หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ปฏิรูปที่ดิน ปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปคน



TIMELINE IN MY FACEBOOK… 30 กรกฎาคม 2557

ปฏิรูปที่ดิน ปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปคน


...เพิ่งกลับจากการประชุมจัดวางกรอบอัตรากำลังของสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม/ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงทิศทางการปฏิรูปที่ดินภาคการเกษตรที่อยู่ในหัวของ ผู้บริหารราชการด้านนี้...ไม่ติดใจอะไรมากไปกว่ามุมมองของเด็กตะพานควายนี้ ทำไมมันไม่ค่อยจะเหมือนชาวบ้านนักก็ไม่รู้...รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแปลก ประหลาดไปแล้ว/เหมือนหมาหางด้วนในกลุ่มหมาหาวพวง - หรือกลับกันก็ไม่รู้ - มี 2 เรื่องนะที่คาใจและไม่อยากพูดในที่ประชุมเพราะไปประชุมแทนลูกพี่เค้าที่ติด นัดนัดหมอตรวจหัวใจ/และเป็นfinaleคือเค้าทำกันมาจนหนังจะจบแล้ว...ก็ไม่รู้ จะพูดกันในที่ประชุมให้ร้าวรานใจไปทำไม....ก็ประเทศนี้ก็เป็นยังงี้มานาน แล้วพูดไปเค้าก็ไม่ทำ...แมวที่บ้านยังเชื่อเรื่องดีๆอะไรง่ายกว่าอีก/ไม่ เชื่อดูหน้านังย้วยที่ด้านมุมซ้ายนี้สิ...
1) คือมีผู้บริหารระดับรองใหญ่...เที่ยวจำนรรจาก่อนประชุมว่าพวกทหารเนี่ยะ เชื่อแต่กรมป่าไม้/ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเสียเลยว่า...การปฏิรูปที่ดินน่ะ มีข้อกำหนดกฎหมายอะไรยุบยิบไปหมด...น่าเศร้าใจมาก...
- คือวานบอกพี่คณะรักษาpeaceอ่ะนะ...วานช่วยอธิบายแม่คุณทูนหัวยอดนักกฎหมาย การปฏิรูปที่ดินให้ที...คือ กระผมไม่เห็นว่าการปฏิิรูปที่ดินเพื่อชาวไร่ชาวนามันจะสำเร็จได้ด้วยการ รังวัดและกฎหมายเลย...สำเร็จนะครับ/ไม่ใช่เสร็จ...นี่ภาษากฎหมายเลยนะคำว่า - เสร็จกับสำเร็จน่ะมันไม่เหมือนกัน...คือถ้าพี่เก่งพี่แน่แล้วทำไมปฏิรูป ที่ดินเพื่อชาวไร่ชาวนาตั้ง 39 ปีเข้าไปแล้วยังจะมาเถียงกันเรื่องแนวเขตที่ดิน/ที่ป่า/ที่ ส.ป.ก./ที่ชาวบ้านกันอีก...พื้นที่ดินพระแม่ธรณีนี่นี้นั้นไม่ใช่ย้ายไป ไหน...หรอกมันก็อยู่ตรงนั้นแหละ...ที่ดินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม น่ะ/เวลาเอาป่าเสื่อมโทรมมาจัดให้ชาวบ้านทำกินแล้ว - มันก็ต้องมาจัดระเบียบการใช้ที่ดินเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล...เค้าเรียกเป็นภาษาต่างด้าวว่า land use planning - แปลว่า การวางแผนการใช้ที่ดิน...และก็ไอ้การวางแผนการใช้ที่ดินเนี่ยะ...เค้าก็ต้อง จำแนกสักยภาพของกายภาพของพื้นที่ให้ได้เสียก่อนว่า...เก่งยังไง/เหมาะสมยัง ไง/ข้อดีข้อเสียยังไง/จุดอ่อนจุดแข็งยังไง/แล้วจะปฏิรูปที่ดินกายภาพยัง ไง?...เค้าเรียกzoningพื้นที่ที่ว่านั้นนั่นแหละ...คือ 39 ปีที่ผ่านมา/คุณพี่นักกฎหมายกับคุณพี่รังวัดน่ะทำงานนี้ไม่ได้หรอก/เพราะไม่ ได้เรียนมาศึกษามา...แต่ทหารเค้าเข้าใจ/คนเป็นเสธ.น่ะเค้าต้องผ่านการบริหาร จัดการคนทั้งแผนที่ทั้งรังวัดทั้งพัฒนาทั้งนั้น...คุณพี่ไม่เคยเป็นทหาร/คง ไม่เข้าใจหรอกว่า...รัฐธรรมนูญตูยังล้มล้างมันได้เลย...สำมะหาอะไรกับกฎหมาย ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม...เค้ากำลังจะปฏิรูปประเทศ...ให้พี่ทำงานมาตั้ง นานแล้วยังเละยังถูกบุกรุกยังมาเถียงเชิงเทคนิคทางกฎหมาย...เคยได้ยิน อาจารย์กฎหมายเค้าสอนบ้างมั๊ยจ๊ะ...กฎหมายนโปเลียนน่ะ - คือนโปเลียนบอกว่า ตูนี่แหละคือกฎหมาย/กฎหมายอะไรที่ขัดแย้งกับสั่งของตูให้ยกเลิกแล้วใช้แต่คำสั่งของตูเท่านั้น...
