หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2564

แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต - ดูน พิภพทราย (24)

 

       อะไรหรือที่เจ้าหมิ่นแคลนเหยียดหยาม? โดยนี้คือที่เจ้าได้รู้อย่างแท้จริง.

       ---จาก “คู่มือ มวดดิบ” โดย เจ้าหญิง อีร์อูลาน

 

       “พวกเขาตายแล้ว, ท่านบารอน,” ไออะคิน เนฟุด พูด, กัปตันองครักษ์. “ทั้งผู้หญิงและเด็กชายนั้นได้ตายไปแล้วอย่างแน่นอน.”

       บารอน วลาดิมีร์ ฮาร์คอนเนน ลุกขึ้นนั่งในเครื่องพยุงทั้งหลายของค่ายพักห้องนอนส่วนตัวของเขา. เลยจากค่ายพักเหล่านี้ออกไปและล้อมวงเขาไว้เหมือนเปลือกไข่หลายชั้นซ้อนกันคือเรือยานรบอวกาศที่เขาได้ลงจอดบน อาร์ราคีส. ในค่ายพักทั้งหลายของเขานี้, เช่นกัน, โลหะกระด้างของเรือยานได้ถูกปลอมแปลงด้วยผ้าม่านคลุม, ด้วยเบาะนวมผ้า,และวัตถุศิลปะที่หายาก.

       “มันเป็นที่แน่นอน,” กัปตันองครักษ์พูด. “พวกเขาตายแล้ว.”

       บารอน ย้ายร่างมันวาวของเขาในเครื่องพยุงทั้งหลาย, พ่งความสนใจของเขาบนรูปปั้นอัญมณีเอบาลีน(ebaline statue)ของเด็กชายกำลังกระโจนตั้งอยู่ในช่องผนังฝั่งตรงข้ามห้อง. ความง่วงจางหายไปจากเขา. เขาปรับเบาะรองเครื่องพยุงยืดตัวขึ้นภายไขมันพับย่นที่ต้นคอของเขา, จ้องมองข้ามโคมเรืองแสงเดี่ยวของโถงเตียงนอนของเขาไปยังช่องประตูที่ กัปตัน เนฟุด ยืนถูกกั้นไว้ด้วยโล่ห์พลังเบญจะ(pentashield).

       “พวกเขาได้ตายไปแล้วอย่างแน่นอน, ท่านบารอน,” ชายนั้น ทวนซ้ำ.

       บารอน สังเกตเห็นร่องรอยของพร่ามัวด้วยซีมูตา(semuta*)ในดวงตาของ เนฟุด. มันชัดเจน

       * https://dune.fandom.com/wiki/Semuta

ว่าชายผู้นี้ได้อยู่ในความเคลิบเคลิ้มของฤทธิ์ยาเสพเมื่อตอนที่เขาได้รับรายงานนี้, และหยุดลงด้วยยาถอนก่อนที่จะเร่งรีบมายังที่นี้.

       “ข้ามีรายงานทั้งหมดนี้,” เนฟุด พูด.

       ปล่อยให้เขาเหงื่อตกสักเล็กน้อย, บารอน คิด. ใครก็ต้องคอยทำให้เครื่องมือทั้งหลายของวิธีการทูตให้เฉียบคมและพร้อมอยู่เสมอ. อำนาจและความกลัว---คมและพร้อม.

       “เจ้าเห็นร่างของพวกเขาไหม?” บารอน กระหึ่มรัว.

       เนฟุด ลังเล.

       “ว่าไง?”

       “ฝบาท.....พวกเขาถูกพบเห็นว่าขับยานพุ่งเขาไปในพายุทราย.....ความแรงลมขนาดกว่าแปดร้อยกิโลเมตร. ไม่มีอะไรรอดชีวิตได้ในพายุเช่นนั้น, ฝบาท. ไม่มีรอด! ยานของเราเองลำหนึ่งได้ถูกทำลายจากการไล่ตามไป.”

       บารอน นั้นมองจ้องยัง เนฟุด, สังเกตได้ถึงอาการกระวนกระวายกระตุกในเส้นรอยกรรไกรทั้งหลายของกล้ามเนื้อกรามของชายนั้น, วิธีที่คางเคลื่อนไหวขณะที่ เนฟุด กลืนกล้ำน้ำลาย.

       “เจ้าเห็นร่างพวกนั้นรึ?” บารอน ถาม.

       “ฝบาท---”

       “เพื่อประสงค์อะไรหรือที่เจ้ามาเขย่าเกราะของเจ้าที่นี่?” บารอน ตวาดคำราม. “เพื่อบอกข้าว่าอะไรแน่นอนเมื่อมันไม่ได้แน่นอนรึ? เจ้าคิดว่าข้าจะชื่นชมเจ้าสำหรับความโง่เขลาเช่นนี้, ให้เจ้าได้เลื่อนยศตำแหน่งอื่นอีกรึ?”

       ใบหน้าของ เนฟุด กลายเป็นซีดเผือดดุจกระดูก.

       ดูเจ้าลูกไก่นี้สิ, บารอน คิด. ข้าได้ถูกรายล้อมอยู่ด้วยพวกทึ่มโง่ไร้ประโยชน์อะไรเช่นนี้. ถ้าข้าหว่านเม็ดทรายลงตรงหน้าสิ่งมีชีวิตนี้และบอกกับเขาว่ามันเป็นเม็ดพิช, เขาก็คงจะจิกกินมัน.

       “ชายที่คือ ไอดาโฮ ได้เรานำเราไปยังพวกเขา, สินะ?” บารอน ถาม.

       “ใช่ขอรับ, ฝบาท!

       ดูสิว่าเขาพรวดโพล่งคำตอบของเขาออกมาอย่างไร, บารอน คิด. เขาพูด: “พวกนั้นได้กำลังพยายามที่จะหลบหนีไปหาพวกฟรีเมน, เอ๋?”

       “ใช่ขอรับ, ฝบาท.”

       “มีอะไรมากกว่านี้ไหม....ในรายงาน?”

       นักนิเวศพิภพวิทยา ของ จักรวรรดิ, คายนิ์ส, ถูกเกี่ยวข้องอยู่ด้วย, ฝบาท. ไอดาโฮ อยู่ร่วมกับ คายนิ์ส ผู้นี้ภายใต้สถานการณ์มีเงื่อนงำ.....ข้าอาจจะพูดไปได้ว่า สถานการณ์เหล่านั้นที่น่าสงสัย.”

       “แล้วไง?”

