พลังเอกธาตุ
ตอนที่ ๑
ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับเรื่องการออกกำลังกายที่เพิ่งออกมาใหม่ก็ซ้ำกับของเก่าที่เคยระบุไว้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นผลดีต่อการป้องกันไม่ให้เป็นโรคหัวใจ
และเป็นผลดีต่อสุขภาพอนามัย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรใหม่จากผลวิจัยเก่าๆ
ที่เคยออกมาแล้วยกเว้นข้อที่ว่าการออกกำลังกายนั้นจะมีผลดีต่อหลอดเลือดและการทำงานของสมองด้วย
ผลดีที่ว่านั้นเป็นผลที่พึงเกิดขึ้นตามธรรมดาของการออกกำลังกาย
แต่เป็นผลที่พูดถึงกันแต่ด้านเดียว ในขณะที่อีกด้านหนึ่งกลับไม่ได้พูด
เพราะปรากฏเสมอมาว่าคนออกกำลังกายจำนวนหนึ่งบาดเจ็บหรือถึงแก่ความตายเร็วกว่าปกติ
การออกกำลังกายมากเกินไปที่กำลังตัวเองจะรับได้ก็ดี
การออกกำลังกายโดยไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเองก็ดี
ย่อมมีผลร้ายและอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้
การออกกำลังกายที่พร่หลายอยู่ในทุกวันนี้เป็นแบบตะวันตก
โดยมีวาระซ่อนเร้นอยู่ที่การโฆษณาขายสินค้าเกี่ยวกับการออกกำลังกายเดี่ยวกับออกกำลังกาย
ตั้งแต่เครื่องแต่งกายไปจนถึงอุปกรณ์ในการออกกำลังกาย
และการปฏิบัติบางอย่างหลังจากการออกกำลังกาย ซึ่งล้วนเป็นสินค้าราคาแพง
และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก
การออกกำลังกายแบบนี้มักจะถือเกณฑ์จากการไหลของเหงื่แอคือทำให้เหงื่อออกประมาณ
๒๐ นาที ก็จะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีหนักๆเข้าก็ไม่ต้องออกกกำลังกาย
แต่ไปใช้วิธีอย่างอื่น เช่น การอบเพื่อให้เหงื่อออกตามที่กำหนด
ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือที่นำเข้ามาจากต่างประเทศในราคาสุดแสนจะแพง
การออกกำลังกายแบบตะวันตกนิยมอย่างมากก็แค่ทำให้เหงื่อออกแล้วรู้สึกสบายกาย
สบายตัว อาบน้ำแล้วก็สดชื่น และสำคัญผิดคิดว่านั่นคือ การออกกำลังกายที่ได้ผล
ถ้าจะถามว่ากระดูก
ผิวหนัง ผม ขน ได้ออกกำลังกายบ้างหรือไม่ ก็คงตอบได้ว่าไม่มีการออกกำลัง
แต่ที่เหงื่อออกก็เพราะว่ามีการใช้พลังงานในร่างกายมาก มีการเผาผลาญพลังงานมาก
จึงบังเกิดความร้อนและทำให้เหงื่อออก เมื่อเหงื่อออกมาก ร่างกายก็ต้องการน้ำ
ครั้นดื่มน้ำก็สดชื่น นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายตามแบบแผนปัจจุบัน
แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงต้องยอมรับว่า
การออกกำลังกายไม่ว่าด้วยวิธีการไหนๆ ย่อมมีประโยชน์แก่ร่างกายและชีวิตมากกว่าการไม่ออกกำลังกาย
คงเหลือแต่ว่าทำอย่างไรจึงจะเปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนยากจนและเป็นคนชั้นกลางสามารถได้รับประโยชน์จากการออกกำลังกายโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
