หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2567

เหมา เจ๋อตง - ความคิดที่ถูกต้องของคนเรา มาจากไหน?

 เหมา เจ๋อตง - ความคิดที่ถูกต้องของคนเรา มาจากไหน? (พฤษภาคม 1963)

หมายเหตุ:

          เรื่องนี้เป็นตอนหนึ่งใน “มติของศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกี่ยวกับปัญหาบางประการในงานชนบทปัจจุบัน” (ฉบับร่าง). ร่างมตินี้ได้ร่างขึ้นภายใต้การนำอำนวยการของสหายเหมาเจ๋อตง ข้อความตอนนี้สหายเหมาเจ๋อตงเป็นผู้เขียน.

 

         ความคิดที่ถูกต้องของคนเรามาจากไหน? หล่นลงมาจากบนฟ้าหรือ? หามิได้. มีอยู่แต่ดั้งเดิมในสมองของตนหรือ? หามิได้. ความคิดที่ถูกต้องของคนเราจะได้มาก็แต่จากการปฏิบัติทางสังคม ก็แต่จากการปฏิบัติทางสังคม 3 อย่าง คือ การต่อสู้ทางการผลิต การต่อสู้ทางชนชั้นและการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เท่านั้น.

         การดำรงอยู่ทางสังคมของคนเรา เป็นสิ่งกำหนดความคิดของคนเรา. เมื่อใดที่ความคิกดอันถูกต้องซึ่งเป็นตัวแทนชนชั้นที่นำหน้าได้เป็นที่ยึดกุมของมวลชน เมื่อนั้นมันก็จะกลายเป็นพลังทางวัตถุที่ดัดแปลงสังคมและดัดแปลงโลก.

         คนเราดำเนินการต่อสู้ชนิดต่างๆ ในการปฏิบัติทางสังคม มีความจัดเจนอันดุดม ทั้งที่สำเร็จและที่ล้มเหลว ปรากฏการณ์อันนับไม่ถ้วนของโลกภายนอกทางภววิสัยได้สะท้อนเข้ามาในสมองของคนเราโดยผ่านอวัยวะสัมผัสทั้ง 5 คือ หู ตา จมูก ลิ้นและกาย เริ่มแรกเป็นความรับรู้ทางรู้สึก.

         เมื่อข้อมูลความรับรู้ทางรู้สึกนี้สะสมมากเข้า ก็จะเกิดการก้าวกระโดด กลายเป็นความรับรู้ทางเหตุผล ซึ่งก็มีความคิด. นี่กระบวนการแห่งการรับรู้กระบวนหนึ่ง นี่ค่อขั้นที่ 1 ขอบงกระบวนการแห่งการรับรู้ทั้งกระบวน ซึ่งก็คือขั้นจากวัตถุทางภววิสัยไปสู่จิตทางอัตวิสัย ขั้นจาการดำรงอยู่ไปสู่ความคิด.

         จิตหรือความคิด (รวมทั้งทฤษฎี นโยบาย โครงการและมาตรการ) ในขณะนี้ได้สะท้อนกฏแห่งโลกภายนอกทางภววิสัยอย่างถูกต้องหรือไม่นั้น ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ยังกำหนดแน่ชัดลงไปไม่ได้ว่าถูกต้องหรือไม่.

         จากนี้ก็มีขั้นที่ 2 ของกระบวนแห่งการรับรู้ คือขั้นจากจิตไปสู่วัตถุ ขั้นจากความคิดไปสู่การดำรงอยู่ ซึ่งก็คือนำเอาความรับรู้ที่ได้มาในขั้นที่ 1 ไปสู่การปฏิบัติทางสังคม ดูว่าทฤษฎี นโยบาย โครงการและมาตรการเหล่านี้สามารถบรรลุผลสำเร็จตามที่คาดหมายไว้ได้หรือไม่.

         กล่าวโดยทั่วไปแล้ว ที่สำเร็จก็คือสิ่งที่ถูกต้อง ที่ล้มเหลวก็คือสิ่งที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการต่อสู้ของมนุษย์ที่กระทำต่อโลกธรรมชาติยิ่งเป็นเช่นนี้.

