หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568

จีน – สถานการณ์ระหว่างประเทศและนโยบายต่างประเทศของเรา (3)

จีน – สถานการณ์ระหว่างประเทศและนโยบายต่างประเทศของเรา (3)

(คำปราศรัยของ ประธานาธิบดี เจียงเจ้อหมิน 12 ตุลาคม 1992 ในที่ประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมูนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่14)

-: หนังสือ “สรรนิพนธ์ เติ้ง เสี่ยวผิง จีนจะไปทางไหน?” โดย ดาวประกาย รุ่งอรุณ แปล, บุญศักดิ์ แสงระวี บรรณาธิการ, หน้า 179-184)

3. สถานการณ์ระหว่างประเทศและนโยบายต่างประเทศของเรา

          ภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศที่สลับซับซ้อนและผันผวนนี้ งานการต่างประเทศของเราได้รับผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวง มิตรสัมพันธ์ฉันประเทศเพื่อนบ้านที่ดี ระหว่างเรากับประเทศรอบข้างอยู่ในช่วงระยะที่ดีที่สุดนับตั้งแต่สถาปนาประเทศเป็นต้นมา ความสามัคคีและความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาอันไพศาลได้หรือความมั่นคงและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับประเทศต่างๆ ในโลกรวมถึงประเทศพัฒนาฝ่ายตะวันตกได้รับการปรับปรุงดีขึ้นและพัฒนาไปบนพื้นฐานหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติ ประเทศเรามีผลสะเทือนในสากลมาก ขึ้นทุกทีและมีฐานะทางสากลสูงขึ้นทุกที

          เวลานี้โลกกำลังอยู่ในช่วงประวัติศาสตร์ที่ผันผวนแปรปรวนสถานภาพที่โลกแยกเป็นสองขั้วให้สิ้นสุดลงแล้ว พลังชนิดต่างๆได้แยกตัวและรวมตัวกันใหม่ โลกกำลังพัฒนาไปสู่ทิศทางที่มีหลายขั้วสถานภาพใหม่นี้จะเป็นกระบวนการที่สลับซับซ้อนและยาวนาน มีทางเป็นไปได้ที่ในช่วงเวลาจากนี้ไปที่ค่อนข้างยาวนาน จะมีสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่อยู่ในภาวะสันติและหลีกเลี่ยงจากมหาสงครามโลกครั้งใหม่ และในขณะเดียวกันก็ต้องมองเห็นว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันยังคงจะปั่นป่วนไม่สงบ ความขัดแย้งต่างๆ ของโลกได้พัฒนาลึกซึ้งเข้าไปอีก ความขัดแย้งทางประชามติ ข้อพิพาททางดินแดนและการวิวาททางศาสนาของประเทศและเขตแคว้นต่างๆ ไม่น้อยได้โผล่ผุดขึ้น กระทั่งก่อให้เกิดการปะทะนองเลือดและสงครามเฉพาะส่วนเศรษฐกิจระหว่างประเทศแข่งขันกันรุนแรงยิ่งขึ้นทุกวัน ภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาทรุดหนักยิ่งขึ้น ช่องว่างระหว่างใต้กับเหนือห่างออกไปมากยิ่งขึ้น

