนแรงงานที่ยากจน(empowering the working poor), ประชาธิปไตยเสรีนิยมของเรา(our liberal democracy)ถูกค้นพบในจารีตของมหากฎบัตรแม็คนา คาร์ตา(are founded on the Magna Carta tradition), ซึ่งเป็น, อย่างไรก็ตาม(after all), ซึ่งเป็นกฎบัตรสำหรับเจ้านายทั้งหลาย(a charter for masters).

         และอย่างแท้จริง, ประชาธิปไตยเสรีนิยม(liberal democracy)เป็นแค่ปรากฏเป็นผิวหน้า(only surfaced)เมื่อมันเป็นไปได้ที่จะแยกอาณาจักรทางการเมืองจากอาณาจักรทางเศรษฐกิจ(when it was possible to separate fully the political sphere from economical sphere), ดังนั้นในการที่จะกำจัดตีวงกระบวนการทางการเมืองอย่างเต็มที่ในอาณาจักรทางการเมือง(so as to confine the democracy process fully in the political sphere), ปล่อยทิ้งให้อาณาจักรทางเศรษฐกิจ(leaving the economic sphere)โลกธุรกิจ(the corporate world), ถ้าคุณต้องการ – ในฐานะ-เขตปลอดประชาธิปไตย(as a democracy-free zone).

         ทีนี้, ในประชาธิปไตยทั้งหลายของเราในทุกวันนี้(in our democracies today), การแยกของเศรษฐกิจออกจากอาณาจักรทางการเมือง(the separation of the economic from the political sphere), ขณะที่มันเริ่มต้นบังเกิดขึ้นนั้น(the moment it started happening), มันได้ปลุกฟื้นขึ้นต่อความไม่ย่อท้อ(gave rise to an exorable), มหากาพย์การต่อสู้(epic struggle)ระหว่างทั้งสองฝ่าย(between the two), ด้วยการที่อาณาจักรทางเศรษฐกิจยึดครองอาณาจักรทางการเมืองเป็นอาณานิคม(with the economic sphere colonizing the political sphere), กัดกินเข้าไปในอำนาจของมัน(eating into its power).

         คุณได้กังขาใจไหมว่า ทำไมนักการเมืองทั้งหลายถึงไม่เป็นอะไรเหมือนเช่นที่พวกเขาเคยเป็น?(have you wondered why politicians are not what they used to be?)

         มันไม่ใช่เพราะว่าDNAของพวกเขาได้ถูกเปลี่ยนรุ่นการผลิต(not because their DNA has degenerated). มันค่อนข้างเป็นเพราะว่าใครก็สามารถเข้าไปอยู่รัฐบาลได้ทุกวันนี้แต่ไม่ได้อยู่ในอำนาจ(one can be in government today but not in power), เพราะอำนาจได้อพยพจากอาณาจักรทางการเมิองไปยังอาณาจักรทางเศรษฐกิจ(because power has migrated from  the political to economic sphere), ที่ได้แยกออกจากกัน(which is separated).

         จริงๆแล้ว, ผมได้พูดเกี่ยวกับการทะเลาะเบาะแว้งของผมกับทุนนิยม(spoke about my quarrel with capitalism). ถ้าคุณคิดเกี่ยวกับมัน(think about it), มันเป็นเหมือนนิดหน่อยกับประชากรของพวกนักล่า(a little bit like population of predators)ที่ประสบความสำเร็จเหลือเกินในการทำลายล้างเหยื่อที่พวกมันต้องกินเป็นอาหาร(that are so successful in decimating the prey that they must feed on), ที่ในตอนจบพวกมันก็อดอยาก(that in the end they starve).

         เช่นเดียวกัน(similarly), อาณาจักรทางเศรษฐกิจก็ได้เข้าถือครองเป็นอาณานิคมและกัดกินเป็นอาหารเอากับอาณาจักรทางการเมือง(the economic sphere has been colonizing and cannibalizing the political sphere)กับการแผ่ขยายถึงขนาดนั้น(to such an extent)ที่มันกำลังบ่อนทำลายตัวเอง(that it is undermining itself), ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ(causing economic crisis).

