อิบราฮิม ตราโอเร่ – คลองทังหิน และการปฏิวัติเขียวภายใต้ อิบราฮิม ตราโอเร่
Tanghin Canal and the Green Revolution Under Ibrahim
Traoré!!!
https://youtu.be/d-kQGHUzCY8?si=3ccjWJUm_N3rmWoT
ในตอนใจกลางของกรุงอัวกาดูกู,
นครที่เสืยงหึ่ง ๆเซ็งแซร่ ด้วยการเติบโตอย่างมีพลวัตและพลังในวัยหนุ่มสาว. การปฏิวัติเงียบกำลังแกะสกัดสลักหนทางของมันผ่านคอนกรีตและฝุ่น.
แต่มันไม่ได้มีแค่ตึกสูงระฟ้ายืนตะหง่านหรือสะพานใหญ่โอ่อ่า. มันคือคลองลึกที่วิศวกรออกแบบอย่างพิถีพิถันรอบคอบ,
โครงการโครงสร้างพื้นฐานการระบายน้ำที่เป็นความสำคัญระดับชาติอันลึกซึ้ง.
นี้ไม่ใช่แค่การผันน้ำ. (In the heart of Ouagadougou1, a
city buzzing with dynamic growth and youthful energy,
1 https://en.wikipedia.org/wiki/Ouagadougou
a
silent revolution is carving its way through concrete and dust. It’s not a
towering skyscraper or grand bridge. It’s a deep, meticulously engineered
canal, a drainage infrastructure project of profound national importance. This
isn’t just diverting water.)
ภายใต้วิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำของประธานาธิบดี อิบราฮิม
ตราโอเร่, คลองนี้กำลังมีชีวิตจากพิมพ์เขียวสำหรับความสามารถในการพร้อมรับมือของเมืองยุคปัจจุบัน,
ตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ และข้อพิสูจน์ชัดเจนต่อความสอดประสานกันทาวงนิเวศน์.
มันเป็นแถลงการณ์อย่างห้าวหาญสะท้อนก้องไปทั่วอาฟริกาตะวันตก. บูกีร์นา
ฟาโซ จะไม่รอคอยอย่างอดทนต่อความช่วยจากนานาประเทศอีกต่อไปแล้วที่จะมาบงการชะตากรรมของมัน.
มันเป็นการสร้างแผนภูมิอย่างทรงพลังในวิถีอธิปไตยของตนเองไปสู่ข้างหน้า. (Under the visionary leadership
of President Ibrahim Traore, this canal is coming a living blueprint for modern
urban resilience, a catalyst for economic revival and a testament to ecological
harmony. It’s a bold declaration echoing across West Africa. Burkina Faso will no longer passively await
international aid to dictate its destiny. It is powerfully charting its own
sovereign path forward.)
ในประชาชาติหนึ่ง,
บ่อยครั้งมักจะถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริงจากสื่อนานาประเทศและถูกละเลยในการประชุมอภิปรายกันในเรื่องการพัฒนาระดับโลก,
บูร์กีนา ฟาโซได้เข้ายึดครองอย่างเงียบๆในหนึ่งของความทะเยอทะยานมากที่สุดของมันและเปลี่ยนแปลงรูปโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั้งหลายสู่ปัจจุบัน.
ที่หัวใจของการฟื้นฟูนี้ทอดแนวอยู่คือ โครงการคลองระบายน้ำ ทังหิน, ความริเริ่มการบริหารจัดการน้ำในขนาดระดับเมือง
ที่อย่างรวดเร็วได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัย,
การพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำ ภายใต้ประธานาธิบดี
อิบราฮิม ตราโอเร่. (In a nation often underestimated by
international media and sidelined in global development discourse, Burkina Faso
is quietly undertaking one of its most ambitious and transformative
infrastructure projects to date. At the heart of this renewal lies the Tanghin
Drainage Canal Project, an urban scale water management initiative that is
rapidly becoming a symbol of modernity, environmental sustainability and visionary
leadership under President Ibrahim Traore.)
