....สัญญาไว้ว่า_จะเขียนเรื่อง _การนิรโทษกรรม กับ ม๑๑๒....ค่อนข้างจะยืดๆยาวๆ...เพราะเกรงว่า_ถ้าตัดทอนลงให้สั้น_ก็คงสื่อความหมาย...ให้พวกควาาาาายยยยยๆๆขี้ข้าทุนนิยมสามานย์_ไม่ได้...ขออภัยที่ต้อง_สีซอ_กันทั้งอัลบั้มเลยล่ะ...
....คือต้องเข้าใจภาษาคนกันก่อนว่า...นิรโทษกรรม_แปลง่ายตามภาษาคนคือ...การกระทำใดๆที่ได้ทำไปนั้น_ถือว่าไม่ผิด...ย้ำ_ไม่ผิด...ไม่ใช่ไม่มีความผิด...ให้ถือว่า_ไม่ได้ทำผิด...จึงไม่มีโทษ/ไม่ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย...เช่นการกระทำรัฐประหาร_ล้มล้างรัฐบาล/ยกเลิกรัฐธรรมนูญ_แต่ไม่ได้_ล้มล้างระบอบการปกครองฯที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ...เนื่องจากว่า_มีเหตุร้าย/วิกฤตการณ์เกิดขึ้นภายในประเทศ อันอาจเป็นเหตุให้ทำลายความมั่นคง/หรือประชาชนเสียชีวิต_ไม่มีความปลอดภัยในขีวิตและทรัพย์ ซึ่งรัฐบาลในขณะนั้น_ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์/หรือบริหารจัดการได้
2) 1)...ทีนี้_เมื่อเข้าใจ_คำว่า_นิรโทษกรรม_กันแล้ว...ก็มาพิจารณาวินิจฉัย_ในเรื่องการกระทำผิดตาม กฎหมายอาญา ม ๑๑๒...หรือการกระทำที่เรียกร้องให้ยกเลิก/แก้ไข ม๑๑๒ ...ว่า_เป็นความผิดเช่นไร_และความผิดนั้น_ถือว่าเป็น_นิรโทษ_ในกรรมนั้นๆหรือไม่?
ในกรณี_ดูหมิ่น/จาบจ้วง/แสดงเจตนาร้าย_ต่อสถาบันกษัตริย์...จะด้วยอารมณ์รังเกียจ/เกลียจชังเป็นการส่วนตัว_หรือหลงเชื่อ/เข่าใจในบางอย่างผิดไป_เข้าร่วมกระทำตามผู้อื่นขักจูง...ย้ำ_ชัก_จูง...ไม่ใข่ขักชวน...ถามให้ชัดว่า...ถ้ากระทำต่อบิดามารดาท่านเองบ้าง_จะถือว่า_ไม่มีความผิด_ได้หริอ?...จะถือว่า_การกระทำต่อสถาบันกษัตริย์อย่างหยาบคายเช่นนั้ร_เป็นประโยขน์ต่องสังคมไทย_ได้รึ?...ก็ย่อมไม่ได้...เพราะเช่นนั้น...การดระทำหยาบช้าสามานย์อุบาทว_ขัดต่อจารีตประเพณี/สังคมไทยแต่บรรพบุรุษ/และผิดต่อศีลธรรม_เช่นนี้...จะมาถือว่า_นิรโทษ_ในกรรม_นั้รๆ...ไม่ได้อย่างเด็ดขาด...
