หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2568

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี - ปาฐกถาพิเศษ "เติมเต็มช่องว่าง...สร้างมิติใหม่ของกระบวนการยุติธรรม" ตอนที่1

ปาฐกถาพิเศษ "เติมเต็มช่องว่าง...สร้างมิติใหม่ของกระบวนการยุติธรรม" ตอนที่1 โดย พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา

          https://youtu.be/qNGE0dIU0aY?si=FOkB14cPVzgdntq9

          เอาไปว่า ปาฐกถาแต่ว่าผมมาคุยกับพวกท่านดีกว่าว่า ในฐานะที่มาดูแลงาน ในกระบวนการยุติธรรม ของ คสช. แล้วก็มาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลเนี่ยะ ได้คิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับงานที่ทำไป แล้วก็ เหมือนคนภายนอกที่...ผมไม่ใช่คนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เมื่อมี คสช.ก็ ได้แต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมายแกระบวนการยุติธรรม ผมไม่เคยเรียนกฎหมายน่ะ ความรู้สึกส่วนตัวก็อาจจะ เหนื่อยพอสมควร เหนื่อยเพราะว่าไม่มีความรู้พื้นฐานน่ะ แต่เคยเป็นในฐานะผู้บังคับหน่วยมา ทหารนี่ก็ใช้กระบวนการยุติธรรม แต่ไม่เคยมีความรู้ในแง่กฎหมาย นะครับ.

          วันที่เดินเข้ามาทำงาน ผมก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานกระทรวง เอ่อ ในกระบวนการยุติธรรม ทุกหน่วยน่ะ เป็นคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย ทุกภาคส่วน นโยบายที่ได้รับจากหัวหน้า คสช. ก็คือว่า ให้พยายามดูเรื่องกฎหมายที่มัน เป็นเกี่ยวกับพันธกรณี มันมี 4 กลุ่มใช่มั้ย? กลุ่มความเหลื่อมล้ำ กรณีกฎหมายที่เตรียมเพื่อไปปฏิรูป ในครั้งที่ 2 ที่เรามี สนช....สปช. แล้วก็การปรับปรุงหน่วยราชการ นั่นคือกรอบที่หัวหน้า คสช. ตอนนั้น ซึ่งมีท่านรองนายกฯวิษณุ ท่านเป็นที่ปรึกษาอยู่ ผมก็ได้ใช้หน่วยงานกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดนะครับ ท่านเลขาศาลยุติธรรม สำนักงานกฤษฎีกา หน่วยงานของกระทรวงต่างประเทศ อัยการสูงสุด กรมรัฐธรรมนูญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานนิติธรรมซึ่งอยู่กับสำนักนายกฯ ก็เข้ามาดูแลระบบ เพราะต้องเตรียมกฎหมายที่จะเข้า สนช. เมื่อกี้ผมพูดถึง สปช. น่ะ ปฏิรูป เพราะได้รับทราบว่า เวลามี สนช. แล้ว หรือการมีสภาผู้แทนราษฎรก็ตามมันก็มีประมาณ 2 – 3 เดือนมันก็จะไม่มีกฎหมายเข้า ในช่วง 2-3 เดือน ที่ คสช. ดำเนินการเนี่ยะ ก็เตรียมกฎหมายพวกนี้เข้า.

          ผมได้อะไรจากการทำงานน่ะ เพราะว่าเรามีนักกฎหมายดูปแลอยู่แล้ว สิ่งหนึ่งที่เห็น เห็นแล้วก็เริ่มเข้าใจว่า ปัญหาทั้งหมดเนี่ยะ คือก่อนวันที่ 22 พฤษภาเนี่ยะ ปัญหาทั้งหมดก็เกิดปัญหาพวกเนี่ยะ ปัญหา 2 มาตรฐานมั่ง ปัญหา...มันเป็นส่วนหนึ่งของการขัดแย้งนะครับ แล้วก็เห็นได้เลยว่า อะไรคือปัญหา ก็คือตัวกฎหมายน่ะ ตัวกระบวนการยุติธรรม แล้วก็ตัวคนคือข้าราชการ ทำให้เกิดระบบนี้ขึ้นมา แล้วก็ทำให้สังคมไม่...ไม่ให้ความเชื่อมั่นจากงานยยุติธรรม เพราะว่า ถ้าพูดถึงคนแล้วก็จะเห็นว่า ข้าราชการเป็นหน่วยงานที่ใหญ่มาก ปแล้วก็มีอำนาจ มี...ดุลพินิจที่กว้างขวาง ให้คุณให้โทษได้ มันก็นำไปสู่การไม่เป็นธรรมได้ นำไปสู่การทุจริตได้ ในเรื่องคน.

