การบ้านการเมือง
อยากจะระบุว่าเรื่องการบ้านการเมืองนี้เตลิดเปิดเปิงไปไหนแล้ว ก็ไม่รู้; ต้องถอยหลังเข้าคลอง. ขอให้หลับตานึกเถิด อาจจะนึกเห็น
ดังจะกล่าวได้ว่า :
(1)
สมัยแรกเริ่มเดิมทีที่มนุษย์มีขึ้นมาในโลกนี้ อยู่กันอย่างกลุ่มน้อยๆอยู่กันอย่างหมู่บ้าน ไม่มีนครใหญ่ๆ ไม่มีมหานคร แต่อยู่กันอย่างหมู่บ้าน;
ต่างก็ร่มรื่นเยือกเย็นเป็นธรรมชาติ,
บางทีมันก็จะคล้ายบริเวณวัดเราอย่างนี้
คืออยู่กันอย่างใกล้ชิดธรรมชาติ
อยู่กันอย่างหมู่บ้านน้อยๆ
และก็ติดต่อกันเท่าที่จำเป็น.
แต่เดี๋ยวนี้ อยู่อย่างนคร : นครกรุงเทพฯ นครนิวยอร์ค นครอะไรก็ตาม
กระทั่งมันเป็นมหานครแห่งคนบ้า.
นครไหนที่เจริญนัก
เป็นมหานครแล้ว, คุณก็ขึ้นบนยอดตึกสูงๆบนเรือบินสูงๆแล้วมองลงมาดู แม้แต่ที่กรุงเทพฯนี้ ขึ้นไปตุกสูงสุดแล้วก็มองดูเถอะ ข้างล่างนั้น
มันจะเหมือนกับนครแห่งคนบ้า.
มันมีความต้องการที่เกินจำเป็น
ทำให้ออกมาขี่รถว่อนกันไปจนเหมือนกับมดกับแมลง มหานครแห่งคนบ้า! กรุงเทพฯ เราคงจะไม่ได้เศษหนึ่งส่วนสิบส่วนร้อย ของมหานครที่เมืองนอกซึ่งไม่เคยไป ได้เห็นแต่รูปภาพ; ยิ่งเห็นว่าเป็นมหานครแห่งคนบ้า.
หยุดการจัดมหานคร หรือนครแห่งคนบ้า ถอยหลังเข้าคลอง : ไปจัดการเป็นอยู่อย่างหมู่บ้าน
ที่อยู่กันอย่างงดงามตามธรรมชาติเป็นหมู่บ้านน้อยๆ ไม่ต้องถึงขนาดนคร นี่เรียกว่าถอยหลังเข้าคลอง, พูดอย่างนี้คนสมัยนี้คงด่า ด่าว่าอ้ายคนบ้า พูดอย่างนี้
พูดให้ถอยหลังเข้าคลอง.
แต่ผมเห็นว่าการถอยหลังเข้าคลองแบบนี้จะนำไปสู่สันติภาพ.
(2)
อีกแง่หนึ่งก็คือว่า เดี๋ยวนี้มีแต่การทำลายธรรมชาติ และทำลายทรัพยากรของธรรมชาติ. คุณไปดูเถอะ
มันเป็นบ้าเป็นหลัง ที่ทำให้ธรรมชาติสูญหายไป;
อย่างว่าน้ำมันเชื้อเพลิงนี้จะหมดแผ่นดินแล้วเป็นต้น
เพราะเอามาใช้ในทางที่ไม่จำเป็นเสียเป็นส่วนใหญ่;
หรือสร้างแล้วทำลาย-สร้างแล้วทำลาย-สร้างแล้วทำลาย จนกระทั่งว่าหินในโลกนี้ มันจะหมดไปก้ได้ หรือว่าน้ำในโลกนี้ มันจะหมดไปก็ได้ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นอย่างนั้น.
ขอให้ถอยหลังกลับไปแบบเดิม เป็นแบบโบราณโน้น ที่เขาสงวนถนอม และรักษาสมบัติธรรมชาติใช้มันแต่น้อยที่สุด;
เขาใช้แล้วใช้อีกให้เป็นประโยชน์มากที่สุด. จากการทำลายธรรมชาติ ขอให้ถอยหลังเข้าคลองไปหา การรัก การสงวน การถนอมธรรมชาติ หรือทรัพยากรของธรรมชาติ.