          สันติภาพและการพัฒนายังคงเป็นประเด็นสำคัญ 2 ประการของโลกปัจจุบัน การพัฒนาต้องการสันติภาพ สันติภาพห่างเหินไปจากการพัฒนาไม่ได้ การดำรงอยู่ของลัทธิวางตัวเป็นเจ้าและการเมืองที่ถืออำนาจเป็นใหญ่เป็นอุปสรรคสำคัญของการแก้ปัญหาสันติภาพและการพัฒนาตลอดมา การพัฒนาของโลกจะตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความยากจนและล้าหลังของประเทศกำลังพัฒนาอันไพศาลตลอดไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและความปั่นป่วนไม่สงบของสถานการณ์ระหว่างประเทศ ทำให้ประชาชนทั่วโลกที่ตื่นตัวมากขึ้น แนวโน้มที่ประเทศกำลังพัฒนาซึ่งประสบเคราะห์กรรมเช่นเดียวกันมาในประวัติศาสตร์ต้องการที่จะพิทักษ์เอกราชอธิปไตย สามัคคีร่วมมือกันได้ดำเนินไปเข้มแข็งยิ่งขึ้น โลกต้องการสันติภาพ ประเทศต้องการพัฒนา สังคมต้องการความก้าวหน้า เศรษฐกิจต้องการความเจริญรุ่งเรืองและชีวิตความเป็นอยู่ต้องการยกระดับสูงขึ้น เหล่านี้ได้กลายเป็นความต้องการของประชาชนประเทศต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว

          เบื้องหน้าสถานการณ์ระหว่างประเทศใหม่นี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐบาลจีนและประชาชนจีนจะพัฒนาความสัมพันธ์กับต่างประเทศต่อไปอย่างแข็งขัน พยายามช่วงชิงให้การปฏิรูปเปิดประเทศและการสร้างประเทศให้ทันสมัยของประเทศเรามีสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศเป็นผลดีและสร้างคุณูปการของตนเองเพื่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก.

          จีนดำเนินนโยบายต่างประเทศที่สันติเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเองอย่างเสมอต้นเสมอปลายตลอดมาไม่เปลี่ยนแปลง การพิทักษ์เอกราชและอธิปไตยของประเทศเราส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลกเป็นเป้าหมายขั้นพื้นฐานของนโยบายต่างประเทศของจีน ในปัญหาที่เกี่ยวถึงผลประโยชน์ประชาชาติและอธิปไตยของประเทศ จีนจะไม่จำนนต่อแรงกดดันใดๆ ที่มาจากภายนอกอย่างเด็ดขาด จีนเป็นพลังที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ในการผดุงสันติภาพของโลก จีนไม่สร้างพันธมิตรกับประเทศหรือกลุ่มประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ไม่เข้าร่วมกลุ่มการทหารใดๆ ทั้งสิ้น จีนจะไม่วางตัวเป็นจ้าวและไม่ขยายอิทธิพลตลอดไป ในขณะเดียวกันก็คัดค้านลัทธิวางตัวเป็นจ้าวการเมืองที่ถืออำนาจเป็นใหญ่ตลอดจนการรุกรานลารขยายอิทธิพลไม่ว่าในรูปแบบใดทั้งสิ้น จีนคัดค้านการแข่งขันทางกำลังรบ มีความเห็นให้ลดกำลังรบและควบคุมกำลังรบอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักการที่เที่ยงธรรม สมเหตุสมผล ทั่วด้านและสมดุล ปัจจุบันนี้บางประเทศในโลกก็พูดถึงการลดกำลังรบแต่กลับมิได้ลดอาวุธที่เป็นไฮเทคชั้นยอดของพวกเขา ในด้านจัดการกับกิจการระหว่างประเทศ จีนปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติและกติกาแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วไปอย่างเข้มงวด ยึดมั่นในจุดยืนขั้นหลักการที่แสวงหาสัจจะจากความเป็นจริงและเชิดชูความเป็นธรรม