          ทีนี้ถามว่า เห็นอะไรบ้าง? ผมเห็นว่า พอเข้าไปทำก็เริ่มรู้ว้ากฎหมายอะไร หลายๆ พรบ. หลายๆ กฎหมายชิ้นหนึ่งเนี่ยะจะเชื่อมกับหลายๆหน่วยงาน มันจึงทำให้กฎหมายออกไม่ได้ ท่านรองนายกฯวิษณุก็จะพูดกับผมอยู่เสมอว่า กฎหมายดีๆหลายเรื่องน่ะ ใช้กฎหมาย ท่านใช้กฎหมายว่า กฎหมายดีๆหลายเรื่องเนี่ยะไม่เคยออกได้เลย เพราะความขัดแย้งระหว่างองค์กร หน่วยงานราชการด้วยกันเอง ไม่สามารถทำให้กฎหมายได้ ให้กฎหมายมันออกมา.

          อีกเรื่องที่ออกไม่ได้คือกลุ่มผลประโยชน์ หรือคนที่มีกระทบต่อกฎหมาย อันนี้ผมก็เห็นนะ เวลาเข้าไปนั่งอยู่ 2-3 เดือนก็เห็นนะ เห็นว่าพอเราดูแล้วก็ถามกระทรวงหรือหน่วยงานที่ถาม ว่าเอ๊ะทำไมกฎหมายก็ออกไม่ได้ ก็ถูกดึงจากกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มอิทธิพล ที่ไม่สามารถให้กฎหมายนี้ออกมาได้ เพราะเสียผลประโยชน์นั้น.

          อีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า พอทำไปก็รู้ว่ามัน กฎหมายหลายๆกฎหมายเนี่ยะมันซ้อนกัน ซ้ำซ้อนกันมาก ต่างคนต่างออกกัน โดยไม่...ไม่ค่อยคุยกัน นะครับ ก็ทำให้ประชาชนเนี่ยะ มันก็ถูกใช้กฎหมายคล้ายกัน หลายๆ พรบ. หลายกฎระเบียบ กฎกระทรวงบ้างอะไรบ้างดเนี่ยะ มันซ้อนๆกัน .

          อีกเรื่องที่เห็นประชาชนหรือนักธุรกิจ มี มีเข้ามามีส่วนร่วมในการออกกฎหมายน้อยมาก โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการค้าการลงทุน อันนี้คนที่ไม่รู้กฎหมายนะฮะ ผมทราบยังงี้4-5 เดือนเนี่ยะ ผมจะรู้เลยว่า เอ๊ะ มันเป็นอย่างนี้ แล้วมันก็เป็นจริง ก็พยายาม พยายามที่จะ เข้าไปดูว่ามันคืออะไร ก็เรียนให้ทราบโดยประมาณนี้.