       “พวกเขา.....เอ้อ, หลบหนีไปด้วยกันยังที่แห่งหนึ่งในทะเลทรายที่ซึ่งเด็กชายนั้นกับมารดาของเขากำลังซ่อนตัวอยู่. ในความตื่นเต้นของการไล่ล่านั้น, หลายกลุ่มของเราถูกติดกับสูญเสียไปในการระเบิดของของของโลห์-ป้องกันปืนเลซ.”

       “เราสูญเสียไปมากเท่าไหร่?”

       “ข้า.....เอ้อ, ยังไม่แน่ใจขอรับ, ฝบาท.”

       เขกำลังโกหก, บารอน คิด. มันต้องเป็นที่เลวร้ายเลยล่ะ.

       “ขี้ข้าราชจักรพรรดิ, คายนิ์ส คนนี้,” บารอน พูด. “เขากำลังเล่นเกมสองหน้า, เอ๋?”

       “ข้าเดิมพันด้วยชื่อเสียงของข้าได้เลยขอรับ, ฝบาท.”

       ชื่อเสียงของเขา!

       “ฆ่าชายคนนั้นซะ,” บารอน พูด.

       “ฝบาท! คายนิ์สิ เป็น นักนิเวศพิภพวิทยาของจักรวรรดิ, ข้ารับใช้ขององค์จักร---”

       “ทำให้มันเป็นเหมือนอุบัติเหตุสิ, งั้น!

       “ฝบาท, มีพวกซาร์เดาการ์อยู่ในกองกำลังของเราในการปราบปรามรังของพวกฟรีเมนนี้. พวกนั้นได้ตัว คายนิ์ส ไปควบคุมไว้ในตอนนี้.”

       “เอาเขามาจากพวกนั้น. บอกไปว่าข้าปรารถนาที่จะสอบสวนเขาด้วยตนเอง.”

       “ถ้าพวกเขาไม่ยอมล่ะขอรับ?”

       “พวกเขาจะไม่ ถ้าเจ้าจัดการมันอย่างถูกต้อง.”

       เนฟุด กลืนน้ำลาย. “ขอรับ, ฝบาท”

       “ชายคนนี้ต้องตาย,” บารอน คำรามรัว. “เขาได้พยายามที่จะช่วยศัตรูของข้า.”

       เนฟุด ขยับโยกตัวจากเท้าหนึ่งไปอีกเท้า.

       “ว่าไง?”

       “ฝบาท, พวกซาร์เดาการ์ได้....จับกุมสองคนไว้อยู่ในการควบคุมซึ่งอาจจะเป็นที่สนใจต่อท่าน. พวกเขาจับตัว ปรมาจารย์แห่งการลอบสังหาร ของดยุคเอาไว้ได้.”

       ฮาวัต รึ? ธูเฟอร์ ฮาวัต?”

       “ข้าได้เห็นตัวเชลยนั้นด้วยตนเองขอรับ, ฝบาท, เป็น ฮาวัต ผู้นี้.”

       “ข้าไม่เคยคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเป็นไปได้!

       “พวกเขาบอกว่า เขาถูกซัดสลบด้วยเครื่องยิงสตันเนอร์, ฝบาท. ในทะเลทรายที่เขาไม่สามารถใช้โล่ห์พลังของตัวเองได้. เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัดนัก. ถ้าเราสามารถลงมือกับเขาเองได้, เขาก็น่าจะสร้างเกมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ให้ได้.”

       “นี่เป็น เมนทาต ที่เจ้ากำลังพูดถึง,” บารอน ขู่คำราม. “ใครก็ไม่อาจทำเสียเปล่ากับ เมนทาต. เขาได้พูดอะไรไหม? เขาพูดอะไรถึงการพ่ายแพ้ของเขา? เขาสามารถรู้ถึงขอบเขตของ.....แต่ไม่สิ.”

       “เขาพูดแค่เพียงพอเท่านั้น, ฝบาท, ที่จะเปิดเผยความเชื่อของเขาว่า ท่านหญิงเจสสิกา เป็นผู้ทรยศของเขา.”

       “อ้า-ห-ห-ห.”

       บารอน จมร่างลงกลับไป, คิด, แล้ว: “เจ้าแน่นใจรึ? ว่าเป็นท่านหญิงเจสสิกา คือผู้ที่ดึงดูดความโกรธของเขา?”

       “เขาพูดมันต่อหน้าของข้าเลย, ฝบาท.”

       “ปล่อยให้เขาคิดว่าเธอยังคงมีชีวิตอยู่, งั้น.”

       “แต่, ฝบาท---”

       “เงียบไว้เถอะ. ข้าปรารถนาให้ ฮาวัต ได้รับการปฏิบัติอย่างนุ่มนวล. เขาต้องไม่ถูกบอกเล่าอะไรทั้งสิ้นในเรื่องของ ดอกเตอร์ หยัว ที่ตายไปแล้ว, ที่คือ ผู้ทรยศตัวจริงของเขา. ให้พูดกันออกไปว่า ดอกเตอร์ หยัว ตายไปกับการต่อสู้ปกป้องดยุคของเขา. ในระดับหนึ่งแล้ว, นี่อาจจะกระทั่งเป็นความจริงด้วย. เราจะ, แทนที่, ป้อนอาหารความสงสัยของเขาที่มีต่อ ท่านหญิงเจสสิกา เข้าไปอีก.”

       “ฝบาท, ข้าไม่คิดว่า---”

       “หนทาง ที่จะควบคุมและกับ เมนทาต นั้น, เนฟุด, คือผ่านข้อมูลของเขา. ข้อมูลผิดๆ---ย่อมได้ผลลัพธ์ผิดๆ.

       “ขอรับ, ฝบาท, แต่.....”

       “ฮาวัต หิวไหม? กระหายไหม?”

       “ฝบาท, ฮาวัต นั่นยังตกอยู่ในกำมือของพวกซาร์เดาการ์!

       “ใช่. จริงแท้, ใช่. แต่ซาร์เดาการ์จะไม่กระตือรือร้นที่จะได้ข้อมูลจาก ฮาวัต เหมือนเช่นข้า. ข้าได้สังเกตห็นสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับพันธมิตรของเรา, เนฟุด. พวกนั้นไม่ได้แสร้งเสมากนัก.....ทางการเมือง. ข้าเชื่ออย่างยิ่งว่านี้คือสิ่งที่ตั้งใจทำอย่างรอบคอบ; จักรพรรดิต้องการมันเป็นวิธีนั้น. ใช่. ข้าเชื่อมันอย่างยิ่งเช่นนั้น. เจ้าจะเตือนให้ผู้บัญชาการซาร์เดาการ์ถึงกิตติศัพท์ของข้าในการได้มาซึ่งข้อมูลจากพวกคนในควบคุมที่ไม่เต็มใจ.”