(3)
มาดูที่ว่า
การเป็นอยู่สมัยนี้ทำให้เสื่อมสุขภาพอนามัย ผิดธรรมชาติ
การเป็นอยู่ของมนุษย์ผิดธรรมชาติมากขึ้น
การกิน การอยู่ การนอน
การนุ่ง การห่ม การอะไรต่างๆผิดธรรมชาติมากขึ้น;
ทำให้อ่อนแอแล้วก็เสื่อมสมรรถภาพ
เสื่อมสุขภาพอนามัย จนมีปัญหายุ่งยากไปหมด เกี่ยวกับเรื่องนี้, จงถอยหลังเข้าคลอง ไปหาความเป็นอยู่ที่ไม่ฝืนธรรมชาติ ไม่ขัดหลักธรรมชาติ จึงจะเป็นการประหยัดชีวิต.
เดี๋ยวนี้เราสุรุ่ยสุร่าย ในการใช้สิ่งที่เรียกว่าชีวิตนี้มากไป; มันต้องประหยัดชีวิต เป็นอยู่อย่างที่ทำให้อายุยืนยาวไม่ตายเร็ว : ให้มีอนามัยดีทั้งทางกาย
ทางจิต. อนามัยทางจิตดี แล้วทางกายก็จะดี. เดี๋ยวนี้เราไปสนใจอนามัยทางกายกันมากเกินไป จนลืมอนามัยทางจิต. อนามัยทางกายก็เตลิดเปิดเปิง
ไปในแง่ของสำเริงสำราญเป็นกามารมณ์ไปเสียในที่สุด. ขอให้ถอยหลังเข้าคลองกันดีกว่า.
(4)
อีกแง่หนึ่ง
หยุดการกระทำชนิดที่มันเป็นการท้าทายธรรมชาติมากเกินไป. ถอยหลังเข้าคลอง อย่าไปทำดูหมิ่นดูถูกท้าทายธรรมชาติมากเกินไป. ข้อนี้จะยกตัวอย่าง : เพราะว่าพวกคุรก็เป็นแพทย์กันอยู่
เป็นอะไรกันอยู่ก็มี ว่าการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปอย่างที่เรียกว่า ท้าทายธรรมชาติมากเกินไป หรือตบหน้าธรรมชาติมากเกินไปนั้น หยุดเถอะ
ให้ถอยหลังเข้าคลองกันดีกว่า.
มันเป็นเรื่องได้ไม่คุ้มเสีย.
เรื่องเปลี่ยนหัวใจเรื่องเปลี่ยนอะไรต่างๆนั้น หยุดดีกว่า
มันเป็นการท้าทายธรรมชาติมากเกินไป.
แล้วความก้าวหน้าหยุมๆหยิมๆที่ทำให้คนตายไม่ลง ตายไม่ได้
เอานั่นเข้าใส่ไว้
เอานี่ใส่เข้าไว้ มันตายไม่ลง จนไม่มีสติแล้ว ตายไปอย่างไม่มีสติ.
การแพทย์นี่ก้าวหน้ามาก ก็ก้าวหน้าไปอย่างบ้าๆบอๆ
ไม่มีประโยชน์คุ้มกัน.
อย่างคนโบราณนี้เขาไม่ต้องการอย่างนี้
เมื่อเห็นว่าคนมันควรตาย
แล้วก็จัดให้ได้ตายอย่างมีสติ.
ผมก็เคยเห็น ปู่ ย่า
ตา ยาย เขาต้องการจะตายอย่างมีสติ อย่ามากวนเป็นอันขาด. เมื่อเห็นว่าจะตายแน่แล้ว เขาก้ไม่กินอาหารแล้ว กินแต่น้ำบ้าง
กินแต่ยาบ้าง; พอเห็นว่าจะตายจริง ยาก็ไม่กินแล้ว; อย่าเอามาๆ กระทั่งน้ำก็อย่าเอามา. แล้วก็ตาย
อย่างที่เขาเรียกว่ามีสติ
ตายเหมือนกับปิดสวิตช์อะไรทำนองนั้น; ไม่มีการท้าทายธรรมชาติมากเกินไป.