          วันนี้กฎหมายที่ผมควบคุมอยู่ ทั้งหมดนะ ตั้งแต่เราทำเมื่อวันที่ 22 กุมภามาเนี่ยะ ในประเทศไทยน่ะ กฎหมายที่ยังเป็นร่าง เอายังงี้ดีกว่าผมว่า ตั้งแต่ผมพาไปตั้งแต่กฎหมายที่ คสช.เป็นรัฐบาลเข้ามาเนี่ยะ มี 321 ฉบับ เป็นกฎหมายที่ผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว และเห็นหน้าตาแล้ว 151 ฉบับ นะครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วน่ะ อาทิตย์หน้านั่นอาทิตย์นี้น่าจะพัฒนาไปแล้ว ตัวเลขอยู่ที่ 72 ฉบับนี่ผ่าน สนช.เรียบร้อยแล้วน่าจะเป็นสัก 75 แล้วนะ เพราะอาทิตย์ที่แล้วก็เข้า 4-5 ฉบับ ก็เหลือสัก 75 ฉบับ มัน 151 น่ะ ที่เป็นร่าวงเรียบร้อยแล้วอาจจะอยู่ที่กฤษฎีกาบ้าง ก็เตรียมผ่าน เตรียมstockไว้ที่ สนช. Stockไว้ที่ ครม. เหลืออยู่ที่กฤษฎีกาประมาณสัก 70 ที่จริงตัวเลข 72-79 มันได้ที่ 75...75 ประมาณนี้อ่ะนะ ที่เรียบร้อย อันนี้ 151 ครม. ดูแลอยู่ 24 ฉบับที่เป็นร่างก็ยังไม่ผ่าน ครม. อยู่ที่กฤษฎีกา ยังไม่ถึง อีกประมาณ 143 ฉบับเป็นกฎหมายที่ยังไม่มีตัวร่างเลย 121 ฉบับเป็นตัวร่างที่อยู่ในกระทรวงย่ะ...143 อยู่ที่กระทรวง.

          ผมเรียนแล้วนะว่า อาจารย์วิษณุก็บอกว่า มันเป็นยุคที่ผมคุม timeline กฎหมายได้ทั้งระบบ นะ วันนี้เราทำลักษณะนี้มาตั้งแต่ 22 พฤษภา ผมเรียนว่าผมไม่ใช่มือกฎหมาย แต่ผมอยากรู้ว่าทำไม มันเกิดอะไรขึ้นถึงไม่ออก ถึงกฎหมายดีๆน่ะ ผมอ่าน พอค้นอ่านดู น่าเสียดายนะ กฎหมายหลายอย่างที่ท่าน ดร.วิษณุได้พูดเมื่อกี้ กฎหมายหลาบๆอย่างออกไป ขณะเดียวกันกลั่นกรองกฎหมายโดยผมมีหน้าที่ที่จะ ที่ผมเรียนว่า หลายหน่วยงานก็จะขัดแย้งกันพอสมควร ระหว้างก้พยายามที่จะเชิญแต่ละหน่วยมาทำความเข้าใจ และผมก็เรียนทุกหน่วยงานว่า ขอความกรุณาให้เห็นแก่ประชาชนด้วย อย่าใช้องค์กรเป็นที่ตั้งของการทำงาน ไม่ยังงั้นประชาชนจะไม่ได้รับ คุณตอบผมได้มั้ยว่า ประชาชนไม่ได้อะไร อย่าตอบผมว่าองค์กรคุณไม่อยากได้กฎหมายนี้เพื่ออะไร คุณต้อองตอบผมให้ชนะผมให้ได้ว่า ประชาชนกับองค์กรคุณ ใครได้รับ?

          ขณะที่บริหารกฎหมายมา 2-3 เดือน ป่านนี้ยังเป็นหัวหน้ากฎหมายอยู่เลย ฝ่ายกฎหมายก็ได้ดูแลเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น timeline กฎหมาย 321 ฉบับนี่อยู่ในมือ ผมทั้งสิ้นนะ ฉบับแรกก็คือ กฎหมาย พรบ.งบประมาณ ปี 58 ที่ออกไปใช้ ก็ไล่ลงมา วันนี้นายกรัฐมนตรีได้สรุป ผมสรุปให้นายกรัฐมนตรีไป 2 รอบ รอบแรก 27 ฉบับคือที่เป็นมา ผมคิดว่า 27 ฉบับนี้ออกไม่ทัน ไม่ทันในสมัยรัฐบาลนี้แน่นอน ก็จำเป็นต้องคัดแยกกันกลั่นกรองกฎหมายที่จำเป็น ที่มีประโยชน์กับประชาชน.