       เนฟุด ท่าทางไม่เป็นสุข. “ขอรับ, ฝบาท.”

       “เจ้าจะบอกผู้บัญชาการซาร์เดาการ์นั่นว่าข้าปรารถนาที่จะสอบถามทั้ง ฮาวัต และ คายนิ์ส ผู้นี้ในเวลาเดียวกัน, เล่นให้คนหนึ่งค้านอีกคนหนึ่ง. เขาจะสามารถเข้าใจมากขึ้นถึงเรื่องแบบนี้ได้, ข้าคิดว่า.”

       “ขอรับ, ฝบาท.”

       “และทันทีที่เราได้ตัวพวกเขามาอยู่ในมือของเรา.....” บารอน พยักหน้า.

       “ฝบาท, ซาร์เดาการ์นั่นจะอยากเป็นผู้สังเกตการณ์กับท่านในระหว่างใดๆ....ในการสอบถาม.”

       “ข้าแน่ใจว่าเราสามารถสร้างความฉุกเฉินที่จะดึงลากพวกเขาออกไปจากผู้สังเกตการณ์ทั้งหลายที่ไม่พึงประสงค์ใดๆนี้ได้, เนฟุด.”

       “ข้าเข้าใจ, ฝบาท. ว่านั่นคือเมื่อ คายนิ์สสามารถมีอุบัติเหตุของเขาได้.”

       “ทั้ง คายนิ์ส และ ฮาวัต จะมีอุบัติเหตุจากนั้น, เนฟุด. แต่มีเพียง คายนิ์ส เท่านั้นที่จะมีอุบัติเหตุจริง. มันจะเป็น ฮาวัต ที่ข้าตองการง ใช่, อ้า, ใช่.”

       เนฟุด กะพริบตา, กลืนน้ำลาย. เขาทำท่าทางจะถามอะไรอีก, แต่ยังคงนิ่งเงียบอยู่.

       ฮาวัต จะได้รับทั้งอาหารและเครื่องดื่ม,” บารอน พูด. “ถูกปฏิบัติด้วยความกรุณา, ด้วยความเนใจ. ในน้ำของเขาเจ้าจะจัดการด้วยยาพิษที่เหลืออยู่ซึ่งพัฒนาโดย ไพเตอร์ เดอ วรีส์ ผู้ล่วงลับ. และเจ้าจะเห็นว่ายาแก้พิษกลายมาเป็นส่วนหนึ่งตามปกติในการควบคุมอาหารของฮาวัตจากจุดนี้ไป.....จนกว่าข้าจะบอกเป็นอย่างอื่น.”

       “ยาถอนพิษ, ขอรับ.” เนฟุด สั่นศีรษะของเขา. “แต่---”

       “อย่าเป็นทึบทึ่ม, เนฟุด. ดยุค นั่นเกือบฆ่าข้าด้วยแค็ปซูล-ยาพิษในฟัน. แก๊สนั่นเขาหายใจออกมาเข้าไปในที่ที่ข้าอยู่ด้วย ตัดทอนข้าจาก เมนทาต อันมีค่าที่สุดของข้า, ไพเตอร์. ข้าจำเป็นต้องได้มาทดแทน.”

       ฮาวัต?”

       ฮาวัต.”

       “แต่---”

       “เจ้ากำลังจะพูดว่าความจงรักภักดีของ ฮาวัต นั้นสมบูรณ์สิ้นต่อ อะไทรดิส. ก็จริง, แต่ตระกูลอะไทรดิส ตายไปแล้ว. เราจะเว้าวอนเขา. เขาต้องถูกชักจูงว่าเขานั้นไม่ได้ถูกตำหนิประนามสำหรับการตายของ ดยุค. ทั้งหมดนั้นเป็นการกระทำของนาแม่มดเบเน เกสเสอริต. เขาเป็นเพียงหัวหน้างานผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา, ผู้ที่เหตุผลขอบตนถูกปกคลุมด้วยอารมณ์ความรู้สึก. เมนทาตทั้งหลาย ยกย่องการคาดคำนวณโดยปราศจากอารมณ์ความรู้สึก, เนฟุด. เราจะเว้าวอน ธูเฟอร์ ฮาวัต ผู้น่าเกรงขามนี้.”

       “เว้าวอนเขา. ขอรับ, ฝบาท.”

       ฮาวัต, โชคไม่ดี, มีเจ้านายผู้ที่ไหวพริบนั้นแย่, คนผู้ซึ่งไม่สามารถยกระดับ เมนทาต ขึ้นไปสู่จุดยอดสุดความล้ำเลิศทั้งหลายของการใช้เหตุผลที่เป็นความเหมาะสมของเมนทาต. ฮาวัต จะเห็นสภาพธรรมชาติที่แน่ชัดของความสัจในเรื่องนี้. ดยุคนั่นไม่สามารถมีสายลับทั้งหลายพอที่จะจัดหาข่าวสารข้อมูลที่ต้องการให้กับเมนทาตของเขา,” บารอน จ้องยัง เนฟุด. “อย่าให้เราได้หลอกลวงตัวเราเองเลย, เนฟุด. ความสัจเป็นอาวุธที่ทรงพลัง. เรารู้ว่าเราได้เอาชนะอย่างท่วมท้นต่อ อะไทรดิส ได้อย่างไร. ฮาวัต รู้ด้วย, เช่นกัน. เราทำมันด้วยความมั่งคั่ง.”

       “ความมั่งคั่ง. ขอรับ, ฝบาท.”

       “เราจะเว้าวอน ฮาวัต,” บารอน พูด. “เราจะซ่อนเขาจากพวกซาร์เดาการ์. และเราจะควบคุมสำรองไว้.....การเก็บคืนของยาถอนพิษสำหรับยาพิษ. ไม่มีหนทางในการเคลื่อนย้ายยาพิษที่ยังเหลืออยู่ได้. และ, เนฟุด, ฮาวัต จะไม่จำเป็นต้องการความสงสัย. ยาถอนพิษจะไม่ทรยศตัวมันเองต่อกล้องสนู้ปเปอร์ตรวจหายาพิษนั้น. ฮาวัต สามารถสแกนอาหารของเขาได้ตามความพอใจของเขาและตรวจหาไม่เจอร่องรอยของยาพิษ.”

       ตาของ เนฟุด เบิกกว้างด้วยความเข้าใจ.

       “การหายไปของสิ่งหนึ่ง,” บารอน พูด, “นี้สามารถเป็นอันตรายได้เท่าๆกับการมีอยู่. การหายไปของอากาศ, เอ๋? การหายไปของน้ำ? การหายไปของสิ่งใดอื่นที่เราเสพติดอยู่กับมัน.” บารอน พยักหน้า. “เจ้าเข้าใจข้าแล้วนะ, เนฟุด?”