แล้วจะปฏิรูปประเทศได้ยังไงเล่า? ถ้าอันนู้นก็ทำไม่ได้อันนี้ก็ทำไม่ได้...ก็ที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้มันดีแล้ว น่ะรึ?...ขอโม้อีกทีคือ/คุณแม่วิมลศิริ ชำนาญเวช สอนกฎหมายกระผม 2 หน่วยกิต/ท่าน ดร.สุจิต บุญบงการ สอนรับศาสตร์กระผม 2 หน่วยกิต...ช่างเป็นบุญวาสนาอย่างยิ่งจึงมาทำงานอยู่ที่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ไง...ก้เพราะไม่ชอบวิชาการที่ไม่รับใช้่ผู้คน..และคิดว่าความสามารถไม่พอจะ ทำงานที่สำนักผังเมือง(ตอนนั้น)ได้...สอบบรรจุได้พร้อมกันแหละ/แต่เรื่องมา ใช้กรรมเวรที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์-ไม่อยากอยู่มหาดไทย...อยากทำงานแบบพ่อ ของตนเองน่ะ...ไม่ได้รู้อะไรหมดทุกเรื่องหรอก/แต่รู้เรื่องของตัวเองดี แน่ๆ/ทุกกำพืดเทือกเถาเหล่ากอด้วย...ไม่เคยเอาเป็นที่อับอายหรือข่มผู้ อื่น...สาธุ/พอแค่นี้นะ/คุรพี่ทหารทั้งหลายวานอบรมสั่งสอนผู้บริหารราชการ ประเทศทั้งหลายในตอนนี้ด้วย...ถ้าปฏิรูปตัวเองยังไม่ได้-แล้วจะไปปฏิรูปประ เทศปฏิรูปคนอื่นได้ยังไง?...
2) อันนี้สำคัญมาก...เอ่ยในที่ประชุมก็ไม่ได้/ไม่เอ่ยก็ไม่จงรักภักดีเหมือนที่ เขียนที่คุย...คือยังงี้ - แต่ก่อนเนี๊ยะในองค์กรสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนี้...มีหน่วยงานหนึ่งของ ส.ป.ก. (กรอบหลังสุด 2552)ชื่อ "ศูนย์จัดการที่ดินพระราชทานในเขตปฏิรูปที่ดิน - ขึ้นอยู่กับ สำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน"....กรอบอัตรากำลังใหม่ล่าสุดที่จะขออนุมัติกระทรวง ใช้ในการทำงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในอนาคตต่อไป...ไม่มีหน่วยงานนี้/ มีเพียงกลุ่มงานโครงการพระราชดำริและโครงการพิเศษเท่านั้น...เกิดอะไรขึ้นกับการปฏิรูปที่ดินการเกษตรเนี่ยะ?...เกิดอะไรขึ้นกับผู้บริหารราชการระดับ ประเทศขนาดนี้?...ขออนุญาตเอาเรื่องเก่ามาเล่าย่อใหม่ - หลักการและหลักเกินของปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนั้นเอาไปแปะไว้ที่บล็อก ของผม(ชื่อบล็อคน่ะชื่อพ่อ-อดีตข้าราชการระดับกระจอกของกรมส่งเสริม สหกรณ์)...ไปอ่านกันเอาเอง...