ไม่ต้องเสียเวลามาก
และไม่ต้องตกเป็นทาสของการโฆษณาสินค้าและอุปกรณ์การกีฬาของตะวันตก
ความจริงการออกกำลังกายที่เป็นผลดีต่อสุขภาพอนามัยและชีวิตโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
ไม่ต้องยุ่งยาก ก็มีอยู่หลากหลายวิธี
ชาวนาทำนา
ชาวสวนทำสวน ชาวบ้านทำมาค้าขาย เป็นทั้งการออกกำลังกายและเป็นทั้งการประกอบอาชีพ
เป็นสิ่งที่มีและกระทำกันอยู่ดาษดื่น แต่ไม่โด่งไม่ดังเพราะไม่ได้ออกโทรทัศน์โฆษณา
ไม่มีการรณรงค์ทางสื่อมวลชน
เพราะไม่มีผลต่อการขายอุปกรณ์สินค้าในการออกกกำลังกายนั้น
แต่เป็นการออกกำลังกายที่ได้ผลจริง
และเห็นผลมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนกระทั่งปัจจุบันนี้
การออกบิณฑบาตของพระสงฆ์
รวมทั้งการเดินจงกรม แม้กระทั่งสิ่งที่กล่าวถึงในหนังสือประเภทบู๊เฮี๊ยบ
เกี่ยวกับการฝึกลมปราณและกำลังภายในก็เป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่งซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพอนามัยและชีวิตเช่นเดียวกัน
การออกกำลังกายโดยการฝึกฝนชนิดหนึ่งที่เรียกว่าพลังเอกธาตุก็เป็นการออกกำลังกายที่ได้ผลมาก
ทั้งต่อสุขภาพร่างกายและชีวิต โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย
ไม่ต้องมีเครื่องแต่งกายให้ยุ่งยากลำบาก และไม่เสียเวลามาก ที่ไหนมีพื้นและอากาศหายใจก็สามารถใช้ในการฝึกพลังเอกธาตุได้ทั้งสิ้น
การฝึกพลังเอกธาตุเป็นการออกกำลังกายที่สอดคล้องกับความลี้ลับอันมีอยู่ตามธรรมชาติ
เป็นแต่ว่าคทั่วไปไม่ค่อยจะสนใจหรือมองข้ามไปเท่านั้น
เหตุนี้จึงจำต้องทำความรู้จักและความเข้าใจพื้นฐานเพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากการฝึกพลังเอกธาตุต่อไป
ร่างกายของคนเรานั้นมีเครื่องจักรใหญ่อยู่
๕ ตัว คือ ปอด หัวใจ ตับ ไต และม้าม และมีเครื่องวจักรสำคัญเกี่ยวเนื่องกับเครื่องจักรใหญ่นี้อีก
๒ ชนิด คือ ระบบท่อต่างๆโดยเฉพาะท่อของเลือดในร่างกายและสมอง เครื่องจักรใหญ่ ๕
เครื่อง และเครื่องจักรสำคัญอีก ๒ เครื่องนี่แหละที่ทำให้ชีวิตดำเนินไป
ทำให้ชีวิตนี้มีความเป็นปกติ ทำให้ชีวิตนี้แข็งแรงสมบูรณ์และมีอายุยืนยาว
ทางการแพทย์แผนตะวันออกจะเน้นการให้ความสำคัญแก่เครื่องจักรใหญ่
๕ เครื่องและเครื่องจักรสำคัญ ๒ เครื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง
และถือว่าโรคภัยทั้งหลายที่บังเกิดแก่กายนี้ ก็เกิดที่เครื่องจักรเหล่านี้เอง
การออกกำลังกายตามแบบแผนตะวันตกด
ไม่ได้มีผลทำให้เครื่องจักรเหล่านี้แข็งแรง หรือมีสภาพดีขึ้นแต่ประการใด
อย่างมากก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นเร็วขึ้น ทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้น