       เนฟุด กลืนน้ำลาย. “ขอรับ, ฝบาท.”

       “งั้นก็ยุ่งเข้าไว้. ต้นหาผู้บัญชาการซาร์เดาการ์และจัดตั้งอะไรให้เคลื่อนที่.”

       “ทันทีเลยขอรับ, ฝบาท.” เนฟุด โค้งคำนับ, หันร่าง, และรีบเร่งจากไป.

       ฮาวัต อยู่ข้างข้า! บารอน คิด. พวกซาร์เดาการ์จะให้ตัวเขกับข้า. ถ้าพวกนั้นสงสัยสิ่งใดสักอย่างเลยมันก็คือว่าข้าปรารถนาที่จะทำลาย เมนทาต ผู้นี้. และความสงสัยนี้ข้าก็จะยืนยันให้! เจ้าโง่เอ๊ย! หนึ่งในเมนทาตทั้งหลายที่ล้ำเลิศน่าเกรงขามมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทั้งหมด, เมนทาต ที่ได้ฝึกฝนมาที่จะฆ่า, และพวกนั้นจะโยนเขามาให้ข้าเหมือนยังกับตุ๊กตาของเล่นโง่ๆเพื่อให้แตกพังเสีย. ข้าจะแสดงให้พวกมันดูว่าอะไรที่สามารถทำขึ้นมาได้กับของเล่นนี้.

       บารอน เอื้อมเข้าไปในใต้ผ้าม่านข้างเตียงลอยแขวนของตน, กดปุ่มเพื่อเรียกหาหลานของเขา, แร็บบาน. เขานั่งเอนหลัง, ยิ้ม.

       และ อะไทรดิส ทั้งหมดตายแล้ว!

       กัปตันองครักษ์ปัญญาอ่อนนั้นพูดถูก, แน่เลยล่ะ, ไม่มีอะไรรอดชีวิตได้ในเส้นทางของพายุทรายระเบิดนั้นบนดาว อาร์ราคิส. ไม่แม้กระทั่งยานออร์นิธ็อปเปอร์.....หรือผู้โดยสารของมัน. ผูหญิงและเด็กชายนั้นได้ตายแล้ว. สินบนทั้งหลายต่างอยู่ถูกที่. การจับจ่ายใช้สอยอันคาดไม่ถึงเพื่อนำมาซึ่งกองกำลังทหารอย่างท่วมท้นลงมายังบนดาวเคราะห์หนึ่ง.....ทั้งหมดของรายงานเล่ห์กระเท่ห์สวมใส่แต่งกายให้กับหูของจักรพรรดิแต่ผู้เดียว, อุบายอย่างระมัดระวังทั้งหมดที่ได้อยู่ที่นี่ในที่สุดกำลังมาสู่การบรรุผลเต็มที่.

       อำนาจ และ ความกลัว---ความกลัวและอำนาจ!

       บารอน ได้เห็นมรรคาข้างหน้าของเขา. วันหนึ่ง, ฮาร์คอนเนน ผู้หนึ่ง จะได้เป็น จักรพรรดิ. ไม่ใช่ตัวเขาเอง, และไม่ใช่เชื้อกำเนิดจากอวัยวะสืบพันธุ์อันใดของเขา. แต่ก็เป็น ฮาร์คอนเนน. ไม่ใช่เจ้า แร็บบาน ที่เขาเรียกตัวมานี้, อย่างแน่นอน. แต่เป็นน้องชายของ แร็บบาน, ฟีย์ด-เราธา หนุ่ม. มีความเฉียบคมอย่างหนึ่งอยู่กับเด็กชายผู้นี้ที่ บารอน ชื่นชมพอใจ......ความโหดเหี้ยม.

       เด็กชายที่น่ารัก, บารอน คิด. อีกสักหนึ่งปีหรือสองปี---พูดเสียว่านั้น, ตอนที่เขาอายุสิบเจ็ด, ข้าจะรูได้แน่ชัดว่าเขาเป็นเครื่องมือที่ ราชสำนัก ฮาร์คอนเนน ต้องการหรือไม่ เพื่อได้มาซึ่งบัลลังก์.

       “ฝบาท บารอน.”

       ชายผู้ที่ได้ยืนอยู่ด้านนอกของประตูสนามพลังของโถงประทับนอนของ บารอน เป็นคนร่างต่ำ, อ้วนหนาทั้งใบหน้าและเนื้อตัว, ด้วยดวงตาเรียวแคบเป็นแนวเส้นตามแบบเชื้อสายฮาร์คอนเนนและไหล่นูน. แต่กระนั้นก็ยังมีบางความแข็งทื่ออยู่ในความอ้วนของเขา, แต่มันชัดแจ้งต่อสายตาได้เลยว่าสักวันหนึ่งเขาก็คงต้องใช้เครื่องพยุงแขวนเพื่อแบกน้ำหนักที่พูนล้นออกมาของตน.

       เจ้าสมองถังมีแต่แค่จิตเนื้อ, บารอน คิด. ไม่ใช่ เมนทาต เลยล่ะ, หลานของฉัน.....ไม่ใช่ ไพเตอร์ เด วรีส์, แต่บางทีบางอย่างได้ถ่ายโอนอย่างเที่ยงตรงสำหรับภารกิจในมือของเขา. ถ้าข้าให้เขามีอิสรภาพที่จะทำมัน, เขาก็จะบดบี้ทุกอย่างละเอียดไปในเส้นทางของเขา. โอ, เขาจะถูกเกลียดได้ขนาดไหนกันในที่นี่บน อาร์ราคีส.

       แร็บบาน ที่รักของฉัน,” บารอน พูด. เขาปลดประตูสนามพลังนั้น, แต่เฉียบคมที่ยังให้โล่ห์พลังประจำร่างของตนนั้นเปิดทำงานอยู่เต็มกำลัง, รู้ว่าแสงวูบวาบของมันจะถูกเห็นได้อยู่เหนือลูกกลมเรืองแสงครอบเตียงนอน.

       “ท่านเรียกหาข้า,” แร็บบาน พูด. เขาก้าวเข้ามาในห้อง, ตวัดสายตาเหลือบมองผ่านการกระเพื่อมอากาศของโล่ห์พลังประจำร่าง, มองหาเก้าอี้พยุงลอยสักตัวหนึ่ง, ไม่พบเลย.

       “มายืนใกล้ๆในที่ที่ข้าสามารถมองเห็นเจ้าได้ง่ายๆ,” บารอน พูด.