         อำนาจธุรกิจ(corporate power)กำลังเพิ่มขึ้น(is increasing), สินค้าทางการเมืองทั้งหลายกำลังด้อยค่าลง(political goods are devaluing), ความไม่เสมอภาคกำลังพุ่งสูงขึ้น(inequality is rising), อุปสงค์มวลรวมกำลังร่วงลง(aggregate demand is falling)และบรรดาผู้บริหาร(CEOs)ของบรรษัททั้งหลาย(corporations)ได้กำลังหวาดกลัวเกินไปที่จะลงทุนในเงินสดของบรรษัทของพวกเขา(are too scared to invest the cash of their corporations).

         ดังนั้น, ยิ่งทุนนิยมประสบความสำเร็จมากเท่าใดในการเอาประชาออกไปจากประชาธิปไตย(the more capitalism succeeds in taking demos out of democracy), ความสูงของยอดเขาแฝดนั้นก็ยิ่งขึ้นไปอีก(the taller the twin peaks)และความสูญเปล่าก็ยิ่งมหาศาลขึ้นไปอีกในทรัพยากรทั้งหลายของมนุษย์(and the greater the waste of human resources)และความมั่งคั่งของมนุษยชาติ(and humanity’s wealth).

         อย่างชัดเลยว่า, ถ้าเรื่องนี้ถูกต้อง(if this is right), เราก็ต้องหวนคืนรวมเอาอาณาจักรทางการเมืองและเศรษฐกิจกลับมาเข้าด้วยกัน(we must reunite the political and economic spheres), และดีกว่าที่จะทำมันด้วยประชานั้นอยู่ในการควบคุม(better do it with a demo being in control), เหมือนในเอเธนส์โบราณ(like in ancient Athens)นอกเสียจากว่าปราศจากทาสทั้งหลาย(except without slaves).หรือการยกเว้นกันออกไปของผู้หญิงและผู้อพยพทั้งหลาย(or the exclusion of women and migrants).

         ทีนี้, นี่ไม่ได้เป็นความคิดต้นฉบับแรกเริ่มนะ(this is not an original idea). ฝ่ายซ้ายมาร์คซิสต์(the Marxist left)ได้มีความคิดนั้นไปแล้วเมื่อ 100 ปีก่อน(had that idea 100 year ago)และมันไม่ได้ไปด้วยดี, ถูกไหม?(and it didn’t go very well} did it?)

บทเรียนที่เราได้เรียนรู้จากความวิบัติโกลาหลท่วมท้นของโซเวียต(the lesson we learned from Soviet debacle)ก็คือว่ามีเพียงโดยปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้ชนแรงงานยากจนถูกได้รับอำนาจคืนขึ้นมาอีกครั้ง(only by a miracle will the working poor be re-empowered), อย่างที่พวกเขาอยู่ในเอเธนส์โบราณ(as they were in ancient Athens), โดยปราศจากการสร้างสรรค์รูปร่างใหม่ทั้งหลายของความโหดร้ายและความสูญเปล่า(without creating new forms of brutality and waste).

แต่มีทางออกหนึ่ง(but there is a solution): กำจัดพวกแรงงานยากจน(eliminate the working poor).

ทุนนิยมกำลังทำมันอยู่(capitalism’s doing it), โดยแทนที่แรงงานค่าแรงต่ำทั้งหลาย(by replacing low-waging workers)ด้วยเครื่องอัตโนมัติ, แอนดรอยด์, หุ่นยนต์ทั้งหลาย(with automata, androids, robots).

ปัญหานั้นก็คือว่า(the problem is that)ตราบนานเท่าที่อาณาจักรทางเศรษฐกิจและทางการเมืองได้ถูกแยกจากกันอยู่(as long as the economic and the political spheres are separated), ความอัตโนมัตินั้นก็ยิ่งทำให้ยอดแฝดของภูเขายิ่งสูงขึ้นไปอีก(automation makes the twin peaks taller), ความสูญเปล่าสวยหรูยิ่งขึ้น(the waste loftier)และความขัดแย้งทั้งหลายทางสังคมลงลึกไปยิ่งขึ้น(and the social conflicts deeper), รวมทั้ง(including) – ในไม่ช้านี้(soon), ผมเชื่อว่า(I believe) – ในที่ทั้งหลายเหมือนจีน(in places like China).

ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องกำหนดค่าใหม่(so we need to reconfigure), เราจำเป็นที่จะต้องรวมตัวเข้าด้วยกันใหม่ระหว่างอาณาจักรทางเศรษฐกิจและทางการเมือง(we need to reunite the economic and the political spheres), แต่จะดีกว่าที่เราควรทำมันโดยโดยวิถีแห่งประชาธิปไตยให้เป็นอาณาจักรที่รวมตัวกันขึ้นใหม่(we’d better do it by democratizing the reunified sphere), ไม่เช่นนั้นยก็เกรงว่าเราจะจบลงด้วยการบ้าคลั่งตรวจสอบเฝ้าระวัง อภิมหาอัตตาธิปไตย(lest we end up with a surveillance-mad hyperautocracy)ที่ทำให้ The Matrix, ภาพยนตร์นั่น, มองดูเป็นแค่สารคดีไปเลย(look like a documentary).

ดังนั้นคำถามก็ไม่ใช่ว่า ทุนนิยมจะอยู่รอดชีวิตจากนวัตกรรมทั้งหลายทางเทคโนโลยีที่มันวางไข่คลอดมา(the question is not whether capitalism will survive the technological innovations it is spawning).

คำถามที่น่าสนใจยิ่งกว่า(the more interesting question)คือทุนนิยมจะได้ประสบความสำเร็จหรือไม่, โดยอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกับโลกอันไม่พึงปรารถนาอย่างแมทริกซ์(whether capitalism we be succeeded by something resembling a Matrix dystopia), หรืออะไรบางอย่างที่ใกล้เคียงมากยิ่งกว่ากับสังคมที่เหมือนในภาพยนต์เรื่องสตาร์เทร็กซ์(or something much closer to a Star Trek-like society), ที่เครื่องจักรกลทั้งหลายรับใช้มนุษย์(where machines serve humans)และมนุษย์ทั้งหลายใช้จ่ายพลังงานทั้งหลายของเขาไปในการสำรวจค้นหาจักรวาล(and the humans expend their energies exploring the universe)และหมกหมุ่นกับการถกเถียงทั้งหลายอันยาวนานเกี่ยวกับความหมายของชีวิต(and indulging in long debates about the meaning of life)ในบางตลาดอะโกราไฮเทคโบราณ, เหมือนชนเอเธนส์(in some ancient, Athenians-like, high tech agora).

ผมคิดว่าเราสามารถมีกำลังซื้อได้ที่จะมองโลกในแง่ดีนี้(I think we can afford to be optimistic).

แต่อะไรที่มันจะเอาไป(what would it takes), มันจะดูเหมือนเช่นไรในการที่มีโลกอุดมคติเหมือนในสตาร์เทร็ค(what would it look like to have this Star Trek-like Utopia), แทนที่จะเป็นโลกอันไม่พึงปรารถนาเหมือนเช่นในแมทริกซ์(instead of the Matrix-like dystopia)?

ในประเด็นชองแง่ปฏิบัติทั้งหลาย(in practical terms), อนุญาตให้ผมที่จะแบ่งปันอย่างแค่สรุป(allow me to share just briefly), ตัวอย่างสักสองสามอัน(a couple of examples).

ในระดับของบรรษัทวิสาหกิจ(at the level of the enterprise), จิตนาการถึงตลาดทุน(imagine a capital market), ที่คุณได้รับทุนเมื่อคุณทำงาน(where you earn capital as you work), และที่ซึ่งทุนของคุณติดตามคุณจากงานหนึ่งไปยังอีกวงานหนึ่ง(where your capital follows you from job to another), จากบริษัทหนึ่งไปยังอีกบริษัทหนึ่ง(from one company to another), และบริษัทนั้น(and the company) – อันไหนก็ตามที่คุณบังเอิญไปทำงานอยู่ในเวลานั้น(whichever one you happen to work at that time) – ได้ถูกเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียวโดยเหล่าผู้ที่บังเอิญทำงานอยู่ในมันในเวลานั้น(is solely owned by those who happen to work in it at that moment). แล้วรายได้ทั้งหมดแตกกิ่งก้านออกมาจากทุน(then all income stems from capital), จากกำไรทั้งหลาย(profits), และแนวความคิดยิ่งยวดชองค่าจ้างแรงงานกลายเป็นที่ล้าสมัย(and the very concept of wage becomes obsoletes).