เดี๋ยวนี้แพทย์ปัจจุบันเขาใส่นั่นใส่นี่ ฉีดนั่นฉีดนี่
จนไม่รู้ว่าจะตายกันอย่างไร.
นั่นก็คือตายอย่างไม่มีสติ
ตายอย่างเลวที่สุด.
อย่างนี้เรียกว่าเกินไป
มันท้าทายธรรมชาติมากเกินขีดแล้ว.
ลดเถอะ ! มาถอยหลังเข้าคลอง ทำให้มันกลมกลืนกับธรรมชาติ จะได้ตายอย่างสงบ หรือจะได้มีอะไรอย่างสงบ.
นี่ยกตัวอย่าง ว่าแม้แต่เรื่องการแพทย์อย่างเดียว ก็ท้าทายธรรมชาติมากไป ตบหน้าธรรมชาติมากไป.
(5)
จะมองให้กว้างกว่านี้ ก็คือว่า
ทำสิ่งที่ไม่ต้องทำจนเพ้อเจ้อจนเฟ้อ.
ไปดูเถอะที่เขาทำกันอยู่ในโลกเวลานี้
ไม่ได้เป็นไปเพื่อสันติภาพ; มันเฟ้อ
มันเพ้อเจ้อ
ไปในทางที่ไม่สร้างสันติภาพ.
ต้องถอยหลังเข้าคลองหลังเข้าคลอง
มุ่งหมายจะทำแต่สิ่งที่เป็นไปเพื่อสันติภาพ นอกนั้นอย่าไปทำมันเข้า.
เดี๋ยวนี้ ไปทำแต่สิ่งที่ก่อกวน รบกวนหรือทำลายสันติภาพ
คือไปทำสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างเห็นแก่ตัวมากขึ้น มันก็”ม่มีทางที่จะสันติภาพ. นี่เป็นการจัดบ้านจัดเมือง จัดโลกจัดอะไรไปทำในทำนองอย่างนี้ เรียกว่าจัดอย่างคนที่ไม่รู้ว่าเป็นมนุษย์ทำไมกัน, เป็นมนุษย์ทำไมกัน ก็ไม่รู้.
ไม่มีการศึกษาที่ไหนที่สอนให้รู้ว่าเป็นมนุษย์ ทำไมกัน.
มนุษย์ก้เลยจัดบ้านจัดเมือง
จัดการเป็นอยู่
จนไม่รู้ว่าจะไปทางไหนกัน. นี่ต้องถอยหลังเข้าคลองแบบเดิม ที่เขามีหลักตายตัวอยู่แล้วว่าเราต้องเป็นมนาย์ อย่างที่ดีกว่าคน, เป็นมนุษย์ที่ดีกว่าคน. คนนี่สักแต่ว่าเกิดๆมา มันก็เป็นคน; แต่ถ้าเป็นมนุษย์นี้ ใจต้องสูง
มีจิตใจ สะอาด สว่าง
สงบ.
มนุษย์แปลว่าใจสูง จัดการเป็นอยู่ จัดระบบของชีวิต หรืออะไรก็ตาม
ให้เป็นมนุษย์ที่ดีกว่าคน; แต่ก็ไม่ต้องเกินเทวดา. เดี๋ยวนี้เขาจัดจนเกินเทวดาไปอีก แล้วสำรวยสำราญอะไรมากจนเกินเทวดาไปเสียอีก; แล้วก็ยังไม่ได้เป็นมนุษย์เลย. นี้เรียกว่าเรื่องการจัดบ้านจัดเมือง จัดอะไรกันนี่
ควรจะถอยหลังเข้าคลอง ดังตัวอย่างที่ยกมานี้.1
1 ธรรมโฆษณ์ของพุทธทาส เรื่อง
มหิดลธรรม, ลำดับที่ 17.ข
บนแถบพื้นสีแดง, เรื่องที่ 14 มาถอยหลังเข้า
คลองกันเถิด. บรรยายเมื่อ
24 เมษายน 2517, หน้า 322-326.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น