       แร็บบาน เดินไปข้างหน้าอีกก้าว, คิดว่าเจ้าแก่น่าชังนี้ได้ตั้งใจเคลื่อนย้ายเก้าอี้ออกไปทั้งหมด, บังคับให้ผู้มาเยือนต้องยืน.

       “พวก อะไทรดิส ได้ตายแล้ว,” บารอน พูด “สุดท้ายของพวกเขา. นั่นคือทำไมข้าถึงได้เรียกตัวเจ้ามายัง อาร์ราคิส. ดาวเคราะห์นีเป็นของเจ้าอีกครั้งแล้ว.”

       แร็บบาน กระพริบตา. “แต่ข้าคิดว่าท่านได้กำลังจะมอบให้ ไพเตอร์ เดอ วรีส์ ไปจัด---”

       ไพเตอร์, ก็ด้วย, ได้ตายแล้ว.”

       ไพเตอร์?”

       ไพเตอร์.”

       บารอน เปิดทำงานประตูสนามพลังอีกครั้ง, ห่มคลุมมันต่อการทะลุทะลวงได้ของพลังงานทั้งหมด.

       “ท่านในที่สุดก็เบื่อหน่ายเขาแล้ว, รึ?” แร็บบาน ถาม.

       เสียงของเขาหล่นลงราบเรียบและไร้ชีวิตชีวาในห้องที่ห่มคลุม-พลังงาน.

       “ข้าจะพูดสิ่งหนึ่งกับเจ้าแค่เพียงครั้งนี้,” บารอน คำรามรัว. “เจ้าพูดเป็นนัยว่าข้าได้กำจัดทำลาย ไพเตอร์ ราวกับใครกำจัดทำลายขนมเค้ก.” เขาดีดนิ้วอวบอ้วน. “แค่เช่นนั้น, เอ๋? ข้าไม่ได้โง่เง่า, คุณหลาน. ข้าจะรับมันอย่างไม่ปราณีอีกถ้าเจ้าจะชี้แนะด้วยคำพูดรือการกระทำใดว่าข้านั้นโง่เง่าเช่นนั้น.”

       ความกลัวแสดงออกในดวงตาเอียงเร่ของ แร็บบาน. เขารู้ภายในขอบจำกัดทั้งหลายชัดเจนว่าไกลแค่ไหนที่ บารอนเฒ่า จะไปได้แค่ไหนกับครอบครัว. แทบจะไม่ถึงตายนอกเสียจากว่ามีการระรานผลประโยชน์หรือยั่วยุอารมณ์ในการนั้น. แต่การลงโทษของครอบครัวสามารถเป็นสิ่งเจ็บปวดเต็มที่ได้.

       “โปรดอภัยแก่ข้า, ฝบาท บารอน,” แร็บบาน พูด. เขาลดสายตาลงต่ำมากเท่าที่จะซ่อนความโกรธของตนเองได้เพื่อแสดงการอ่อนน้อมยอมจำนน.

       “เจ้าอย่าได้หลอกลวงข้า, แร็บบาน,” บารอน พูด.

       แร็บบาน ยังคงให้สายตาของตนลดต่ำลงอยู่, กล้ำกลืนน้ำลาย.

       “ข้าจะเข้าประเด็นให้,” บารอน บอก. “อย่าได้กำจัดทำลายผู้ใดโดยไม่คิดให้ดีเสียก่อน, มรรคาของระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ทั้งปวงต้องทำมันผ่านบาง กระบวนการตามกฎหมาย. จงทำมันเพื่อจุดประสงค์ที่สำคัญกว่าเสมอ---และ รู้ถึงจุดประสงค์ของเจ้า!

       ความโกรธปะทุออกมาในคำพูดของ แร็บบาน: “แต่ท่านได้กำจัดทำลายล้างผู้ทรยศ. หยัว? ข้าได้เห็นร่างของเขาถูกหามออกไปตอนที่ข้ามาถึงเมื่อคืนนี้.”

       แร็บบาน จ้องมองลุงของตน, ทันใดนั้นก็ตกใจกลัวด้วยเสียงของคำพูดเหล่านั้น.

       แต่ บารอน กลับยิ้มแย้ม. “ข้าระมัดระวังอย่างมากเกี่ยวกับอาวุธที่อันตรายทั้งหลาย,” เขาพูด. “ดร. หยัว เป็นผู้ทรยศ. เขาให้ตัว ดยุค แก่ข้า.” ความเข้มแข็งรินเข้ามาในน้ำเสียงของ บารอน. “ข้า ได้ติดสินบน หมอแห่ง สำนักสิกขา นั้น! วิทยาลัยภายใน! เจ้าได้ยินไหม, ไอ้หนู? แต่นั่นก็เป็นอาวุธชนิดป่าเถื่อนที่จะปล่อยทิ้งไว้ให้เกลื่อนกลาดกับเรื่องนี้ได้. ข้าไม่ได้กำจัดทำลายเขาอย่างเป็นทางการ.”

       “องค์จักรพรรดิทราบเรื่องที่ท่านติดสินบน หมอของสำนึกสิกขา ไหม?”

       เรื่องนี้เป็นคำถามที่แทงทะลุ, บารอน คิด. ข้าตัดสินพลาดไปกับหลานผู้นี้รึ?

       จักรพรรดิ ยังไม่รู้ในเรื่องนี้,” บารอน พูด. “แต่ซาร์เดาการ์ของเขาแน่ใจได้เลยว่าต้องรายงานมันไปยังเขา. ก่อนที่นั่นจะบังเกิดขึ้น, กระนั้น, ข้าจะมีรายงานของข้าเองอยู่ในมือของเขาผ่านช่องทางของ โชอัม กัมปะนี. ข้าจะอธิบายว่าข้านั้น โชคดี ที่ได้ค้นพบว่าหมอคนหนึ่งผู้แสร้งเป็นสถานะเงื่อนไขนั้น. หมอปลอมคนหนึ่ง, เจ้าเข้าใจมั๊ย? ในเมื่อทุกคนรู้ว่าเจ้าไม่สามารถคัดค้านต่อสถานะเงื่อนไขแห่ง สำนักสิกขา ได้, เรื่องนี้ก็จะเป็นที่ยอมรับ.”

       “อ้า-ห-ห, ข้าเห็นแล้ว,” แร็บบาน พึมพำ.

       และ บารอน คอด: จริงแท้ล่ะ, ข้าก็หวังว่าเจ้าจะมองเห็นได้. ข้าหวังว่าเจ้าได้เห็นว่ามันสำคัญต่อชีวิตอย่างรที่เรื่องนี้ต้องยังคงเป็นความลับ. บารอน ทันใดนั้นกังขาในตนเอง. ทำไมข้าทำเช่นนั้นรึ? ทำไมข้าถึงต้องคุยโวโอ้อวดต่อเจ้าหลานหน้าโง่ของข้านี้---เจ้าหลายที่ข้าต้องใช้งานแล้วโยนทิ้ง? บารอน รู้สึกโกรธกับตัวเอง. เขารู้สึกเป็นผู้ทรยศ.