          ผมเรียนนะครับ ว่าผมยึดประชาชนเป็นทำงาน แล้วผมก็พยายามไม่ว่าในหน่วยกระบวนการยุติธรรม ต้องขออภัยนะ ไม่ว่าศาล ไม่ว่าอัยการ ตำรวจอะไรก็ตาม ก็ใช้คำนี้เสมอ คุณต้องคิดเรื่องนี้เป็นหลัก ไม่งั้นไม่ได้หรอกครับ กฎหมายไม่ยอมออก ก็จริงๆที่ผ่านมา ก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานตลอดเวลา ไม่งั้นมันก็ไม่ไหลลักษณะนี้ผมเข้ามาอยู่ยุติธรรมก็มีความรู้สึกว่า ประชาชน คือรู้สึกเพราะว่า ประชาชนมีเอกสารมีอะไรถึงผมมาก มากพอสมควร ปรากฏว่ากระทรวงยุติธรรมนี่ ประชาชนรู้สึกว่า ความยุติธรรมอยู่ที่กระทรวงยุติธรรม กระบวนการยุติธรรมอยู่ที่กระทรวงยุติธรรม เพราะฉะนั้นกระทรวงยุติธรรมที่...ส่วนตัวของผมเองนะที่ได้รับ...ฝ่ายเลขามั่งอะไรมั่ง เป็นเรื่องราวในกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน ไหลเข้ามาที่กระทรวงยุติธรรมจำนวนมาก.

ผมพูดเสมอนะทางสื่อทางอะไร ว่าไม่แปลกที่มีการร้องเรียนมายังรัฐบาล ก็มาจากประชาชนทางศูนย์ดำรงธรรมต่างๆ มัน 30% เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม นอกนั้นเป็นเรื่องอื่น แล้วเข้ามาที่กระทรวงยุติธรรมเพื่อ ดำเนินการ ก็เลยสั่งเป็นนโยบายว่า เรื่องในกระบวนการยุติธรรมนี่ ขอให้กระทรวงยุติธรรมได้ช่วยเป็นผู้ประสานงานในองค์กรทั้งหมด ที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม นี่คือเรื่องแรกที่ได้สั่งดำเนินการไป.

เอ่อ วันนี้ก็เลยอยากจะกำหนดหัวข้อ 5 หัวข้อที่ท่านประธานพูดเนี่ยะ กระทรวงยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ที่ประธานพูดน่ะถูกแล้วครับ คือกระทรวงยุติธรรมนี่มักจะเดินตาม หน่วยในกระบวนการยุติธรรมเป็นหน่วยรองรับ กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยปลายทางของกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะกระบวนการท่างศาล วันนี้กระทรวงยุติธรรมประสบปัญหามาก กรมพินิจที่รองรับเด็กเยาวชน เกี่ยวกับเด็กเยาวชนพวกนี้น่ะ ศาลเด็กศาลอะไรเกิดขึ้นเหล่านี้ มีที่ทำการไม่เกิน 30-40% เมื่อไปอยู่ตามห้องแถวนะ 40-50%นะ ไปเช่าห้องแถวอยู่มันก็ทำให้สถานที่แรกรับน่ะ ทำไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้นอ่ะครับ เพราะฉะนั้นที่อาจารย์พูดน่ะ ว่า ช่องว้าง 3 ระบบเนี่ยะ มันเกิดในกระทรวงยุติธรรมทั้งหมดเลย เพราะว่ากระทรวงยุติธรรมไม่สามารถที่จะตามได้ทันน่ะ ผมกำลังปรับแก้อยู่นะครับ ว่าจะทำอย่างไรให้...แล้วก็ให้นโยบายไปว่า ต้องนำกระทรวงยุติธรรมไปอยู่ที่ชุมชนให้ได้ ท่านต้องเอากระทรวงยุติธรรมไปไว้ที่ชุมชน ข้าราชการกระทรวงยุติธรรมต้องเอากระทรวงยุติธรรมไปไว้ที่ชุมชน ไม่งั้นแล้วมันเข้าไม่ถึงน่ะ ประชาชนก็เข้าไม่ถึง แล้วความเข้าใจก็อย่างที่อาจารย์พูดน่ะ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจตเรื่อวงพวกนี้เลย แล้วจะ...เรื่องทั้งหมดก็ตจะหกลั่งไหลมาที่กระทรวงยุติธรรมทั้งหมด.