ไม่มีการแยกออกจากกันอีกต่อไประหว่างผู้ซึ่งเป็นเจ้าของแต่ไม่ได้ทำงานในบริษัทนั้นๆ(no more separation between those who own but do not work in the company)และเหล่าผู้ที่ทำงานแต่ไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัทนั้นๆ(those who work but do not own the company); ไม่มีการเล่นชักกะเย่อ(no more tug-of-war)ระหว่างทุน กับ ชนชั้นแรงงาน(between capital and labor); ไม่มีช่องว่างอันยิ่งใหญ่ระหว่างการลงทุนกับการออม(no great gap between investment and saving); อย่างแท้จริง, ไม่มียอดแฝดเยี่ยงหอคอยนั้น(no towering twin peaks).

ที่ระดับของเศรษฐกิจการเมืองโลก(at level of the global political economy), จินตนาการสักชั่วครู่หนึ่ง(imagine for a moment)ว่า สกุลเงินตราชาติทั้งหลายของเรา(our national currencies)มีอัตราการแลกเปลี่ยนที่ลอยตัว(have a free-floating rate), ด้วยกันทั่วไป(a universal), ทั่วโลก(global), เงินดิจิตอล(digital currency), เป็นเรื่องหนึ่งที่ถูกประกาศออกมาโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(one that is issued by the international monetary fund5), กลุ่ม G-206, ในนามของมนุษยชาติทั้งหมด(on behalf of all humanity).

5https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8

6https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1_20

และลองจินตนาการไปไกลขึ้นอีก(and imagine further)ว่าบรรดาการค้าระหว่างประเทศได้ให้อยู่ในสกุลเงินที่กำหนดนี้(that all international trade is denominated in this currency) – เรามาเรียกมันกันว่า the cosmos,” ในสกุลทั้งหลายของ cosmos(in units of cosmos) – ด้วยทุกรัฐบาลเห็นด้วยที่จะได้จ่ายเงินเข้าในกองทุนรวม(with every government agreeing to be paying into a common fund)ก้อนหนึ่งของสกุลcosmosทั้งหลายเป็นสัดส่วนจากการขาดดุลทางการค้าของประเทศหนึ่งๆ(a sum of cosmos units proportional to the country’s trade deficit), หรืออย่างแท้จริง, จากส่วนเกินทางการค้าของประเทศหนึ่งๆ(or indeed to a country’s trade surplus).

และจินตนาการว่ากองทุนนั้นได้ถูกใช้ในการลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียวทั้งหลาย(and imagine that that fund is utilized to invest in green technologies), โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนทั้งหลายของโลกที่เงินทุนในการลงทุนนั้นขาดแคลน(where investment funding is scarce). นี้ไม่ใช่ความคิดใหม่(this is not a new idea). มันเป็นอะไรที่, ได้ผล(effectively), จอห์น เมย์นาร์ด เคย์นส์(John Maynard Keynes)ได้เสนอ(proposed)ในปี 1944 ที่การประชุมเบรตตัน วูดส์(the Bretton Woods Conference).

ปัญหาก็คือในสมัยนั้น(back then), พวกเขาไม่มีเทคโนโลยีที่จะดำเนินการมันได้(they didn’t have the technology to implement it). ตอนนี้เรามีแล้ว(now we do), โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของอาณาจักรของการกลับมารวมตัวกันทางการเมือง-เศรษฐกิจ(especially in the context of a reunified political-economic sphere).

โลกที่ผมกำลังอธิบายต่อคุณ(the world that I am describing to you)คืออิสรนิยมไปพร้อมกัน(is simultaneously libertarian), ในการนั้นมันก็จัดลำดับความสำคัญต่อปัจเจกบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจทั้งหลาย(in that it prioritizes empowered individuals), มาร์กซิสต์(Marxist)ในเมื่อมันจะได้ถูกจำกัดกักตัวอยู่กับถังขยะของประวัติศาสตร์(since it will have confine to the dustbin of history)การแบ่งแยกระหว่างทุนกับแรงงาน(the division between capital and labor), และเศรษฐศาสตร์สำนักเคย์นส์(Keynesian7), โลกานุวัฒน์เคย์นีเซี่ยน(global Keynesian).

7https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%8C

แต่เหนือทั้งหมดอื่นใดนั้น(but above all else), ก็คือว่า โลกที่อาศัยอยู่นี้เราสามารถที่จะจินตนาการได้ถึงประชาธิปไตยที่แท้จริง(a world in which we will be able to imagine an authentic democracy).