       “มันต้องถูกเก็บเป็นความลับ,” แร็บบาน พูด. “ข้าเข้าใจ.”

       บารอน ถอนหายใจ. “ข้าให้คำแนะนำแก่เจ้าที่แตกต่างไปเกี่ยวกับ อาร์ราคิส ในคราวนี้, คุณหลาน. เมื่อครั้งสุดท้ายที่เจ้าปกครองสถานที่นี้, ถ้ากุมเจ้าไว้ด้วยสายบังเหียนอย่างแข็งแรง. คราวนี้, ข้ามีความต้องการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น.”

       “ฝบาท?”

       “รายรับ.”

       “รายรับ?”

       “เจ้ามีความคิดบ้างไหม, แร็บบาน, ว่ามากเท่าไรที่เราได้ใช้จ่ายไปเพื่อนำมาซึ่งกองกำลังทหารเช่นนี้เพื่อได้รับผลบน อาร์ราคิส? เจ้าได้เฉลียวใจกระทั่งเป็นนครั้งแรกบ้างไหมว่า กิลด์ คิดค่าใช้จ่ายในการขนส่งกำลังทหารนี้มากเท่าไร?”

       “แพงมาก, เอ๋?”

       “แพงมาก!

       บารอน ยิงมืออ้วนไปยัง แร็บบาน. ถ้าเจ้าบีบเค้น อาร์ราคิส เพื่อทุกเซนต์ที่มันสามารถให้เราได้สักหกสิบปี, เจ้าก็จะเกือบใช้กนี้เราได้!

       แร็บบาน เปิดปากของเขา, แล้วหุบปิดมันลงโดยม่พูด.

       “แพงมาก,” บารอน เหน็บ. “เจ้ากิลด์ห่านรกนั่นผูกขาดกับอวกาศจะได้ทำลายถ้าไม่มีแผนการสำหรับค่าใช้จ่ายนี้นานมาก่อนแล้ว. เจ้าควรจะรู้, แร็บบาน, ว่าเราแบกรับน้ำหนักรุนแรงทั้งปวงนี้ของมัน. เรากระทั่งยังจ่ายค่าขนย้ายพวกซาร์เดาการ์ด้วย.”

       และไม่ได้เป็นครั้งแรก, บารอน สงสัยในใจว่าจะได้เคยมีสักวันหนึ่งไหมเมื่อ กิลด์ ถูกเลี่ยงหลีกได้. พวกนั้นมีเล่ห์เหลี่ยม---เลือดไหลออกมาเพียงแค่พอที่จะรักษาเจ้าภาพไม่ปฏิเสธค้านจนกระทั่งพวกเขาได้เจ้าไปอยู่ในกำมือของพวกมันที่ซึ่งพวกมันสามารบีบบังคับเจ้าให้จ่ายและจ่ายและจ่าย.

       เสมอล่ะ, อุปสงค์มากเกินไปได้ขี่อยู่เหนือการร่วมทุนทางทหาร. “อัตราความเสี่ยงอันตราย,” ตัวแทนมันเยิ้มของ กิลด์ อธิบาย. และสำหรับทุกตัวแทนเจ้าบริหารจัดการที่จะสอดแทรกดุจสุนัขเฝ้าระวังในโรงสร้างของธนาคารกิลด์, พวกมันจะวางสองตัวแทนเข้ามาในระบบของเจ้า.

       เหลือที่จะทน!

       “รายรับ งั้น,” แร็บบาน พูด.

       บารอนลดแขนของเขาลง, ทำเป็นกำปั้น. “เจ้าต้องบีบเค้น.”

       “และข้าอาจทำอะไรก็ได้ที่ข้าปรารถนาตราบนานที่ข้าบีบเค้นรึ?”

       “อะไรก็ได้.”

       “ปืนใหญ่ทั้งหลายที่นำมา,” แร็บบาน พูด. “ข้าสามารถ---”

       “ข้ากำลังย้ายพวกมันออก,” บารอน พูด.

       “แต่ท่าน---”

       “เจ้าจะไม่จำเป็นต้องมีของเล่นเช่นนั้น. พวกมันเป็นนวัตกรรมพิเศษและตอนนี้ไร้ประโยชน์. เราจำเป็นต้องการโลหะ. พวกมันไม่สามารถทะลุไปผ่านต่อโล่พลังได้, แร็บบาน. พวกมันแทบจะไม่ได้คาดเอาไว้. มันเป็นที่พอจะทำนายล่วงหน้าได้ว่า คนของ ดยุค จะล่าถอยไปยังถ้ำที่เชิงผานั้นบนดาวเคราะห์ที่น่าชังนี้. ปืนใหญ่ของเราแค่ปิดผนึกขังพวกเขาไว้ข้างใน.”

       “พวกรีเมนไม่ใช้โล่พลังทั้งหลาย.”

       “เจ้าอาจเก็บปืนเลซบางส่วนเอาไว้ถ้าเจ้าปรารถนา.”

       “ขอรับ, ฝบาท. และข้ามีมืออิสระ.”

       “ตราบนานที่เจ้าบีบคั้น.”

       ยิ้มของ แร็บบาน เบ่งบานกิเลส. “ข้าเข้าใจอย่างสมบูรณ์แล้ว, ฝบาท.”

       “เจ้าไม่เข้าใจในอะไรสมบูรณ์สักอย่าง,” บารอน คำราม. “เรามาทำให้กระจ่างชัดกันตั้งแต่แรกเถอะ. อะไรที่เจ้าต้องเข้าใจก็คือการทำอย่างไรที่จะดำเนินการตามคำสั่งทั้งหลายของข้า. ให้มันอุบัติขึ้นต่อเจ้า, คุณหลาน, ว่าอย่างน้อยที่สุดมีห้าล้านคนบนดาวเคราะห์นี้.”

       “ฝบาทลืมไปแล้วหรือว่าข้าได้เป็นอุปราชในพระองค์ในที่นี่มาก่อน? และถ้า ฝบาท จะให้อภัยข้า, ประมาณการของเขาอาจจะต่ำไป. มันยากที่จะตรวจนับประชากรที่กระจัดกระจายร่อนเร่อยู่ตามแอ่งอ่างและกระทะอย่างที่พวกนั้นเป็นกันที่นี่. และเมื่อท่านพิจารณาไปว่าพวกฟรีเมนของ----”

       “พวกฟรีเมนไม่มีค่ากับการพิจารณา.”