3) ดังนั้น_ผู้ที่ได้กระทำผิดตาม ม ๑๑๒ จึงไม่อาจ_เข้าข่าย_นิรโทษกรรม_ได้....เพราะถือว่าเป็น_กรรมหนัก_ที่ได้กระทำต่อ...สถาบันอันเป็นศูนย์รวมทางจิตวิญญาณของมหาชน เช่นเดียวกับการ...ดูหมิ่น/เหยียดหยาม/ทำร้ายทำลาย_พุทธศาสนา(นี่ไม่ต้องยกตัวอย่างเปรียบเทียบไปถึง_ถ้าได้กระทำการสามานย์เช่นนี้ต่อศาสนาอิสลาม_แล้วจะถูกลงโทษเช่นไร)....ดังนั้น_หากต้องการสมานฉันท์กับโจรอุบาทว/หรือเห็นว่าเป็นเด็ก_ที่พ่อแม่ไม่ได้ตั้งใจให้กำเนิดมา_ได้อยู่ในสัวคมกันต่อไปอย่างสันติสุข....ก็ต้อง_ตราเป็นกฎหมายเฉพาะกาล/ พรบ.อภันโทษ...ต่อ_ผู้ที่ยอมรับว่าตนได้กระทำผิดเช่นนั้น_และกระทำสัตย์สาบานต่อพิธีกรรมต่อสาธารณชน...ว่าจะ_ไม่กระทำผิด_เข่นนั้นอีก,..
4) ส่วนที่อ้างว่าเป็น_สิทธิ/เสรีภาพ_ทางการเมือง...สามารถกระทำได้ตามระบอบประชาธิปไตยนั้น....ก็ศาลรัฐธรรมนูญฯได้วินิจฉัยตัดสินไปแล้ว...ว่า_การกระทำทางการเมือง...ในการเสนอแก้ไข ม๑๑๒ นั้น_ถือว่าเป็นการด้อยค่าสถาบัน/และเป็นการล้มล้างระบอบการปดครองฯ...ที่สถ่ปนาจึ้นม่โดย_คณะราษฎร_ที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี ๒๔๗๕....และไม่ว่าจะมีการกระทำรัฐประหารอีกกี่ครั้ง_ตลอด 85 ปีที่ผ่านมา_ก็ไม่มีการ_ล้มล้างระบอบการปกครองmonarchyนี้กันแต่อย่างใดเลย....
ดังนั้น_ถ้ามาอ้างว่า_เป็นการแสดงออกทางการเมือง....ก็ถือว่า_มีเจตนากยฏ/ล้มล้างสถาบันกษัตริย์/ล้มล้างระบอบการปกครองฯตามรัฐธรรมนูญ....การกระทำเยี่ยงสามานย์ชนถ่อยสถุลอุบาทวนี้_ก็ไม่ได้เกิดประโยขน์ใดๆต่อสังคมไทยอันดีงามมายาวนานเกือบ 1 พันปี...จึงถือว่าเป็นำนิรโทษกรรม_ไม่ได้...และ_ถือว่า_การกระทำอุบาทวขั่วช้าสามานย์_เยี่ยงนี้....ไม่อาจ_ให้_อภัย_ใดๆได้...อีกต่อไป...
5) สรุปสั้น_ในภาษาคน...คือ 1) กสรกระทำผิดใน ม๑๑๒ _ไม่สามารถถือว่าเป็น_นิรโทษกรรม_ได้ 2) แต่ถ้าหาก_ผู้กระทำผิด_ยอมรับผิด_และ_จออภัยโทษ...ก็สามารถตรา พรบ.อภัยโทษ....ได้ 3) แต่ถ้าหาก_เป็นการกระทำผิดทาวการเมือง_ปบุกปั่น/บิดเบือร/ขัก_จูง...ให้ผู้คน_เข้าใจผิดทางการเมือว...เพื่อด้อยค่า/ล้มล้างสถาบัน/ล้มล้างระบอบการปกครองฯตามรัฐธรรมนูญ....ต้อวถือว่าเป็นความคิด...ที่แม้กระทั่ว_ให้อภัยไม่ได้....ยังจะมาำนิรโทษกรรม_กันเอาเองตามใจชอบ...ก็ต้องขอ_ทำตามใจขอบ_ในอันที่จะปกป้องสถาบัน/ปกป้องระบอยกาีปกครองฯนี้...กะพวกอุบาทวสามานย์อัป_จัญไ_ทั้งหลาย...กันจนถึงที่สุดอ่ะนะ...อย่าหนีไปต่างอยู่กะนายทาสทุนนิยมสามานย์อีกล่ะ...มาเจอกันหน่อยนะ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น