โลกเช่นนั้นจะรุ่งอรุณไหม?(will such a world dawn?)

หรือเราจะตกลงไปสู่โลกอันไม่พึงปรารถนาเหมือนแบบแมทริกซ์?(or shall we descend into a Matrix-like dystopia?)

คำตอบนั้นทอดวางอยู่ในการเลือกทางการเมือง(the answer lie in the political choice)ที่เราจะต้องทำการเลือกนั้นอย่างถูกต้อง(that we shall be making collectively).

มันเป็นการเลือกของเรา(it is our choice), และเราก็ดีกว่าที่จะทำมันอย่างเป็นประชาธิปไตย(better make it democratically).

ขอบคุณ.

บรูโน กิอัสสานี(Bruno Giussani - พิธีกร):   ยานิส(Yanis)เป็นคุณเองที่ได้บรรยายถึงตัวคุณเอง(described yourself)บนไบออส/ที่เก็บข้อมูลของคุณว่าเป็นมาร์กซิสอิสระ(as a libertarian Marxist). อะไรคือความสัมพันธ์เกี่ยวข้องของการวิเคราะห์ของมาร์กทุกวันนี้?(what is the relevance of Marx’s analysis today?)

ยานิส วารูฟาคิส(Yanis Varoufakis):      เอาละ, ถ้ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องใดในอะไรที่ผมเพิ่งได้พูดไป, นั้นก็คือ มาร์กคือประเด็นที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์(then Marx is relevant). เพราะว่าประเด็นทั้งปวงของการรื้อฟื้นคืนการรวมกันใหม่ของทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ ก็คือ(because the whole point of reunifying the political and economic is)

ถ้าเราไม่ทำมัน(if we don’t do it), แล้วนวัตกรรมทางเทคโนโลยีกำลังที่จะสร้างสรรค์กันมโหฬารยิ่ง(then the technological innovation is going to create such a massive)ร่วงลงไปในอุปสงค์มวลรวม(fall into aggregate demand), อะไรล่ะที่ แลร์รี ซัมเมอร์ส(Larry Summers)กล่าวขวัญถึงว่าเป็นสภาวะความเสื่อมถอยเรื้อรัง(refers to as secular stagnation).

ด้วยวิกฤติการอพยพนี้จากส่วนหนึ่งของโลก(with this crisis migrating from one part of the world), อย่างที่มันเป็นในขณะนี้, มันจะทำความไม่เสถียรแค่เพียงประชาธิปไตยทั้งหลายของเราเท่านั้น(it will destabilize not only our democracies), แต่แม้กระทั่งโลกที่กำลังโผล่เกิดขึ้นใหม่ที่ยังไม่ได้แหลมคมในเสรีประชาธิปไตยนั้นด้วย(but even the emerging world that is not that keen on liberal democracy).

ดังนั้นถ้าการวิเคราะห์นี้หยุดการไหลของน้ำนั้น(if this analysis holds water), งั้นมาร์กก็เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องอย่างที่สุด(then Marx absolutely relevant).

แต่เช่นเดียวกับ ฮาเย็ค(but so is Hayek8นักเศรษฐศาสตร์ที่เชื่อมั่นในตลาดเสรี), นั่นคือ

         8 https://en.wikipedia.org/wiki/Friedrich_Hayek

ทำไมผมถึงเป็นมาร์กซิสต์อิสระ(a libertarian Marxist), แล้วก็เคนย์สด้วย(and so is Keynes), แล้วนั่นแหละที่ทำไมผมถึงได้สับสนวุ่นวายอย่างยิ่ง(so that’s why I’m totally confused).

บ. ก. :    จริงแท้เลย, เป็นไปได้ว่าเราเราในที่นี้ด้วย, ในตอนนี้.

ย. ว. :    ถ้าคุณไม่สับสนวุ่นวาย คุณก็ไม่ได้กำลังคิดอะไร, ถูกมั้ย?