          จะสร้างระเบียบใหม่ระหว่างประเทศชนิดใดเป็นปัญหาสำคัญที่ประชาคมระหว่างประเทศขณะนี้เอาใจใส่กันที่วไป จากประสบการณ์ในประวัติศาสตร์และสภาวะที่เป็นอยู่ เรามีข้อคิดเห็นให้สร้างระเบียบใหม่ระหว่างประเทศที่สันติ มั่นคง ยุติธรรม และสมเหตุสมผลบนพื้นฐานแห่งหกลักการที่เคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกันไม่รุกล้ำซึ่งกันและกัน ไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน เสมอภาคอำนวยประโยชน์แก่กัน และอยู่ร่วมกันโดยสันติ ระเบียบใหม่นี้รวมถึงการสร้างระเบียบโลกใหม่ทางเศรษฐกิจระหกว่างประเทศที่เสมอภาคอำนวยประโยชน์แก่กันด้วย โลกมีหลายรูปหลายนแบบ ระหว่างประเทศกับประเทศมีข้อแตกต่างกันชนิดต่างๆ ประชาชนประเทศต่างๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกระบอบสังคมและหนทางพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพของประเทศตามสภาพรูปธรรมของประเทศตน ประเทศไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก เข้มแข็งหรืออ่อนแอ ยากจนหรือมั่งคั่ง ต่างก็ควรเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างประเทศในฐานะที่เป็นสมาชิกประชาคมระหว่างประเทศอย่างเสมอภาค ระหว่างประเทศกับประเทศควรที่จะให้ความเคารพซึ่งกันและกัน แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ถ้อยทีถ้อยปฏิวัติต่อกันด้วยความเสมอภาคและอยู่ร่วมกันฉันท์มิตร ความขัดแย้งและข้อพิพาทระหว่างประเทศ กับประเทศควรจะแก้ไขด้วยสันติวิธีโดยผ่านการปรึกษาหารือกันตามกฏบัตรสหประชาชาติและตามบรรทัดฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ จะใช้กำลังอาวุธหรือข่มขู่โดยกำลังอาวุธไม่ได้ ลัทธิวางตัวเป็นจ้าวและการเมืองที่ถืออำนาจเป็นใหญ่ การที่ประเทศจำนวนน้อยไม่กี่ประเทศผูกขาดและควบคุมกิจกรรมระหว่างประเทศไปไม่รอดแล้ว การสร้างระเบียบใหม่ระหว่างประเทศเป็นภาระหน้าที่ในระยะเวลาอันยาวนาน ประชาชนจีนจะร่วมกับประชาชนประเทศต่างๆ ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละเพื่อการนี้

          จีนในฐานะเป็นสมาชิกของสหประชาชาติและเป็นประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สนใจบทบาทของสหประชาชาติและเข้าร่วมกิจการของสหประชาชาติอย่างแข็งขัน เราสนับสนุนสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ให้มีบทบาทที่แข็งขันในการผดุงสันติภาพของโลก ผลักดันกระบวนการลดกำลังรบ ส่งเสริมการพัฒนาทั่วโลกตลอดจนแก้ข้อพิพาทระหว่างประเทศเป็นอาทิ

          จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนา การเสริมความสามัคคีและความร่วมมือกับประเทศโลกที่สาม เป็นจุดยืนแห่งนโยบายต่างประเทศของประเทศเรา จีนจะปฏิวัติกับประเทศพัฒนาดังเช่นในอดีตคือสนับสนุนซึ่งกันและกันทางด้านพิทักษ์เอกราชและอธิปไตยของประเทศตน ทำการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมากขึ้น จีนได้เป็นผู้สังเกตการณ์ของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและได้สร้างความสัมพันธ์ที่สันติแน่นแฟ้นกับกลุ่ม 77 ประเทศแล้ว ต่อไปนี้จะกระชับความร่วมมือกับพวกเขาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

          จีนยินดีที่จะพัฒนามิตรสัมพันธ์และความร่วมมือกับทุกประเทศบนพื้นฐานหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติ ความแตกต่างทางระบอบสังคมและรูปการณ์จิตสำนึกไม่ควรเป็นอุปสรรคขัดขวาง การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในการไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศจีนจะไม่ยัดเยียดระบอบสังคมและรูปการจิตสำนึกของตนให้แก่ผู้อื่นอย่างเด็ดขาด และก็จะไม่อนุญาตให้ประเทศอื่นยัดเยียดระบอบสังคมและรูปการจิตสำนึกไม่ควรเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในการไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศจีนและไม่ยัดเยียดระบอบสังคมและรูปการณ์จิตสำนึกของตนให้แก่ผู้อื่นอย่างเด็ดขาด และก็จะไม่อนุญาตให้ประเทศอื่นยัดเยียดระบอบสังคมและรูปการจิตสำนึกของเขาให้แก่จีนอย่างเด็ดขาดเช่นกัน จุดยืนขั้นหลักการของเรานี้จะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด

          จีนดำเนินการเปิดประตู่ต่อภายนอกอย่าวงเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ยินดีจะเสริมและขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีกับประเทศต่างๆ ในโลกอย่างไม่ขาดสายบนพื้นฐานแห่วความเสมอภาคและอำนวยประโยชน์แก่กัน จะเสริมการแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรม การศึกษา การสาธารณสุข การกีฬาเป็นต้นให้แข็งขันขึ้น

          พรรคคอมมิวนิสต์จีนสนใจความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับพรรคการเมืองต่างๆ ของโลก ปัจจุบันนี้พรรคคอมมิวนิสต์ที่มีอยู่กับพรรคการเมืองต่างๆ ของโลก ปัจจุบันนี้พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มีการติดต่อสัมพันธ์ในรูปแบบที่ต่างกันกับพรรคการเมืองหรือองค์การการเมืองมากมายของร้อยกว่าประเทศ เราจะสร้างและพัฒนามิตรสัมพันธ์กับพรรคการเมืองของประเทศต่างๆ ต้องไปตามหลักการที่เป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง เสมอภาคเท่าเทียมกัน เคารพซึ่งกันและกันและไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน เพิ่มพูนความเข้าใจและความร่วมมือกันด้วยเจตนารมณ์ที่แสวงหาจุดร่วมสงวนจุดต่าง

          การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ประกาศความสิ้นสุดของประวัติศาสตร์อันน่าเศร้าสลดที่ประชาชนชาติต่างๆ ของจีนต้องถูกรุกราน กดขี่และข่มเหงรังแกมาเป็นเวลายาวนาน ภาวะสิทธิมนุษยชนได้รับการปรับปรุงดีขึ้นในขั้นมูลฐาน ประชาชนได้เป็นเจ้าของประเทศและได้สร้างชีวิตใหม่ของตนอย่างต่อเนื่อง รัฐธรรมนูญจีนได้ประกันสิทธิชนิดต่างๆ ของประชาชนในด้านมูลฐาน จีนได้เข้าร่วมกติกาสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนมากมายและเห็นด้วยให้มีการวิสาสะกันอย่างเสมอภาคระหว้างประเทศในปัญหาสิทธิมนุษยชน พูดให้ถึงที่สุดแล้วปัญหาสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องที่อยู่ในปริมณฑลอธิปไตยแห่งชาติ เราคัดค้านการใช้ปัญหาสิทธิมนุษยชนแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นอย่าวงเด็ดเดี่ยว

          ความจัดเจนทางประวัติศาสตร์บอกเราไม่ว่าจะใช้อะไรเป็นข้ออ้าง หากเป็นการล่วงล้ำเอกราขและอธิปไตยของประเทศอื่น แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ใช้ใหญ่ข่มเล็ก ใช้แข็งรังแกอ่อน ใช้ความมั่งคั่งกดขี่ความยากจน ก็จะไม่เป็นที่พอใจแก่ผู้คนทั้งสิ้น ผู้ใดที่ยื่นมือออกไปเสียนยาว ผู้ใดที่กดขี่ข่มเหงผู้อื่น ผู้นั้นจะถูกประชาชนทั่วโลกประณามและคัดค้าน มีธรรมะคนช่วยมาก ขาดธรรมะคนช่วยน้อย จะอย่างไรก็ตาม พลังที่เป็นธรรมะจะไม่มีใครพิชิตได้เลย.

        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น