         โดยการต่อสู้ทางสังคม การที่อิทธิพลที่เป็นตัวแทนชนชั้นที่นำหน้าต้องประสบความพ่ายแพ้บ้างในบางครั้งนั้น หาใช่เป็นเพราะว่าความคิดไม่ถูกต้องไม่ หากเป็นเพราะในดุลกำลังแห่งการต่อสู้นั้น อิทธิพลฝ่ายนำหน้ายังสู้อิทธิพลฝ่ายปฏิกิริยาไม่ได้เป็นการชั่วคราว ดังนั้น จึงต้องประสบความพ่ายแพ้เป็นการชั่วคราว แต่อย่างไรเสียสักวันหนึ่งข้างหน้าก็จะต้องชนะจนได้.

         ความรับรู้ของคนเราเมื่อได้ผ่านการทดลองจากการปฏิบัติแล้ว ก็จะเกิดการก้าวกระโดดอีกครั้งหนึ่ง การกระโดดครั้งนี้ เมื่อเปรียบกับการก้าวกระโดดครั้งก่อนก็มีความหมายยิ่งใหญ่กว่า. เพราะว่ามีแต่การก้าวกระโดดครั้งนี้เท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ว่า การก้าวกระโดดครั้งแรกของการรับรู้คือ ความคิด ทฤษฎี นโยบาย โครงการและมาตรการที่ได้มาจากกระบวนการแห่งการสะท้อนโลกภายนอกทางภววิสัยเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือผิดพลาดกันแน่ นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีวิธีอื่นใดที่จะตรวจสอบสัจธรรมได้.

         การรับรู้โลกของชนชั้นกรรมาชีพนั้น จุดมุ่งหมายก็เพื่อจะดัดแปลงโลกเท่านั้น หามีจุดมุ่งหมายอื่นใดนอกจากเหนือจากนี้ไม่.

         ความรับรู้ที่ถูกต้องอันหนึ่งๆ มักจำเป็นต้องผ่านการวกไปเวียนมาหลายตลบจากวัตถุไปสู่จิต แล้วจากจิตไปสู่วัตถุ ซึ่งก็คือผ่านจากการปฏิบัติไปสู่ความรับรู้ แล้วจากความรับรู้ไปสู่การปฏิบัติ จึงจะสามารถสำเร็จลุล่วงไปได้. นี่แหละคือทฤษฎีความรับรู้แห่งลัทธิมาร์กซ คือทฤษฎีความรับรู้แห่งวัตถุนิยมวิภาษ.

         เวลานี้ในหมู่สหายของเรา ยังมีคนมากมายไม่เข้าใจเหตุผลของทฤษฎีความรับรู้นี้. เมื่อถามว่าความคิด ความเห็น นโยบาย วิธีการ โครงการ ข้อสรุปปาฐกถาชนิดพูดเป็นคุ้งเป็นแคว บทความอันยาวยืดของเขานั้นได้มาจากไหน พวกเขาก็รู้สึกว่าเป็นปัญหาประหลาด ตอบไม่ถูก. เกี่ยวกับการที่วัตถุกลายเป็นจิตได้และจิตกลายเป็นวัตถุได้ได้อันปรากฏการณ์ก้าวกระโดดที่เห็นกันจำเจในชีวิตประจำวันนั้น พวกเขาก็รู้สึกว่าไม่อาจเข้าใจได้. ดังนั้น จึงควรให้การศึกษาในทางทฤษฎีความรับรู้แห่งวัตถุนิยมวิภาคแก่สหายของเรา เพื่อจะได้ปรับความคิดให้ถูกต้อง  จะได้เกิดความสันทัดในการสำรวจค้นคว้า สรุปความจัดเจนขจัดความยากลำบาก ทำความผิดพลาดน้อยหน่อย ทำงานได้ดี และบากบั่นต่อสู้เพื่อสร้างปกระเทศของเราให้เป็นมหาประเทศอันยิ่งใหญ่แห่งสังคมนิยมและช่วยเหลือประชาชนอันไพศาลที่ถูกกดขี้ขูดรีดทั่วโลก บรรลุหน้าที่อันยิ่งใหญ่แห่งสากลนิยมซึ่งเราพึงแบกรับ.

         (จากหนังสือ “บทนิพนธ์ เหมาเจ๋อตง ว่าด้วยปรัชญาและการใช้ปรัชญา - รับรู้โลกที่เปลี่ยนแปลง” โดย บุญศักดิ์ แสงระวี, หน้า 159 – 161)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น