       “อภัยต่อข้า, ฝบาท, แต่พวกซาร์เดาการ์เชื่อไปอีกอย่างอื่น.”

       บารอน ลังเล, จ้องมองหลานของตน. “เจ้ารู้อะไรบางอย่างรึ?”

       “ฝบาท ได้เข้านอนแล้วตอนที่ข้ามาถึงเมื่อคืนนี้. ข้า.....อ้า, ใช้เสรีภาพในการติดต่อบางผู้หมวดของข้าจาก.....อ้า, ก่อนนี้. พวกเขาได้กระทำตนเป็นมัคคุเทสก์ให้กับพวกซาร์เดาการ์นั้น. พวกเขารายงานว่า กลุ่มฟรีเมนหนึ่งได้ลอบโจมตีกองกำลังซาร์เดาการ์หนึ่งที่สักใดแห่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของที่นี่และกวาดไปเรียบ.”

       “กวาดเรียบกองทหารซาร์เดาการ์รึ?”

       “ขอรับ, ฝบาท.”

       “เป็นไปไม่ได้!

       แร็บบาน ยักไหล่.

       “ฟรีเมนเอาชนะซาร์เดาการ์,” บารอน เหน็บ.

       “ข้ากล่าวทวนตามที่ได้รายงานต่อข้า,” แร็บบาน พูด. “มันได้บอกว่ากองกกำลังฟรีเมนนี้ได้จับตัวผู้น่าเกรงขามของดยุค, ธูเฟอร์ ฮาวัต เอาไว้.”

       “อ้า-ห-ห-ห-ห-ห.”

       บารอน พยักหน้า, ยิ้ม.

       “ข้าเชื่อถือรายงานนั้น,” แร็บบาน พูด. “ท่านคิดไม่ถึงหรอกว่าปัญหาอะไรที่พวกฟรีเมนนี้เป็นได้.”

       “บางที, แต่นี่คงไม่ใช่ฟรีเมนที่ผู้หมวดทั้งหลายของเจ้าได้เห็น. พวกนั้นต้องเป็นคนของ อะไทรดิส ที่ถูกฝึกมาโดย ฮาวัต และปลอมแปลงตัวเป็นฟรีเมน. พวกซาร์เดาการ์ ได้ปล่อยเริ่มโครงงานที่จะกวาดล้างพวกฟรีเมนออกมาแล้ว.”

       “ดี!

       “แต่---”

       “มันจะทำให้พวกซาร์ดาการ์ยุ่งวุ่นวายอยู่. และเราจะในไม่ช้าได้ตัว ฮาวัต มา. ข้ารู้นั่นได้! ข้ารู้สึกนั่นได้! อ้า, นี่เป็นได้อีกหนึ่งวัน! พวกซาร์เดาการออกไปตามล่าสองสามกองโจรที่ไร้ประโยชน์ขณะที่เราได้รางวัลของจริง!

       “ฝบาท.....” แร็บบาน ลังเล, ขมวดคิ้ว. “ข้าได้รู้สึกอยู่เสมอว่าเราประเมินต่ำปับพวกฟรีเมน, ทั้งจำนวนและใน---”

       “อย่าไปสนใจพวกมัน, ไอ้หนู! พวกมันชนชั้นต่ำ. เป็นประชากรในเมืองทั้งหลาย, ในนครทั้งหลาย, และในหมู่บ้านทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับเรา. ผู้คนมากมามหาศาลอยู่ที่นั่น, เอ๋?”

       “มากมายมหาศาล, ฝบาท.”

       “พวกนั้นทำให้ข้าเป็นกังวล, แร็บบาน.”

       “กังวลต่อท่าน?”

       “โอ.....เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของพวกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย. แต่มีอยู่สองสามเสมอที่.....ราชสำนักรอง และอะไรทั้งหลายนั้น, ผู้คนแห่งความทะเยอทะยานผู้อาจพยายามลองสิ่งที่เป็นอันตราย. ถ้าหนึ่งในพวกนั้นจะได้ออกไปจาก อาร์ราคิส ด้วยเรื่องราวอันไม่น่าพึงใจเกี่ยวกับว่าอะไรได้บังเกิดขึ้นที่นี่, ที่ข้าได้ไม่พึงใจด้วย. เจ้ามีความคิดบ้างไหมว่าข้าไม่พึงใจขนาดไหน?”

       แร็บบาน กล้ำกลืน.

       “เจ้าต้องเข้าควบคุมอย่างระมัดระวังในทันทีเพื่อกุมยึดตัวประกันจากแต่ละราชสำนักรอง,” บารอน พูด. “ตราบไกลเท่าทีใครก็ตามที่ออกไปจาก อาร์ราคิส ต้องเรียนรู้ไว้, นี่สงคราม ราชสำนัก-ต่อ-ราชสำนัก ที่ไม่อ้อมค้อม. พวกซาร์เดาการ์ ไม่ได้มีส่วนในมัน, เจ้าเข้าใจไหม? ดยุค ได้ถูกเสนอในที่พักและเนรเทศตามปกติ, แต่เขาตายในอุบติเหตุอันโชคร้ายก่อนที่เขาจะสามารถได้ยอมรับ. เขาเกือบที่จะยอมรับ, แล้วด้วย. นี่คือเรื่องราวนี้. และข่าวลือใดที่ว่าซาร์เดาการ์ได้มาอยู่ที่นี่, มันต้องถูกหัวเราะเยาะใส่.”

       “ตามที่องค์จักรพรรดิปรารถนาเช่นนั้น,” แร็บบาน พูด.

       “ตามที่จักรพรรดิปรารถนาเช่นนั้น.”

       “แล้วเรื่องพวกลักลอบค้าของเถื่อนล่ะ?”

       “ไม่มีใครเชื่อถือพวกลักลอบค้าของเถื่อนหรอก, แร็บบาน. พวกเขายอมทนฟัง, แต่ไม่เชื่อถือ. ในอัตราใดก็ได้, เจ้าจะแผ่ขยายบางสินบนทั้งหลายนั้นออกไปในย่านที่พัก.....และลงมือทั้งหลายกับผู้อื่นซึ่งข้าแน่ใจว่าเจ้าสามารถคิดออกมาได้.”

       “ขอรับ, ฝบาท.”

       “สองสิ่งจาก อาร์ราคิส, แล้วนั้น, แร็บบาน: รายรับ และ กำปั้นไร้ปราณี. เจ้าต้องแสดงความไร้ปราณีที่นี่. คิดถึงคนโ.เหล่านีเช่นอะไรที่พวกเขาเป็น---เหล่าทาสที่ริษยานายของพวกตนและรอคอยเพียงแค่มีโอกาสที่จะกบฏ. ไม่มีร่องรอยแม้แต่น้อยนิดของความสงสารหรือเมตตาที่เจ้าต้องแสดงให้พวกเขาเห็น.”

