....ในเมื่อยังมีการบิดเบือนกันไม่เลิก...ข้อยก็ไม่เลิก-ตามประสาควาาายยยยยยๆๆที่จะเสนอความคิด-ที่เห็น ของตนเอง...ต่อไป...
1)...คือ รัฐสภา - ไม่สามารถออกกฏหมาย/พรบ. ลักษณะนี้ได้...เพราะเป็นการละเมิดต่ออำนาจศาล-ตามรัฐธรรมนูญฯบัญญัติไว้...รัฐธรรมนูญฯได้แบ่งแยกอำนาจในระบอบประชาธิปไตยฯนี้ไว้แล้ว...ระหว่างฝ่ายบริหาร(รัฐบาล)/ฝ่ายนิติบัญญัติ(รัฐสภา)/และฝ่ายตุลาการ(ศาล)...ดังนั้น - เมื่อศาลในพระราชอำนาจของสถาบันกษัตริย์-ได้พิพากษาจำเลย ว่ามีความผิดที่ได้กระทำไปแล้วนั้น...การที่ฝ่ายนิติบัญญัติ/สภาผู้แทนราษฎร-จะมา-รวมหัวกัน ออกกฏหมายยกเลิกคำพิพากษา...ตัดสินว่า-การกระทำผิดทั้งหลายนั้น - ว่าไม่มีความผิด หรือ นิรโทษกรรม...ย่อมกระทำมิได้...ไม่งั้นจะมีระบบศาล/ตัุลาการ/ตามกระบวนการที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฯ...ทำไมล่ะครับ?
2) การที่มี-คณะรัฐประหาร-สามารถออก พรบ.นิรโทษกรรม ให้ตนเองได้นั้น...ก็เพราะในขณะนั้น...คณะรัฐประหาร-มีรัฏฐาธิปัตย์-อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญฯ...คือไม่มีรัฐธรรมนูญฯตามระบอบประชาธิปไตยฯที่แท้จริง...คณะรัฐประหาร-มีอำนาจเหนือ ตุลาการ/ศาล ในพระราชอำนาจ...ซึ่งแปลว่า...ดังนั้น-สภาผู้แทนราษฎร-ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฯในประเด็นลักษณะนี้...ให้ได้เสียก่อน...ไม่ใช่มาอ้าง/บิดเบือนหลักการของระบอบการปกครองฯ...ผมจึงเสนอให้-สภาผู้แทนราษฎร ออกอกฎหมาย/พรบ.อภัยโทษ แทน...เป็นคราวๆ/เป็นวาระไป...และทูลเกล้า/ขอพระราชทาน ดังเช่นกฎหมายปกติ...ทั้งนี้-หลักเกณฑ์/เงื่อนไข-ก็ดังเช่น ท ี่ กรมราชทัณฑ์กำหนดไว้ก็ได้...ลักษณะเดียวกันกับการยื่นถวายฎีกาต่อพรพะมหากษัตริย์...ก็แค่เนี่ยะ - ไม่เห็นจะมีปัญหาให้โต้แย้ง/ขัดแย้ง กันในสังคมประชาธิปไตยอะไรได้นักหนา...
3) ยืนยันนะครับ ก) สภาฯออกกฎหมาย - ยกเลิกคำพิพากษศาล/หรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้...เพราะเป็นการขัดต่อ รัฐธรรมนูญฯ...ข) สภาผู้แทนราษฎร - จะตรากฎหมาย ให้ถือว่า การดูหมิ่น/จาบจ้วง/ปองร้าย/ด้อยค่า/ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ฯลฯ(ม 112) นั้น ถือว่าไม่มีความผิด(นิรโทษกรรม)...ไม่ได้...มิเช่นนั้น-ต้องมีการกระทำต่อสถาบันกษัตริย์เยี่ยงนี้อีกต่อไป-ไม่เลิก...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น