บ. ก. :    นั่นเป็นอะไรๆของนักปรัชญากรีกอย่างมาก, มากที่จะพูดเช่นนี้ –

ย. ว. :    ความจริง, ไอน์สไตนิ์เป็นคนพูดอันนี้นะ –

บ. ก. :    ระหว่างการบรรยายคุณได้เอ่ยถึง สิงคโปริ์(Singapore)และจีน(China), และเมื่อคืนนี้ที่เป็นผู้พูดในงานดินเนอร์(at the speaker dinner), คุณได้แสดงออกค่อนข้างแข็งแรงของความเห็นเกี่ยวกับการที่ฝ่ายตะวันตกมองจีนอย่างไร(expressed a pretty strong opinion about how the West look at China). คุณอยากจะแบ่งปันนั่นในทีนี้บ้างไหม?

ย. ว. :    เอ้อ, มีระดับขีดขั้นอย่างยิ่งของการเสแสร้ง (there’s a great degree of hypocrisy). ในระบอบเสรีประชาธิปไตยทั้งหลาย(in a libera democracies), เรามีความคล้ายคลีงกันของประชาธิปไตย(a semblance of democracy).

         มันเพราะว่าเราได้จำกัดขีดวง(have confined), เมื่อผมกำลังพูดในการบรรยายของผมนั้น, คือประชาธิปไตยต่ออาณาจักรทางการเมือง(democracy to the political sphere), ในขณะที่ปล่อยทิ้งอีกอาณาจักรหนึ่ง(while leaving one sphere), ที่ซึ่งเป็นตัวการกระทำทั้งหมด(where all the actions is) – คืออาณาจักรทางเศรษฐกิจ(the economic sphere) – อาณาเขตที่ปลอด-ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์สิ้น(a completely democracy-free zone).

         ในเหตุผลหนึ่ง(in a sense), ถ้าผมได้รับอนุญาตให้กระทุ้งปลุกปั่นนะ(to be provocative), จีนในทุกวันนี้ได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับบริเทนในศตวรรษที่ 19(China today is closer to Britain in the 19th century). เพราะว่า, จำได้นะ, เรามีความโน้มเอียงที่จะเชื่อมโยง(tend to associate)เสรีนิยมไปปนเข้ากับประชาธิปไตย(tend to associate liberalism with democracy) – นั่นคือความผิดพลาด, ในอดีต(that’s a mistake, historically).

         เสรีนิยม(liberalism), โอบอ้อมอารี(liberal), มันเหมือนกับ จอห์น สจ็วร์ต มิลล์(it’s like John Stuart Mill9).

         9 https://en.wikipedia.org/wiki/John_Stuart_Mill

         จอห์น สจ็วร์ต มิลล์(John Stuart Mill)ได้สงสัย/ไม่เชื่อเป็นพิเศษเกี่ยวกับกระบวนการทางประชาธิปไตย(was particularly skeptical about democratic process).

         ดังนั้น, อะไรที่คุณกำลังมองเห็นในตอนนี้ในประเทศจีนก็คือกระบวนการที่คล้ายกันอย่าวงมาก(a very similar process)กับคนที่เราได้มีอยู่ในบริเทนระหว่างการปฏิวัติอุตสาหกรรม(to the one that we have in Britain during the Industrial Revolution), โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนผ่านจากอันดับแรกไปสู่อันดับที่สอง(especially the transition from the first to the second). และในการที่จะลงโทษต่อประเทศจีน(and to be castigating China)ในการทำเช่นนั้นที่ฝ่ายตะวันตกเองได้ทำในศตวรรษที่ 19(which the West did in the 19th century), ตบตีอย่างหน้าซื่อใจคด(smacks of hypocrisy).

บ. ก. :    ผมแน่ใจว่าผู้คนมากมายในทีนี้กำลังกังขาใจเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณในฐานะรัฐมนตรีคลังของกรีซ (as the Finance Ministry of Greece) เมื่อต้นปีนี้(earlier this year).

ย. ว. :    ผมรู้ว่าเรื่องนี้ได้กำลังมาแน่ๆ (I knew this was coming).

บ. ก. :    ใช่.

บ. ก. :    หกเดือนหลังจากเป็นนั่น (six months after), คุณมองย้อนกลับไปที่ครึ่งปีแรกนั่นอย่างไรล่ะ? (how do you look back at the first half of the year?)

ย. ว. :    การตื่นเต้นสุดๆ(extremely exciting), จากจุดมองสุดในทัศนะส่วนตัวนะ(from a personal point of view), และการผิดหวังเป็นอย่างมาก(and very disappointing), เพราะว่าเราได้มีโอกาสที่จะเริ่มเดินเครื่องใหม่/รีบู้ตกับยูโรโซน(because we had an opportunity to reboot the Eurozone). ไม่ใช่แค่กรีซ(not just Greece), แต่ทั้งยูโรโซน(the Eurozone).