โครงการระบายน้ำทังหินไม่ได้เป็นแค่บรรเทาอุทกภัยตามฤดูกาล
หรือการกำกับทิศทางน้ำท่วมหลากออกไปจากถนนทั้งหลายของเมืองเท่านั้น. มันเป็นปฏิบัติการภารกิจโครงสร้างพื้นฐานหลายมิติ
ที่ปรากฏเป็นรูปร่างให้กับสัญญาประชาคมของประธานาธิบดี ตราโอเร่ ที่จะองค์รวมการพัฒนาประสานเข้ากับวิศวกรรมโยธา,
การผังเมือง, การรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม, และการฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม ให้เข้าไปสู่หนึ่งยุทธศาสตร์เดียวกัน.
(The Tanghin drainage project is
not merely about mitigating seasonal floods or directing storm water away from
city streets. It is the multi-dimensional infrastructure mission that embodies
President Traore’s commitment to holistic development combining civil
engineering, urban planning environmental stewardship,
and socioeconomic revitalization into one unified strategy.)
การได้เปิดตัวดังเป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่ม
ฟาโซ เอ็มโบ ของตราโอเร่, เรามาสร้างบ้านเกิดด้วยกัน, คลองนี้เสาะหาต่อ
การกำหนดนิยามใหม่ว่าเมืองใหญ่ทั้งหลายทั่วประเทศจะจัดการรับมือกับน้ำฝนอย่างไร,
พลเมืองควรมีประติสัมพันธ์อย่างไรกับสภาพแวดล้อมของพวกเขา, และเขตตำบลทั้งหลายที่ผ่านมาได้ถูกละเลย
จะสามารถที่จะกลายเป็นความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร ในศูนย์กลางของชีวิต, การพานิชย์,
และอัตลักษณ์. (Launched as part of Traore’s broader Faso
Embo initiative, let’s build together, this canal seeks to redefine how cities
across the nation handle rainwater, how citizen interact with their environment,
and how previously neglected districts can become thriving centers of life, commerce,
and identity. Stretching across critical urban neighborhoods, the canal’s
development is poised to deliver unprecedented benefits to over 150,000
residents in its first phase with many more to be impacted as phase 2 expands
its reach.)
จนกระทางถึงในตอนนี้,
ฝนตามฤดูกาลทั้งหลายได้ก่อให้เกิดฝันร้ายประจำปีสำหรับเขตเมืองอัวกาดูกูเหมือนทังกาน.
การปราศจากระบบระบายนทั้งหลายที่เพียงพอ, ถนนทั้งหลายได้เปลี่ยนรูปเป็นแม่น้ำโคลน.
บ้านเรือนได้ถูกน้ำท่วมเป็นกิจวัตรและน้ำที่นิ่งทรงไม่ขึ้นไม่ลงได้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สำหรับยุงและเชื้อโรคร้ายทั้งหลาย.
ธุรกิจชะลอตัวช้าลง. เด็กนักเรียนได้รอคอยผ่านน้ำสกปรกเพื่อที่จะไปยังห้องเรียนของพวกเขา
และการบริการสำคัญทางภาคพื้นดินที่ต้องหยุดลง.
นั่นไม่ได้เป็นแค่เป็นความไม่สะดวกสบาย. พวกนี้ได้เป็นอปสรรคอย่างสำคัญต่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ,
การศึกษา, และการสาธารณสุข. (Until now, seasonal rains have posed an
annual nightmare for Ougodou’s urban districts like Tangan. Without adequate
drainage systems, streets transformed into muddy rivers. Homes were routinely
flooded and stagnant water became breeding grounds for mosquitoes and disease.
Businesses slowed down. School children waited through filth to reach their
classrooms and essential services ground to halt. These were not mere
inconveniences. They were significant impediments to economic progress,
education, and public health.)
-ภาพทั้งหลายของบ้านเรือนกำลังต่อสู้ทำสงครามกับน้ำท่วม,
ทรัพย์สินถูกกวาดหายไป, และการแพร่ระบาดของโรคร้าย ทั้งหมดได้กลายเป็นสิ่งธรรมดาสามัญมากเกินไป,
กัดกร่อนจิตวิญญาณและการฟื้นฟูสภาพจิตใจของชุมชน. ประธานาธิบดีตราโอเร่,
ผู้นำทหารได้พันธสัญญาอย่างลึกต่อความมีเกียรติศักดิ์ศรีแห่งชีวิตพลเรือน,
จดจำได้ถึงในตอนเริ่มต้นกับภัยพิบัติซ้ำซากเช่นนี้ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้.