       “ใครจะสามารถไปถอนรากถอนโคนทั้งดาวเคราะห์ได้ล่ะ?” แร็บบาน ถาม.

       “ถอนรากถอนโคน?” ความแปลกใจแสดงออกในอาการสะบัดหันศีรษะของบารอน. “ใครได้บอกสิ่งใดถึงเรื่องถอนรากถอนโคนรึ?”     

       “เอ้อ, ข้าหลงนึกว่าท่านได้กำลังจะนำเอาคลังสินค้าใหม่เข้ามาและ---”

       “ข้าได้พูดว่า บีบเค้น, คุณหลาน, ไม่ใช่ถอนรากถอนโคน. อย่าเสียเปล่ากับประชากร, แค่ขับพวกเขาเข้าไปในที่ยอมจำนนสิ้นเชิง. เจ้าต้องสัตว์กินเนื้อ, ไอ้หนู.” เขายิ้ม, ลักษณะท่าทางแบบเด็กๆในใบหน้าอวบอ้วนแก้มบุ๋มนั้น.  “สัตว์กินเนื้อไม่เคยหยุดยั้ง. แสดงความไร้ปราณี. อย่าได้หยุดยั้ง. เมตตาคือความเพ้อฝัน. มันสามารถถูกทำพ่ายโดยท้องที่ร้องรัวระงมความหิวของมัน, โดยลำคอที่ร้องครางความกระหายของมัน.” บารอน ลูบไล้ท้องนูนของตนภายใต้เครื่องพยุงแขวน. “เหมือนข้า.”

       “ข้าเห็นแล้ว, ฝบาท.”

       แร็บบาน เหวี่ยงสายตาของเขาไปทางซ้ายและขวา.

       “มันกระจ่างชัดทั้งหมดแล้วสินะ, คุณหลาน.”

       “นอกเสียจากกับสิ่งหนึ่ง, ท่านลุง: นักนิเวศพิภพวิทยา, คายนิ์ส.”

       “อ้า, ใช่, คายนิ์ส.”

       “เขาเป็นคนขององค์จักรพรรดิ, ฝบาท. เขาสามารถมาและไปได้ตามใจชอบ. และเขาใกล้ชิดมากกับพวกฟรีเมน.....แต่งงานด้วยรายหนึ่ง.”

       คายนิ์ส จะตายในราวกลางคืนของวันพรุ่งนี้.”

       “นั่นเป็นงานที่อันตราย, ท่านลุง, การฆ่าข้ารับใช้องค์จักรพรรดิ.”

       “เจ้าคิดว่าข้ามาไกลถึงขนาดนี้ได้อย่างรวดเร็วรึ?” บารอน ถามสั่ง. เสียงของเขาต่ำ, ประจุด้วยคำคุณศัพท์ทั้งหลายที่ไม่สามารถพูดได้. “นอกจากนั้น, เจ้าจำเป็นต้องไม่มีวันหวาดกลัวว่า คายนิ์ส จะออกไปจาก อาร์ราคิส หรอก. เจ้ากำลังลืมไปว่าเขานั้นได้ถูกเสพติดอยู่กับเครื่องเทศ.”

       “แน่นอนเลย!

       “เหล่าผู้รู้ดีจะไม่ทำอะไรในการที่จะเป็นอันตรายต่อเสบียงของพวกตน,” บารอน พูด. “คายนิ์ส แน่เลยว่าต้องรู้ดี.”

       “ข้าลืมไป,” แร็บบาน พูด.

       พวกเขาจ้องมองกันอยู่ในความเงียบ.

       ทันทีนั้น, บารอน ก็พูดขึ้น: “อีกประการหนึ่ง, เจ้าจะทำเสบียงของข้าเองหนี่งในรายแรกของเจ้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย. ข้ามีคลังสินค้าค่อนข้างเป็นของส่วนตัวอยู่แห่งหนึ่ง, แต่นั่นถูกจู่โจมกล้าตายโดยคนของดยุคได้ไปส่วนมากที่สุดของอะไรที่เราได้เก็บเอาไว้เพื่อขาย.”

       แร็บบาน พยักหน้า. “ขอรับ, ฝบาท.”

       บารอน แจ่มใสขึ้น. “ทีนี้, พรุ่งนี้ตอนเช้า, เจ้าจะรวบรวมอะไรที่ยังคงเหลืออยู่ขององค์กรทั้งหลายที่นี่เข้ามาประชุมกันและเจ้าจะบอกกับพวกเขาไปว่า: ‘องค์จักรพรรดิ ปาดิชาห์ ผู้ล้ำเลิศของเรา ได้แต่งตั้งให้ข้าได้ครอบครองดาวเคราะห์นี้และยุติความขัดแย้งทั้งปวง.”

       “ข้าเข้าใจ, ฝบาท.”

       “คราวนี้, ข้าแน่ใจว่าเจ้าเข้าใจ. เราจะหารือกันถึงรายละเอียดมากกว่านี้ในวันพรุ่งนี้. ตอนนี้, ปล่อยให้ข้าเสร็จสิ้นการนอนหลับของข้าเถอะ.”

       บารอน ปลดการทำงานของประตูสนามพลัง, เฝ้าดูหลานขายของตนออกไปจากสายตา.

       เจ้าถัง-สมอง, บารอนคิด. จิต-กล้ามเนื้อสมอง-ถัง. พวกนั้นจะเป็นเนื้อเลือดเละเทะที่นี่เมื่อเขาได้เสร็จผ่านจากพวกเขา. แล้ว, เมื่อข้าส่ง ฟีย์ด-เราธา เข้ามาเพื่อปลดเปลี้องภาระจากพวกเขา, พวกเขาก็จะโห่ร้องยินดีต่อผู้ช่วยชีวิตของพวกตน. ฟีย์ด-เราธา ผู้เป็นที่รัก. ฟีย์ด-เราธา ผู้มีเมตตา, ผู้มหากรุณาที่ช่วยพวกเขาจากสัตว์ร้าย. ฟีย์ด-เราธา. ชายผู้ที่จะได้เดินตามและตายเพื่อ. เด็กชายนั้นจะได้รู้เมื่อถึงเวลานั้นว่าจะปกครองอย่างกดขี่อย่างไรให้ได้รับอภัยโทษ. ข้าแน่ใจว่าเขาคือผู้ท เราจำเป็นต้องการ. เขาจะเรียนรู. และด้วยรูปร่างที่น่ารัก. เด็กชายที่น่ารักเสียจริงๆ.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น