         การที่จะเคลื่อนย้ายออกไปจากความพึงพอใจนั้น(to move away from the complacency)และการปฏิเสธอย่างต่อเนื่องว่ามีมวลมโหฬารหนึ่ง(and the constant denial that there was a massive) – และมีมวลมโหฬารของเส้นปริแตกแบ่งทางสถาปัตยกรรม(there is a massive architectural fault line)กำลังลากผ่านยูโรโซน(going through Eurozone), ที่กำลังคุกคามขู่เข็ญ(which is threatening), อย่างมโหฬาร(massively), ทั้งหมดของกระบวนการสหภาพยุโรป(the whole of the European Union process).

         เราได้มีโอกาสบนพื้นฐานของโครงงานกรีก(we had an opportunity on the basis of the Greek program) – ที่อีกประการหนึ่ง(which by the way), เป็นโครงงานอันดับแรที่จะสำแดงพิสูจน์การปฏิเสธนั้น(the first program to manifest that denial) – ที่จะทำให้มันถูกต้อง(to put it right).

         และ, อย่างไม่มีโชค(unfortunately), อำนาจทั้งหลายในยูโรโซน(the powers in the  Eurozone), ในกลุ่มยุโรป(in the Eurogroup), เลือกที่จะยังคงรักษาการปฏิเสธนั้นไว้(choose to maintain denial).

         แต่คุณก็รู้ว่าบังเกิดอะไรขึ้น(but you know what happens). นี่คือประสบการณ์ของสหภาพโซเวียต(this is the experience of the Soviet Union).

         เมื่อคุณพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป(when you try to keep alive)และระบบเศรษฐกิจที่สถาปัตยกรรมของมันไม่สามารถอยู่รอดได้(an economic system that architectural cannot survive), แต่ผ่านทางการเมืองจะทำได้(through political will), และผ่านเผด็จการนิยม(and through authoritarianism), คุณอาจจะประสบสำเร็จในการยืดเยื้อขยายมันออกไป(you may succeed in prolonging it), แต่เมื่อการเปลี่ยนแปลงบังเกิดขึ้น(when change happens), มันบังเกิดขึ้นในฉับพลันและอย่างย่อยยับ(it happens abruptly and catastrophically).

บ. ก. :    โอเค. การเปลี่ยนแปลงประเภทอะไรที่คุณกำลังมองเห็นล่วงหน้า? (what kind of change are you foreseeing?)

ย. ว. :    เอาละ, ไม่มีความสงสัยเลย (there’s no doubt) ว่าถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมของยูโรโซน (that if we don’t change the architecture of Eurozone), ยูโรโซนก็ไม่มีอนาคต (the Eurozone has no future).

บ. ก. :    คุณได้ทำความผิดพลาดบ้างไหมเมื่อตอนที่คุณเป็นรัฐมนตรีคลัง? (did you make any mistake when you were Finance Ministry?)

ย. ว. :    ทุกวันเลย (everyday).

บ. ก. :    ตัวอย่างเช่น? (for example?)

ย. ว. :    ใครก็ตามผู้ชอบมองย้อนกลับ – ไม่อ่ะ, แต่พูดจริงๆนะ (no, but seriously). ถ้ามีรัฐมนตรีของคลังคนใด, หรืออะไรอื่นสำหรับเรื่องนั้น(or anything else for that matter), ถ้ามีผู้บอกกับคุณภายหลังหกเดือนในงานหนึ่ง(who tells you after sis months in a job), โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเต็มเปี่ยมเช่นนั้น(especially in such a stressful

situation), ว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลย (that they have made no mistake), พวกเขาเป็นพวกคนอันตรายแล้ว (they’re dangerous people).

         แน่นอนละว่าผมได้ทำผิดพลาดทั้งหลาย (of course I made mistakes). ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการเซ็นอนุมัติคำร้องสำหรับการขยายสัญญากู้ยืมเงิน (the greatest mistake was to sign the application for the extension of a loan agreement)ในตอนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์(in the end of February).