พวกมันคืออาการทั้งหลายของการไม่ลงทุนอย่างเพียงพอ, ความอ่อนแอของการวางแผน,
และมรดกสืบทอดมาของลัทธิอาณานิคมซึ่งเมินเฉยต้องความจำเป็นต้องการของท้องถิ่น.
(Images of residents battling floodwaters,
properties swept away, and disease outbreaks had become all too common, eroding
the community’s spirit and resilience. President Traore, a military leader
deeply committed to the dignity of civilian life, recognized early on that such
recurrent disasters were not inevitable. They were symptoms of underinvestment,
weak planning, and a colonial legacy that ignored local needs.)
อัวกาดูกู,
ด้วยการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและไร้การควบคุมมากว่าหลายทศวรรษ,
ขยายตัวออกไปโดยขาดยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างยั่งยืน.
การตั้งถิ่นฐานใหม่กระโจนพรวดขึ้นในพื้นที่ลุ่มกว้างใหญ่ หรือพาดผ่านเส้นทางระบายน้ำตามธรรมชาติทั้งหลาย,
ยิ่งเป็นการเร่งปัญหาน้ำท่วมมากขึ้น. การตอบสนองของตราโอเร่คือการตัดวินใจสร้างระบบคลอง
ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ใช้ประโยชน์เพียงแค่นั้น แต่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้. นี้เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญซึ่งต้องการอย่างสำคัญในทรัพยากรทั้งหลายและวิสัยทัศน์ซึ่งขยายออกไปโพ้นเลยกรอบเฉพาะหน้าที่ยึดถือกัน.
(Ouagadougou,
with its rapid and uncontrolled growth over decades, expanded without a
sustainable storm water management strategy. New settlement sprang up in low-lying
area or across natural drainage paths, exacerbating the flooding problem. His
response was decisive to build the canal system that was not only functional
but transformative. This was a bold decision demanding significant resources
and a vision extending far beyond immediate fixes.)
การก่อสร้างได้เริ่มต้นด้วยความเพ่งจุดไปที่ความเข้าร่วมเกี่ยวข้องของทั้ง
ชุมชน, วิศวกรท้องถิ่น, ช่างฝีมือและแรงงานทั้งหลาย
ได้ขับเคลื่อน , คอยคงรักษาไว้ซึ่งปรัชญาของตราโอเร่ ที่บูร์กีนา ฟาโซ
ต้องก่อสร้างมันด้วยตนเอง, ด้วยมือทั้งหลายของตัวมันเอง. นักเทคนิควัยหนุ่มสาวทั้งหลายได้รับการฝึกปฏิบัติ,
หนุ่มสาวว่างงานได้รับมอบงานทำ, และนักธุรกิจท้องถิ่นทั้งหลายได้เข้าร่วมในห่วงโซ่อุปทาน/จัดส่งวัสดุ/วัคถุดิบและสนับสนุนการกระจายแยกคัดสินค้า. (Construction began with a focus on
community engagement. Local engineers, artisans, and workers were mobilized, keeping
with Traore’s philosophy that Burkina Faso must build it self with its own
hands. Young technicians were trained, unemployed youth were given jobs, and
local businesses were integrated into supply chains for raw materials and logistical
support.)
ไม่เหมือนกับรูปแบบโครงการใหญ่โตตามเงินทุนจากต่างชาติ,
ที่บ่อยครั้งเต็มไปด้วยเงื่อนไขทั้งหลายและข้อกำหนดให้พึ่งพาที่ปรึกษาจากต่างประเทศ,
คลองนี้เป็นของผู้คนและพวกเขาคือผู้ที่ก่อสร้างมันกัน. ไม่เหมือนกับรูปแบบมาตรฐานของโครงการทั้งหลายจากเงินทุนต่างชาติ,
ทังสินได้ก่อสร้างด้วยการใช้แหล่งทรัพยากรท้องถิ่น. วิศวกร, แรงงานทั้งหลายและเยาวชนของกีร์นา
เบย์ ได้เป็นผู้ขับเคลื่อน, ได้ฝึกฝนปฏิบัติ, และเสริมพลังอำนาจที่จะยึดเอาความเป็นเจ้าของของโครงการนี้.