แต่ถ้าสภาพนี้ไม่เหมาะสมกับร่างกาย ก็อาจส่งผลร้ายให้ถึงแกด่ความตายได้
การฝึกกำลังภายในหรือการฝึกลมปราณแบบตะวันออกเป็นการออกกำลังกายที่มีผลต่อเครื่องจักรเหล่านี้
โดยผนวกกับการหายใจ หรือที่เรียกว่าการฝึกลมปราณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการออกกำลัง
ทำให้เครื่องจักรเหล่านั้นเมื่อผสมกับลมปราณแล้วก็จะขับเคลื่อนอย่างมีพลังมากยิ่งขึ้น
ทำให้มีการออกกำพลังภายในร่างกายโดยที่ภายนอกอาจจะไม่ต้องเคลื่อนไหวมากมายนัก
พระสงฆ์ในพระธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าบิณฑบาตหรือเดินจงกรม
มีอาการสามอย่างประกอบกันอย่างเป็นเอกภถาพ คือการเคลื่อนไหวของร่างกาย
การขับเคลื่อนลมปราณ และการทำจิตให้ตั้งมั่น คือร่างกายภายนอกออกกำลัง
เครื่องจักรภายในทั้ง ๗ ตัวทำงานอย่างประสานกลมกลืน
โดยมีจิตใจที่มีอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว เปแนกดารออกกำลังกายทั้งภายนอก ภายใน
และจิตใจประสมประสานกัน
เช่นเดียวกับพระสงฆ์ในนิกายมหายานหรือวชิรยานที่กระทำพิธีบางอย่างซึ่งมีลักษณะเป็นการออกกายภายนอก
ออกกำลังกายภายใน และทำใจให้ตั้งมั่น เช่น การเคาะไม้ในเวลาสวดมนต์ หรือการยืน
นั่งก้ม คลาน ในการกราบ เป็นต้น
เหล่านี้ล้วนเป็นเบาะแสที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งลี้ลับของการฝึกพลังเอกธาตุหรือการออกกำลังกายที่แอบแฝงอยู่ในวัตรปฏิบัติหรือพิธีกรรมในพระพุทธศาสนา
และมีผลทำให้สุขภาพอนามัยดี ทั้งมีชีวิตที่ยืนยาวอีกด้วย แม้ว่าพระสงฆ์เหล่านั้นไม่ได้เล่นกีฬา
ไม่ได้ออกกำลังกายแบบตะวันตก รวมทั้งฉันอาหารน้อยยิ่งกว่าน้อย
เพราะเหตุที่การออกกำลังกายที่แท้จริงนั้น
ไม่ได้ออกกำลังที่กระดูก ผิวหนัง เนื้อ หรือสิ่งภายนอก แต่เป็นการออกกำลังที่กระดูก
ผิวหนัง เนื้อ หรือสิ่งถภายนอก แต่เป็นการออกกำลังที่ตัวเครื่องจักรสำคัญในร่างกาย
คือ ปอด หัวใจ ตับ ไต ม้าม ท่อหรือหลอดลเอด และสมอง ผนึกลมปราณและจิตใจ
ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจถึงกระบวนการออกกำลังของแต่ละอย่างและการผนึกแต่ละอย่างเข้าด้วยกัน
เริ่มด้วยกาย
การออกกำลังกายที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การวิ่งหรือเดินเร็วๆ
แต่อยู่ที่การผนึกกำลัง ดังนั้นวิธีการก็คือการยืนแบบย่อตัว
โดยเริ่มต้นจากการยืนตัวตรง เท้าชิด มือพนมไว้ที่ทรวงอก หน้าตรง
สายตาทอดไปเบื้องหน้าตามสบาย
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วจึงค่อยก้าวขาออกไปทางด้านข้างหรือยืนถ่างขานั่นเอง
ค่อยๆย่อตัวลงมาประมาณ ๑ คืบ ในขณะที่มือและหน้ายังอยู่ในท่าเดิม
ท่านี้เรียกว่าท่าเตรียมตัวของการออกกำลังกายโดยการฝึกปรือพลังเอกธาตุ