         ผมกำลังจินตนาการอยู่ว่านั่นมีความสนใจอย่างแท้จริงในด้านของเจ้าหนี้ทั้งหลายเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน (there was a genuine interest on the side of the creditors to find common ground). และมันไม่เป็นเช่นนั้น(and there wasn’t).

         พวกเขาสนใจง่ายๆแต่แค่การบดขยี้รัฐบาลของเรา(they were simply interested in crushing our government), แค่เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการจะไปมีความเกี่ยวข้องอะไรกับสถาปัตยกรรมของรอยเลื่อนแยก(just because they did not want to have to deal with the architectural fault lines)ที่กำลังวิ่งทะลุผ่านยูโรโซน(that were running through the Eurozone).

และเพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะยอมรับว่า(and because they didn’t want to admit that)เป็นเวลาห้าปีแล้วที่พวกเขาได้ดำเนินการโครงงานวิบัติหายนะขึ้นในประเทศกรีซ(for five years they were implementing a catastrophic program in Greece). เราได้สูญเสียหนึ่งในสามของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่เป็นตัวเงิน(we lost one-third of our nominal GDP. นี่เป็นความเลวร้ายยิ่งไปกว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่(this worse than the Great Depression9).

9https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88

และไม่มีใครที่มากวาดทำความสะอาดเลย(and no one has come clean)จากทรอยก้า(troika – กลุ่มประสานงานเฉพาะกิจ)ของผู้ให้กู้ทั้งหลายที่ได้โอ่อ่าสง่างามในนโยบายนี้(from the troika of lenders that have been imposing this policy)ที่จะมาพูดว่า, “นี่ได้เป็นความผิดพลาดอย่างมหึมา (this was a colossal mistake).

บ. ก. :    ถึงแม้จะเป็นทั้งหมดนี้ (despite all this), และแม้จะเป็นข้อถกเถียงกันมาอย่างแข็วงกร้าว (despite of aggressiveness of the discussion), คุณก็ดูเหมือนจะยังคงค่อนเข้าข้างหนุนกลุ่มยุโรป (you seem to be remaining quite pro-European).

ย. ว. :    อย่างแน่นอนเลย(absolutely), นี่นะ, การวิพากษ์วิจารณ์ของผมต่อสหภาพยุโรปและยูโรโซน(my criticism of the European Union and Eurozone), มาจากบุคคลหนึ่งผู้ที่อาศัยและหายใจอยู่ในยุโรป(comes from a person who lives and breathes Europe). ความกลัวอย่างยิ่งที่สุดของผม(my greatest fear)คือว่ายูโรโซนนั้นจะไม่อยู่รอดได้(is that the Eurozone will not survive). เพราะว่าถ้ามันไม่รอด(if it doesn’t), แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางทั้งหลาย(the centrifugal forces)นั่นจะถูกปลดปล่อย(that will be unleashed), จะเป็นเหมือนปล่อยปีศาจหลุดออกมา(will be demonic), และพวกนั้นก็จะทำลายสหภาพยุโรป(and they will destroy the European Union).

         และนั่นก็จะไม่ได้เป็นความหายนะวิบัติแค่ยุโรป(and that will be catastrophic not just for Europe)แต่กับเศรษฐกิจของทั่วทั้งโลก(but for the whole global economy).

         เราอาจจะคือเศรษฐกิจที่โตที่สุดในโลก(we are probably the largest economy in the world).

         และถ้ายินยอมให้ตัวเราเอง(allow ourselves)ที่จะร่วงลงไปสู้เส้นทางของยุคโพสต์โมเดิร์น 1930(fall into a route of the postmodern10 1930s), ซึ่งดูจะสำหรับผมแล้วเป็นอะไร

         10https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1

ที่เรากำลังทำกันอยู่(which seems to me to be what we are doing), แล้วนั่นก็จะเป็นอันตรายต่ออนาคตของสหภาพยุโรปและที่ไม่ได้เป็นสหภาพนี้ด้วยเช่นกัน(that will be detrimental to the future of European and not-European alike).

บ. ก. :     เราหวังเป็นที่สุดว่าคุณจะคาดการณ์ในประเด็นนั้น (we definitely hope you are wrong in that point). ยานิส, ขอบคุณเป็นอย่าวงยิ่งที่มายังรายการTEDนี้.

ย. ว. :    ขอบคุณครับ.

         https://youtu.be/GB4s5b9NL3I?si=e4kjK_7-03T2dubf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น