(Unlike typical foreign-funded mega
projects, often laden with conditionalities and reliance on international
consultants, this canal belongs to the people and they are the ones building
it. Unlike typical foreign funded projects, Tanghin is built using local
resources. Burkina Bay engineers, laborers and youth are mobilized, trained and
empowered to take ownership of the project.)
ผู้คนไม่ใช่เป็นแค่ผู้รับผลประโยชน์ทั้งหลาย;
พวกเขาเป็นสถาปนิกของความเปลี่ยนแปลง. การเข้าถึงในลักษณะนี้ให้กำไรทั้งคู่,
การแก้ไขการว่างงานในขณะที่ส่งเสริมสร้างความสามัคคีและศักดิ์ศรีของชาติ. คลองไม่ได้เป็นเพียงแค่ท่อสำหรับระบายน้ำ.
มันคือการออกแบบอย่างมีปัญญาที่ยอมให้กักเก็บน้ำได้, ควบคุมการปล่อยน้ำ, ลดการกัดเซาะทำลายดิน,
ควบคุมจัดการน้ำท่วม. ระบบดักตะกอน, แนวต้นไม้ชายตลิ่ง, ทางเดินเท้า,
และพื้นที่ว่าสาธารณะของชุมชน . ได้เปลี่ยนแปลงรูปเช่นนี้โดยวิศวกรรมที่เป็นผลสำเร็จของการเป็นแหล่งรวมและกระจายออกที่สำคัญของเมือง.
(The people are not just beneficiaries;
they are the architects of change. This approach offers a dual benefit, addressing
unemployment while fostering national unity and pride. The canal is not merely
a conduit for water. Its intelligent design allows for water storage, controlled
release, erosion reduction, and flood regulation. Silt trap systems, treelined
banks, pedestrian walkways, and community spaces Transformed this engineering feat
into a vital urban hub.)
ไกลยิ่งกว่านั้น,
องค์ประกอบทางสิ่งแวดล้อมทั้งหลายเช่น ทะเลสาบ, ระเบียงสีเขียว,
การปลูกต้นไม้อย่างเรียบง่ายไม่ซับซ้อน, และเขตพื้นที่กรองโดยธรรมชาติได้บูรณาการเข้าด้วยกัน,
ทำให้คลองทังหินเป็นระบบผังเมืองอย่างยั่งยืน. โพ้นเลยไปจากการควบคุมน้ำท่วม,
การบริหารจัดการน้ำฝนหลากด้วยเช่นกันทำอิสรภาพให้กับที่ดินสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลาย,
สวนสาธารณะ, ที่อยู่อาศัย, ศูนย์กีฬาอเนกประสงค์, และตลาดทั้งหลาย.
พื้นที่ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นส่วนระบการระบายน้ำจะในตอนนี้กลายเป็นศูนย์กลางที่มีชีวิตชีวาของ
ชีวิตชุมชน, กิจกรรมทางธุรกิจ, และการปฏิสัมพันธ์เชิงวัฒนธรรม. (Furthermore, ecological elements
loke green corridors, naïve tree planting, and natural filtration zones are integrated,
making the Tanghin Canal a sustainable urban system. Beyond flood control,
storm water management also frees up land for public amenities, parks, housing,
sport complexes, and markets. Area once submerged will now become vibrant
centers of community life, economic activity, and cultural engagement.)
อย่างเป็นลำดับการณ์,
ทังหินไม่ได้เพียงปรับปรุงคุณภาพชีวิตเท่านั้น, แต่ยังกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน,
เร่งหนุนมูลค่าอสังหาริมทรัพย์, และวางพื้นฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน. เมื่อสรุปได้ในระยะที่
1 , รัฐบาลกำลังเตรียมการสำหรับ ระยะที่ 2, เพิ่มความยาวของคลองอีกเป็น
2 เท่าและการแผ่ขยายระยะเอื้อมไปถึงของมันยังพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมของตำบลรอบนอกทั้งหลาย.