3) หลังเหตุการณ์มหาวิปโยค 14 ตุลาคม 2516 ...รัฐบาลเฉพาะกาล(คล้ายๆตอนนี้)ได้มีแนวคิดจะปฏิรูปประเทศ...เล็งเห็นว่า การควบคุมการใช้ที่ดินการถือครองที่ดินอันเป็นทุนเริ่มแรกของผู้คนที่จะอยู่ ร่วมกันอย่างเสมอภาคต้องได้รับการปฏิรูป...จึงออก พรบ. 2 ฉบับในการนี้...คือ 1) พรบ.การผังเมือง (เพื่อจัดการที่ดินในเขตชุมชนเมือง) และ 2) พรบ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (เพื่อจัดการที่ดินภาคการเกษตร) ในปี 2518...โดย 3 มหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของราชอาณาจักรสยามนี้คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว/นายกฯสัญญา ธรรมศักดิ์ และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ - ม.ร.ว.คึกฤทธิ ์ ปราโมช...ในการนี้นอกจากพระองค์ท่านจะพระราชพระบรมราโชวาทแก่การปฏิรูป ที่ดิน 9 ข้อหลักใหญ่แล้ว(แปะอยู่ผนังข้างหัวกะไดตึกชั้นล่างแถวราชดำเนินนอกนั่น แหละ-อ่านกันบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้/หรืออ่านก็ไม่รู้อยู่แล้วมั๊ง)...พระองค์ ท่านยังได้พระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ให้แก่การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นี้ด้วย...(มีไหมในโลกนี้ที่กษัตริย์พระราชทานที่ดินมาให้จัดแบ่งให้ชาวไร่ ชาวนา)...พระราชดำรัวสั่งสอนให้ทำงานยังไงเนี่ยะ..ขอกราบพระราชทานอภัยเอาลง ในที่นี้จากหน้าเว็บของ ส.ป.ก.เองก็แล้วกัน/ช่วยอ่านและตีความใส่กะบาลผู้เป็นใหญ่แห่งราชการเกษตร และสหกรณ์นี้ด้วย...ดูซิว่าจะตรงกับที่กระผมเด้กตะพานควายอ้างถึงกล่าวถึง หรือไม่?...มองคนละมุมยังไงๆ/วัตถุนั้นก็หาได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปจากเดิมได้ หรอก/ตาบอดคลำช้างยังไงช้างก็เป็นช้าง...
" พระบรมราโชบายเกี่ยวกับงานปฏิรูปที่ดิน
การแบ่งสรรที่ดินให้แก่เกษตรกรในขั้นต้นควรให้เป็นไปตามเนื้อที่เกษตรกรถือ ครองอยู่เดิมให้มากที่สุด ไม่ว่าจะโดยเจ้าของที่ดินเอง หรือโดยการเช่า ทั้งนี้ ภายในขอบเขตที่พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 กำหนดไว้ พื้นที่อาจจะลดลงไปบ้าง ตามสภาพภูมิศาสตร์ของท้องถิ่นนั้นๆ
การจัดตั้งชุมชนที่อยู่อาศัย ควรให้เป็นไปตามความต้องการของเกษตรกรและให้สอดคล้องกับสภาพเดิมของท้องถิ่น นั้นๆ ให้มากที่สุด และจัดชุมชนให้อยู่เป็นกลุ่มก้อนเพื่อความปลอดภัย และทำให้การลงทุนในด้านการจัดการสาธารณูปการ เช่น น้ำสะอาด ไฟฟ้า ฯลฯ ถูกลงด้วย
จัดระบบการรวมกลุ่มในระดับหมู่บ้านรวมกันเป็นสหกรณ์ในเขตปฎิรูปที่ดินและ เชื่อมโยงไปถึงสหกรณ์ในเมืองใหญ่ๆ เพื่อให้สหกรณ์สามารถดำเนินธุรกิจเพื่อประโยชน์ของสมาชิกได้อย่างกว้างขวาง โดยแท้จริง
การพัฒนาด้านต่างๆ รวมทั้งการจัดระบบชลประทาน คมนาคม และ บริการสาธารณูปการต่างๆ เมื่อดำเนินจัดหาให้แล้ว ต่อไปก็ให้สหกรณ์รับช่วงไปดำเนินการต่อและจัดการบำรุงรักษาต่อไป โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลค่อยๆ ถอนตัวออกได้เมื่อสหกรณ์มีประสิทธิภาพ พอเพียงที่จะรับช่วงต่อไป
ในระยะแรกจะต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถและเสียสละอยู่ประจำ เพื่อให้คำแนะนำ ส่งเสริม แก่สหกรณ์โดยใกล้ชิด และจัดให้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากส่วนกลางออกไปตรวจการดูแลเยี่ยมเยียน และให้คำแนะนำเป็นการให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่โดยสม่ำเสมอ
การจัดที่ดินทำการเกษตรกรจะต้องคำนึงถึงการขยายตัวของประชากรในท้องถิ่นใน อนาคตด้วย ดังนั้น ป่าไม้ชุมชนที่ดำริจะจัดสร้างขึ้นอาจใช้เป็นที่สำรองสำหรับการทำมาหากินใน อนาคตได้ด้วย
การปฏิรูปที่ดินในแต่ละท้องที่ จะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วในระยะเวลาแนะมาณ 2-3 ปี เพื่อให้เกษตรกรเห็นผลผลิต โดยไม่ชักช้า
สำหรับเงินชดเชยค่าที่ดินที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน ซึ่งรัฐบาลจะต้องทูลเกล้าฯถวายตามกฎหมายของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นั้น จะพระราชทานเป็นเงินหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน ของสหกรณ์ในเขตปฎิรูปที่ดินดังกล่าว โดยจะทรงแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาสำหรับบริหารเงินทุนนี้ขึ้นคณะหนึ่ง
มีพระราชประสงค์ให้ผู้ที่เป็นผู้เช่าที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อยู่เดิมได้ทำกินในที่ดินนั้นไปตลอดชั้วลูกชั่วหลาน ตราบที่ยังยึดถืออาชีพ เกษตรกรรมอยู่แต่จะไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น..."
4) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ กับงานปฏิรูปที่ดิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงเห็นว่า การปฎิรูปที่ดินเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินเป็นของตน เองได้ ซึ่งสอดคล้องกับโครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกระพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นการผสมผสานแนวคิดในการจัดที่ดิน พัฒนาที่ดิน และพัฒนาสถาบันสหกรณ์เข้าด้วยกัน
พระองค์จึงทรงให้การสนับสนุนงานปฏิรูปที่ดิน โดยพระราชทานที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการ ปฏิรูปที่ดิน ในประเทศไทย ในปี 2518 เนื้อที่ 44,369 -0-87 ไร่ ใน 5 จังหวัด คือ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ฉะเชิงเทรา และ นครนายก ปัจจุบัน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้จัดให้เกษตรกร จำนวน 2,976 ราย เข้าทำประโยชน์พร้อมทั้งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน คลองส่งน้ำ คลองระบายน้ำ และขุดสระน้ำเพื่อการเกษตร
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการ ปฏิรูปที่ดิน คือ ทรงมีพระราชประสงค์ให้เกษตรกรผู้เช่าที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อยู่ เดิม ได้ทำกินอยู่ในที่ดินนั้นตลอดไป ชั่วลูกหลาน แต่จะไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น รวมทั้งจัดให้มีการพัฒนาต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสภาพเดิมของท้องถิ่น และให้รวมกลุ่มเกษตรกรจัดตั้งเป็นสหกรณ์ ซึ่ง ส.ป.ก. ได้น้อมรับพระบรมราโชบายดังกล่าว นำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานจนทุกวันนี้
จังหวัด จำนวนโฉนด เนื้อที่งาน (ไร่-งาน-ตารางวา)
พระนครศรีอยุธยา 68 111,34 - 0 - 20
ปทุมธานี 52 140,37 - 2 - 98
นครปฐม 4 1,009 - 1 - 01
ฉะเชิงเทรา 121 14,645 - 3 - 80.7
นครนายก 8 3,542 - 0 - 40
รวม 253 44,369 - 0 - 39.7
....
5) ทั้งนี้ รวมทั้งโฉนดหมายเลข 1 ของประเทศ...ซึ่งล้นเกล้า รัชกาลที่ 5ทรงเริ่มดำเนินการรังวัดที่ดินให้แก่ประชาชนตามความรู้สมัยใหม่ของโลกตะวัน ตก...ก้รังวัดกับกฎหมายที่ว่านั่นแหละ...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นี้ก็ยังได้พระราชทานโฉนดหมายเลข 1 ของประเทศให้กับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม...
- ในที่นี้ก็ไม่ได้ดูหมิ่นถิ่นแคลนผู้บริหารหน่วยงานหรอก/เพียงแต่ขอนิดหนึ่ง ในฐานะไพร่ฟ้าแท้จริงตลอดมาตั้งพ่อแม่พี่น้องของตระกูล...เป็นไพร่ของฟ้า จริงๆ...ขอให้ตั้งองค์กรหน่วยงานเฉพาะที่ ใช้ชื่อเช่นเดิมได้ไหมขอรับ?...การพระราชทานที่ดินของพระองค์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม/เพื่อปฏิรูปประเทศ...ถึงแม้หน่วยงานจะทำงานไม่ไปถึงไหน(สมัยก่อนเค้าตัดหัว 7 ชั่วโคตรนั่นแหละ)...ก็ขอให้คงหน่วยงาน"ที่พระราชทาน"นี้เอาไว้เพื่อเทอด ทูนพระเกียรติยศในการที่พระองค์ท่านห่วงใย/ดูแลในชาวไร่ชาวนาผู้ยากไร้อย่าง แท้จริงด้วยเถิด...