ผมยกตัวอย่างที่นี้ อย่างสถานพินิจเนี่ยะ ที่เราเดินตามศาลมา พอศาลตั้งแล้ว ก็ทำไม่ทัน เมื่อทำไม่ทันเนี่ยะ ประชาชนก็จะเกิดความเดือดร้อน สถานที่แรกรับเนี่ยะประมาณซัก 17-18 แห่งเนี่ยะ ก็ต้องรองรับ 4-5 จังหวัด ท่านลองคิดดูว่า 4-5 จังหวัด เยาวชนต้อง...ชาวบ้าน ประชาชนหลายๆจังหวัดต้องข้ามมา ข้ามมาอีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งมันไม่ควรเป็นอย่างนั้น เราจะควรรองรับเหมือนศาล ศาลมีทุกจังหวัด ศาลมีทุกที่ แต่สถานที่ที่รองรับปลายทางโดยที่ศาลตัดสินแล้วเนี่ยะ กลับไปอยู่ในจังหวัด 1 จังหวัดต้องรองรับ 5-6 จังหวัด แล้วท่านคิดดู ประชาชนจะไปรับบริการทางด้านประชาชน กระบวนการยุติธรรมกันได้อย่างไร? นี่คือปัญหา นะครับ.

แล้วระบบพัฒนานิสัยโดยกรมพินิจก็จะมีปัญหาตามไป พวกผมเชื่อว่า ระบบพัฒนานิสัยที่ดีนั่นควรจะมาจากชุมชน จะมาจากครอบครัวนะครับ เมื่อไม่มีสถานที่แรกรับดีๆ อยู่ในพื้นที่ของเยาวชนที่มีปัญหาน่ะ เราต้องข้ามถิ่นข้ามจังหวัดไปน่ะ การดูแลครอบครัวก็จะห่างไปด้วย นี่คือสิ่งที่ท่านประธานนะว่า เราห่างไกล เราไม่สามารถที่จะจัดระบบ ส่วนราชการไม่สามารถที่จัดระบบให้กับประชาชนได้ นี่คือยกตัวอย่างกระทรวงยุติธรรมเป็นลักษณะนี้.

หรืออีกอย่างหนึ่ง เรื่องการอำนวยความยุติธรรม หรือการเหลื่อมล้ำ ที่ข้อ 10 ข้อ 11 ด้วยก็ตาม วันนี้เราพยายามที่จะผลักดันกองทุนยุติธรรมให้ขึ้นมา ให้ทัน มันเป็นแค่ระเบียบน่ะครับ กองทุนยุติธรรม ก็คือการช่วยเหลือทั้งระบบ แล้วกรมคุ้มครองสิทธิก็จะดูกฎหมายอีกตัวคือการเยียวยา พรบ. 44 ทั้งระเบียบกองทุนยุติธรรมและ พรบ.44 เนี่ยะ ห่างไกลจากประชาชนมาก คนที่รู้เท่านั้นที่จะมาใช้ ไม่น่าเชื่อนะครับว่า ท้านผู้ว่าราชการจังหวัดท่าน นายอำเภอที่ผมสัมผัสรู้จักเนี่ยะ ไม่เคยรับรู้เรื่องกองทุนยุติธรรม หลายจังหวัด นั่นหมายความว่าประชาชน ถ้ารผู้ว่าฯไม่รู๔นายอำเภอไม่รู้ ประชาชนไม่มีทางรู้ กองทุนยุติธรรมตั้งมาหลาย 10 ปี แต่ไม่สามารถที่จะขยาย หรือสามารถนำประโยชน์ตรงนี้ สู่ประชาชนได้เลย วันนี้ก็เลยต้องแก้ไข แต่ก็น่าเห็นใจนะ กระทรวงยุติธรรม 12 ปีที่โครงสร้างใหม่เนี่ยะ ที่ผมเรียนให้ท่านทราบ มีปัญหาตลอดเวลา คุ้มครองสิทธิ มีคน 136 คนที่ต้องดูแลคนที่ต้องการกองทุนยุติธรรม 60 กว่าล้านคนตามชนบท ซึ่งในโครงสร้างมันเป็นไปไม่ได้ที่จะดำเนินการอย่างนี้นะครับ จึงไม่แปลกที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอ บางอำเภอบางพื้นที่ ไม่เคยรับรู้ในสิ่งเหล่านี้นะครับ เพราะฉะนั้นประชาชนที่บอกแล้วว่า ไม่มีเงิน ห่างไกล ยุ่งยาก นะครับ ก็จะไม่ได้รับสิทธิอันนี้ และขาด นี่คือช่องว่างที่ท่านประธานฯพูดคำนี้.