ส่วนประกอบใหม่ๆรวมทั้งอ่างเก็บน้ำใต้ดินสำหรับการควบคุมกำกับน้ำท่วม, อุปกรณ์ตรวจวัดน้ำฝนอัจฉริยะ,
และระเบียงสีเขียวเทคโนโลยีชั้นสูงทั้งหลาย. (Consequently, Tanghin not only
improve quality of life, but also stimulates economic growth, boosts property
values, and lays the groundwork for sustainable development. As phase 1
concludes, the government is preparing for phase 2, doubling the canal’s length
and extending its reach to more flood prone peripheral districts. New components
include underground reservoirs for flood regulation, smart storm water sensors,
and high-tech green corridors.)
เป้าหมายจำนวนผู้ได้รับประโยชน์ตรามโครงการฯคือ 400,000 ไม่รวมถึงผลกระทบเป็นระลอกต่อชุมชนเมืองรายรอบอยู่ทั้งหลาย.
ประธานาธิบดี ตราโอเร่ กำลังบูรณาการโครงการฯนี้ด้วยการรณรงค์การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม. หลายพันของต้นไม้ได้ถูกเลือกเน้นในด้านความยืดหยุ่นปรับตัวได้และความสวยงามจะเป็นแนวไปตามริมตลิ่งของคลอง,
ในการลดอุณหภูมิ, ปรับปรุงคุณภาพอากาศ, จัดสรรร่มเงา, และ ยึดดินให้เสถียร. (The projected number of
beneficiaries 400,000 not including the ripple effect on surrounding urban
communes. President Traore is integrating the project with a massive
greenification2 campaign.
Thousand of trees chosen for resilience and beauty will line the canal banks, lowering
temperatures, improving air quality, providing shade, and stabilizing soil.)
2 https://en.wikipedia.org/wiki/Green_economy
หญ้าพื้นเมืองและไม้พุ่มทั้งหลายจะช่วยกรองน้ำ,
ป้องกันการกัดเซาะ, และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของเมือง. คลองทังหินกำลังกลายเป็นแบบพิมพ์เขียวของ
สภาพแวดล้อม, วัฒนธรรม, และความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน.
โครงการนี้ได้รับความสนใจจากชาวอาฟริกันทั้งหลาย ทั้งนักผังเมือง, นักวิชาการสิ่งแวดล้อม,
และผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนา. (Native grasses and shrubs will
filter water, prevent erosion, and restore urban biodiversity. Tanghin is
becoming a blueprint for green development in Africa, integrating hard
infrastructure with the soft benefits of environment, culture, and community
well-being. The project has garnered attention from African urbanists,
environmental scholars, and development experts.)
อะไรที่ทำให้มันแตกต่างแยกออกได้ก็คือคือคุณลักษณะท้ความเป็นองถิ่นของมัน.
ถูกเงินทุนด้วยแหล่งทรัพยากรของชาติ, ถูกออกแบบโดยวิศวกรทั้งหลายของบูร์กีนา
เบย์, และถูกสร้างผ่านเจตจำนงและการมีส่วมร่วมของประชาชน. มันไม่ได้พึ่งพาอยู่กับเงินกู้,
เงินช่วยเหลือ, หรือที่ปรึกษาทั้งหลายจากต่างประเทศ. มันคือการกระทำของการกำหนดชะตากรรมของชาติด้วยตนเอง,
การจัดแสดงถึงความเป็นผู้นำและวิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง,
แม้ว่าประเทศจะอยู่ภายใต้แรงกดดันทางเศรษฐกิจและความมั่นคงปลอดภัย
ก็สามารถผลิตสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั้นดีเยี่ยมระดับโลกได้. (What sets it apart is its local
character. Funded with national resources, designed by Burkina Bay engineers, and
built through the will and participation of the people. It’s not dependent on
loans, grants, or international consultants. It is an act of national
self-determination, showcasing that with the right leadership and vision, even
a country under economic and security pressure can produce worldclass infrastructure.)