- จะทำงานแค่ดูแลเฉยๆก็ไม่เป็นไร...ความจริงแล้วสมควรตั้งเป็น "กองจัดการที่ดินพระราชทานและโครงการตาพระราชดำริ" ก็น่าจะใช้ได้...คือขอความเป็นพิเศษหน่อยให้สมพระเกียรติ...ดูขนาดกรอบใหม่ นี้ยังมี "กลุ่มจัดที่ดินเอกชน" อยู่ด้วยเลย...แต่กลุ่มจัดที่ดินในหลวงน่ะไม่มี...
6) เอายังงี้ดีมั๊ยขอรับ?...มาทำงานกันให้สำเร็จในการปฏิรูปที่ดินเพื่อ เกษตรกรรมในที่ดินพระราชทานของพระองค์ท่านกันดีมั๊ย?...ทำออกมาให้เห็นว่า การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเนี่ยะ/ท้ายสุดมันเป็นยังไง?...finale ของland reform น่ะมันเป็นยังไง? นี่ 39 ปีแล้วที่นักกฎหมายกับนักรังวัดยังไม่เข้าใจการปฏิรูปที่ดินกันอยู่ เลย...เอะอะอะไรก้สิทธิทำกิน/กลับไปอ่านพระบรมราโชบายอีกทีสิ...ระดมเอาสรรพ กำลังและความรู้ที่คุยว่าเก่งกันดีนัก/มาทำให้ประชาชนดูทีสิ...ในที่ดินพระ ราชทานนี้แหละว่าตามพระราโชบาย/ตามพระราช ดำริ/ตามคำสั่งสอน/ตามทฤษฎีใหม่/ตามเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านกันเลยดี มั๊ย?...ว่าสิ่งที่พระองค์ท่านพร่ำตรัสสอนแนะเนี่ยะเป็นประโยชน์ช่วยให้ ประเทศชาติรอดได้แน่ๆ...คือชาวบ้านชาวไร่ชาวนาน่ะเค้าซาบซึ้งมั่นใจมานาน แล้ว/เหลือแต่ไอ้ข้าราชการผู้บริหารชั้นสูงทั้งหลายนี่แหละ...เห็นสาบาน ตน/ร้องเพลงสดุดีมหาราชากันบ่อยๆ...วันเฉลิมธันวาคมนี้/พี่คณะรักษาpeace บังคับให้ข้าราชการระดับบริหารสูงๆเนี่ยะ/ไปสาบานตนกันที่วัดพระแก้วเลยได้ มั๊ย?...แบบกรรมการฟุตบอลไทยนั่นแหละ...เพราะที่ผ่านมาเห็นพูดกันจ้อยๆสาบาน แล้วไม่เห็นทำอย่างที่ว่าเลย...ถามอีกทีนะ/ถามพี่ๆทุกคนนั่นแหละ...จะปฏิรูป ประเทศกันไหมเนี่ยะ?...ถ้ามันดีอยู่แล้ว/แล้วไปเเปลี่ยนแปลงการปกครองทำไม ล่ะ?...นี่ยังมีการจะคืนที่ปฏิรูปไปให้ป่าไม้อีกแน่ะ...ปฏิรูปที่ดิน น่ะ-ปลูกป่าชุมชนก็ได้-กฎหมายเค้าไม่ได้ห้ามหรอก...ที่ปลุกหอพักปลูกปั๊ม น้ำมันยังยอมเค้าได้เลย...โถ/น่าเห็นใจนิ...จะปฏิณปประเทศ/ยังมีหน้าไปโบกธง บนเวทีกับเค้าอีก...เค้าให้ทำงานมาตั้ง 39 ปีแล้วยังไม่มีปัญญา...อายเค้าน่า...ถามจริงๆเหอะนี่คิดว่าจะัคืนที่ดินพระ ราชทานให้ราชพัสดุกรมธนารักษ์ไปเลยมั๊ย?...อย่านะ/ไม่ตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรก็ จะจ้างคนไปยิงเอ็ม79เลยแหละ...คราวนี้บอกซะก่อนนะ/ว่าจะไม่ปล่อยพวกhere1ไป ห่มผ้าแดงภูเขาทองอีกแล้วแหละ...ใหญ่เท่าใหญ่แล้วตายมั๊ยล่ะ?...นิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น