ทดลองดูก็จะเห็นประจักษ์แก่ตนเองว่า การยืนย่อตัวในลักษณะนี้แม้เพียง ๕ นาทีก็จะรู้สึกว่าเหมือนกับการวิ่งรอบสนามฟุตบอลอย่างไรก็อย่างนั้น
โดยที่ไม่ต้องเปลืองความสึกหรอของข้อเท้าหรือหัวเข่าแต่ประการใดเลย
ถัดมาก็คือปราณหรือลมหายใจ
ลมเมื่ออยู่ภายนอกเรียกว่าอากาศ หากเคลื่อนไหวรุนแรงเรียกว่าพายุ
แต่เมื่อไหลบเวียนเข้าสู่ร่างกายเรียกว่าปราณหรือลมปราณ เพราะเป็นลมที่ทำให้ชีวิตนี้ดำรงอยู่และดำเนินไป
ตราบใดที่ยังมีปราณหรือลมหายใจอยู่ ตราบนั้นพึงรู้เถิดว่ายังมีชีวิตอยู่และไม่ตาย
ถ้าเมื่อใดไม่มีปราณเมื่อนั้นก็ต้องตาย
ลมปราณคือสายพานทอดเชื่อมระหว่างชีวิตกับความตาย
มีความสำคัญต่อชีวิตถึงปานนี้ สำมะหาอะไรกับแค่ออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์และมีอายุยืนยาว
แต่เคล็ดลับของการฝึกลมปราณให้เป็นผลดีแก่สุขภาพและชีวิตก็ย่อมมีอยู่
ข้อแรก ในขณะหายใจเข้าออกหรือเวลาลมปราณเข้าออกร่างกาย จะต้องฝึกส่วนอกหรือหน้าท้องให้มีความสัมพันธ์กัน
เวลาสูดลมปราณเข้าร่างกาย ส่วนอกและส่วนท้องต้องป่องออกเวลาขับลมปราณออกจากร่างกาย
ส่วนอกและส่วนท้องต้องแฟบและต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างปราณีต
ข้อสอง
ลมปราณเข้าจะต้องให้เข้าทางจมูก ซึ่งข้อนี้สอดคล้องกับหลักทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ในการป้องกันเชื้อโรคต่างๆไ
ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย แต่เวลาออกต้องให้ออกทางปาก จมูกกับปากต้องสัมพันธ์
เวลาลมปราณเข้าจะต้องเอาปลายลิ้นกดเพดานด้านบนไว้ เวลาลมปราณออกจะต้องเปิดปากปล่อยลิ้นลงมา
แล้วขับปราณออกให้สม่ำเสมอ ลมปราณต้องให้เข้าลึกดรู้สึกไปถึงสะดือ ส่วนท้องต้องปแองถึงสะดือ
เวลาลมปราณออกต้องให้หมดจนอกและท้อแฟบแทบจะรู้สึกว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่ในทรวงอกและหน้าท้องอีกเลย
ในส่วนของจิต
จะต้องฝึกฝนทางจิตไปพร้อมกัน ละวางอารมณ์ ความรู้สึกทั้งหลายที่เกาะกุมจิตอยู่
ทำให้จิตมีอารมณ์ความรู้สึกอย่างเดียวคือให้รู้สึกตัวอยู่เสมอว่า
ลมหายใจเข้าหรือออกโดยตั้งความรู้สึกไว้ที่ปลายจมูกหรือหน้าอก
หรือหน้าท้องก็ได้ตามแต่ถนัด
ในขณะที่อยู่ในท่าเตรียม
ลมหายใจหรือลมปราณเข้าออกอย่างลึกและสัมพันธ์กับทรวงอกและหน้าท้อง
ทั้งสัมพันธ์กับจิตใจที่เกาะมั่นอยู่กับการรับรู้ความรู้สึกเข้าออกของลมปราณขณะผ่านเข้าออกปลายจมูก
ทรวงอกหรือหน้าท้องก็จะทำให้กาย ปราณ และจิตเริ่มปผนึกกดันเป็นเอกภาพ
ในขณะที่ร่างกายภายนอก เครื่องจักรภายใน และจิตใจได้เริ่มต้นการออกกำลังแล้ว
การฝึกพลังเอกธาตุมีทั้งสิ้น ๓ กระบวนท่า ในลักษณะที่กาย ปราณ และจิตสัมพันธ์กันเป็นเอกภาพ จะได้พรรณนาเป็นลำดับในตอนต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น