ผมก็พยายามแก้ และเมื่อวันที่ 8 ธันวา เราก็พยายามMOU กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ทุกโรงพัก เดิมจะใช้ประมาณ เค้าพยายามเดิมเค้าทำประมาณ 30-40 โรงพักนำร่อง แล้วจะขายไปโรงพักอำเภอเมือง ก็เลยสั่งว่า 1,467 โรงพัก ต้องเป็นแหล่งที่ดำเนินการ เพราะกระบวนการยุติธรรมมันเริ่มจากตำรวจก่อน พนักงานสอบสวนจะแจ้งให้เค้าทราบเลยว่า คุณได้รับสิทธิกองทุนยุติธรรมอะไรบ้าง ในการช่วยเหลือ ค่าทนาย ค้าเดินทาง ค้าประกันตัว อะไรทั้งหลายแหล่นะครับ ต้องเรียนให้ทราบว่า ผมก็พยายามบอกกระทรวงยุติธรรมว่า เขาถูกหรือผิด แต่ขอให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมให้เต็มที่ ให้โอกาสเค้าให้เต็มที่ นะครับ.

นั่นคือ หน้าที่ของคนกระทรวงยุติธรรม ต้องทำอย่างนี้ อย่ามองว่าเค้าผิดหรือว่าเค้าถูกมันคนละเรื่องกัน มันเป็นเรื่องกระบวนการ ที่เค้าว่าไปตามนั้น แต่เค้าต้องมีโอกาส ไม่ใช่ว่าเค้ามีเงิน...ไม่มีเงินหมื่นบาท เค้าต้องติดคุกละ มันไม่น่าจะถูกต้อง ในสิทธิของความเป็นคนไทย อย่างเนี้ยะ แต่เราจะทำยังไงกับคน 136 คนที่นำเรื่องพวกนี้เข้าสู่ นำกระทรวงยุติธรรม หรือนำระบบที่กระทรวงยุติธรรมรู้เรื่อง ไปสู่ชนบทได้ มันก็ต้องแสวงหาภาคีออกมา.

เรื่องนี้ก็พยายามนะครับ MOUสำนักงานตำรวจแห่งชาติ MOUอัยการ อยากฝันเห็นอัยการท่านมาด้วยในที่นี้น่ะ ก็ตกลงยากเหมือนกัน ขอเรียนตรงๆ ต้องกราบเรียนอัยการนิดหนึ่งว่า ท่านกรุณาเป็น คือเรากระจายกองทุนยุติธรรมไปอยู่จังหวัด เพราะหลายเรื่องเนี่ยะ มันมากระจุกตัวอยู่ที่ ซึ่งผมต้องนั่งเป็นประธานต้องดูแลเรื่องพวกนี้ ไม่ทำไม่ทัน หลายคนต้องติดคุกเพราะว่า ไม่ได้รับการอนุมัติเพราะไม่มีเงินค่าประกันตัว ผมถามว่าถ้าพี่น้องท่านเป็นอย่างเงี้ยะ แม้วันเดียวชั่วโมงเดียวท่านก็ไม่อยากให้เค้าเดินเข้าคุก ถูกมั้ยครับ? ผมจะทำยังไงในเรื่องพวกนี้ให้มันทันเวลา คือหน้าที่ที่ผมบอกพวกข้าราชการผมว่า ท่านต้องทำให้ได้ มันเป็นหน้าที่ของพวกเรา ไม่งั้นท่านต้องยุบกองทุนยุติธรรม อย่าตั้งกองทุนมาให้ทำเพื่อโก้ แล้วบอกว่าเรามีกองทุนยุติธรรม มันไม่ได้นะครับ.

ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เราก็พยายามพยายามที่จะเอากองทุนยุติรรมไปอยู่ที่จังหวัดทั้งหมด ให้ตัวจังหวัดมีอำนาจ เมื่อ 2-3 วันก่อนก็พิจารณาว่า ผู้อนุมัติกองทุนยุติธรรมเนี่ยะ ต้องขยับ เมื่อก่อนนี้ก็ จังหวัดนำร่องก็ได้สักแสน ก็ดีใจ เดี๋ยวนี้ไม่ได้นะ เอ่อ แล้วทำยังไง กว่าจะมาถึงผมเนี่ยะ ผมนั่งหัวโต๊ะเนี่ยะ แค่ 2 วันก็ไม่ได้แล้ว เดือินนึงเราทำครั้งเดียว ผมเชื่อว่าหลายคนก็ติดคุกไปเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมนะ ผมไม่ได้บอกว่าคนนั้นจะผิดหรือถูก แต่เขาต้องมีโอกาสต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมให้มากที่สุด บนพื้นฐานที่เค้าเป็นประชาชนคนไทย บนพื้นฐานที่รัฐต้องดูแลเขาอย่างเต็มที่ นะครับ ผิดก็ต้องผิด ถูกก็ต้องถูก แต่เค้าต้องมีโอกาสต่อสู้ ไม่ใช่ไม่มีโอกาสต่อสู้บนความที่ว่าบ้านเขาอยู่ห่างไกล ไม่มีเงิน นะครับ ยุ่งยาก อย่างที่ท่านประธานพูด ไม่ควรจะทำอย่างนี้.

ดังนั้นผมพยายามผลักดัน พรบ.กองทุนยุติธรรม ซึ่งตั้งมานานน่ะ วันนี้ผลักดันเต็มที่ ช่วยเต็มที่นะ ไปพูดกับกฤษฎีกา วันนี้เข้าไปเรียบร้อยแล้ว และเป็นนโยบายของท่านนายกฯด้วย ให้ทำ หลังจากที่คาราคาซัง มาหลายปีนะ ผมถึงบอกกฎหมายดีๆ ไม่ออก แปลกใจมากนะครับ แล้วไม่ได้พูดนะครับว่า มีผู้บริหารบางกลุ่มบอกว่า คุณอย่าดูมากเลย เพราะกระทรวงยุติธรรมมีรัฐ...อะไรนะ พูดกับผม แล้วผมเข้ามาน่ะ เอ่อ ถ้าขับเคลื่อนมากแล้ว รัฐต้องเสียตังค์มาก เนี่ยะ ผมอยากด่าน่ะ คุณไม่ควรเป็นผู้บริหาร เพราะหน้าที่ผู้บริหาร คือดูแลประชาชนทุกคนให้กินดีอยู่ดีมีสุขทั้งหมดนะครับ เวลาคุณไป เนี่ยะผมไม่อยากพูดน่ะ พูดทีไรนักข่าวชอบไปเขียนตลอดน่ะ มีนักข่าวรึเปล่าเนี่ยะ? ปิดห้องหน่อยได้มั้ย? ให้ผมพูดจริงๆนะ อย่าหัวเราะ ผมรำคาญหลายครั้ง ผมพูดที่คุมประพฤติเนี่ยะ เอาผมไปเขียนเยอะนะ HUBยาเสพติดผมยอมรับ ผมเป็นคนพูดเองHUBยาเสพติด แต่คุณไม่ยอมรับกันเองว่าจริง คุณแก้ไม่ได้หรอกนะครับ อันนี้จะยก...(มีต่อตอนที่ 2)          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น