ในหลายทศวรรษมา, ประชาชนของบูกีร์นา ฟาโซได้ถูกบอกในห้รอคอยผู้บริจาคทั้งหลาย,
รอIMF,
รอธนาคารโลก. แต่คลองนี้คือข่าวสารอันกล้าหาญ.
บูกีร์นา ฟาโซ จะไม่รอคอยอีกต่อไป, มันก่อสร้าง, มันเติบโต, และมันฝันอยู่ในแง่ความหมายทั้งหลายของตนเอง.
โพ้นเลยไปจากด้านวิศวกรรมและการวางผังเมือง, แรงกระเทกของมนุษย์เป็นในบางทีน่าสัมผัสจิตใจได้มากที่สุด.
จากหาบดเร่ทั้งหลายตามถนนสู่ครอบครัวที่ครั้งหนึ่งซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม,
จากเด็กๆถึงผู้อาวุโสทั้งหลาย, หลายพันเรื่องราวยืนยันถึงความเปลรายนขั้นพื้นฐานของชีวิต.
ไม่มีความหวาดกลัวว่าจะน้ำท่วม, เจ็บป่วย, หรือสูญเสียบ้านทั้งหลายหรือไม่อีกต่อไป. (For decades, Burkina Bay’s
citizens were told to wait for donors, for the IMF, for the World Bank. Burt
this canal is a bold message. Burkina Faso will wait no more. It builds, it
grows, and it dreams on its own terms. Beyond engineering and urban planning, the
human impact is perhaps the most touching. From street vendors to families once
living in flood zones, from children to elders, thousands of stories attest to
fundamental changes in life. No more fear if floods, illness or losing homes.)
ในตอนนี้มีความเชื่อมั่น,
ความหวัง, และความมีเสถียรภาพ. คลองทังหินเป็นมากไปกว่าความสำเร็จทางด้านวิศวกรรม.
มันเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูและศักดิ์ศรี. ในขณะที่ระยะที่ 2 ของโครงการฯเตรียมพร้อมที่จะทะยานออกไปด้วยช่องทางทั้งหลายที่ลึกขึ้น,
ตลิ่งที่เขียวมากขึ้น, และระบบที่ชาญฉลาดมากขึ้น. โลกจะทำได้ดีไปกว่าการเฝ้าดู,
ไม่แค่เป็นผู้อุปถัมภ์, แต่เป็นดุจประจักษ์พยานทั้งหลายต่อปาฏิหาริย์ซึ่งเผยออก.
นี้ไม่ใช่แค่คลองระบายน้ำ. นี้ไม่ใช่แค่งานวอศวกรรมโยธา. นี้ไม่ใช่แค่บูกีร์นา
ฟาโซ. นี้คือวิถีทางใหม่ของการก่อสร้างอาฟริกาจากรากทั้งหลายของความมีเกียรติศักดิ์ศรี,
ด้วยเป้าประสงค์และด้วยพลังอำนาจ. มันเป็นข้อพิสูจน์ว่า
การพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ใช่โครงการทางกายภาพ, แต่เกี่ยวกับการสร้างความยืดหยุ่นปรับตนเอง,
การกำหนด/ตัดสินใจด้วยตนเอง, และการศรัทธาในอนาคตของประชาชาติ. (Now there is confidence, hope,
and stability. The Tanghin Canal is more than just an engineering feat. It’s a
symbol of restoration and dignity. As phase 2 prepares to launch with deeper
channels, greener banks, and smarter systems. The world would do well to watch,
not as Patrons, but as witnesses to
unfolding miracle. This is not just a drainage canal. This is not just civil
engineering. This is not just Burkina Faso. This is a new way of building
Africa from the roots with dignity, with purpose and with power. It is a
testament that sustainable development is not only physical projects, but also
about building resilience, self-determination, and belief in a nation’s future.)
คลองทังหินจะเป็นมรดกชั่วกาลนาน,
สิ่งเตือนจำของความสามารถพิเศษทั้งหลายของมนุษยชาติ
เมื่อถูฏเสริมเติมพลังอำนาจและถูกชี้นำโดยวิสัยทัศน์อันกระจ่าง. (The Tanghin Canal will forever
be a legacy, a reminder of humanity’s extraordinary capabilities when empowered
and guided by a clear vision.)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น