จีน – สถานการณ์ระหว่างประเทศและนโยบายต่างประเทศของเรา (3)
(คำปราศรัยของ ประธานาธิบดี เจียงเจ้อหมิน
12 ตุลาคม 1992 ในที่ประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมูนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่14)
-:
หนังสือ “สรรนิพนธ์ เติ้ง เสี่ยวผิง จีนจะไปทางไหน?” โดย ดาวประกาย
รุ่งอรุณ แปล, บุญศักดิ์ แสงระวี บรรณาธิการ, หน้า 179-184)
3.
สถานการณ์ระหว่างประเทศและนโยบายต่างประเทศของเรา
ภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศที่สลับซับซ้อนและผันผวนนี้
งานการต่างประเทศของเราได้รับผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวง
มิตรสัมพันธ์ฉันประเทศเพื่อนบ้านที่ดี ระหว่างเรากับประเทศรอบข้างอยู่ในช่วงระยะที่ดีที่สุดนับตั้งแต่สถาปนาประเทศเป็นต้นมา
ความสามัคคีและความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาอันไพศาลได้หรือความมั่นคงและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับประเทศต่างๆ ในโลกรวมถึงประเทศพัฒนาฝ่ายตะวันตกได้รับการปรับปรุงดีขึ้นและพัฒนาไปบนพื้นฐานหลัก
5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติ ประเทศเรามีผลสะเทือนในสากลมาก
ขึ้นทุกทีและมีฐานะทางสากลสูงขึ้นทุกที
เวลานี้โลกกำลังอยู่ในช่วงประวัติศาสตร์ที่ผันผวนแปรปรวนสถานภาพที่โลกแยกเป็นสองขั้วให้สิ้นสุดลงแล้ว
พลังชนิดต่างๆได้แยกตัวและรวมตัวกันใหม่ โลกกำลังพัฒนาไปสู่ทิศทางที่มีหลายขั้วสถานภาพใหม่นี้จะเป็นกระบวนการที่สลับซับซ้อนและยาวนาน
มีทางเป็นไปได้ที่ในช่วงเวลาจากนี้ไปที่ค่อนข้างยาวนาน จะมีสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่อยู่ในภาวะสันติและหลีกเลี่ยงจากมหาสงครามโลกครั้งใหม่
และในขณะเดียวกันก็ต้องมองเห็นว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันยังคงจะปั่นป่วนไม่สงบ
ความขัดแย้งต่างๆ ของโลกได้พัฒนาลึกซึ้งเข้าไปอีก ความขัดแย้งทางประชามติ ข้อพิพาททางดินแดนและการวิวาททางศาสนาของประเทศและเขตแคว้นต่างๆ
ไม่น้อยได้โผล่ผุดขึ้น กระทั่งก่อให้เกิดการปะทะนองเลือดและสงครามเฉพาะส่วนเศรษฐกิจระหว่างประเทศแข่งขันกันรุนแรงยิ่งขึ้นทุกวัน
ภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาทรุดหนักยิ่งขึ้น ช่องว่างระหว่างใต้กับเหนือห่างออกไปมากยิ่งขึ้น
สันติภาพและการพัฒนายังคงเป็นประเด็นสำคัญ
2 ประการของโลกปัจจุบัน การพัฒนาต้องการสันติภาพ สันติภาพห่างเหินไปจากการพัฒนาไม่ได้
การดำรงอยู่ของลัทธิวางตัวเป็นเจ้าและการเมืองที่ถืออำนาจเป็นใหญ่เป็นอุปสรรคสำคัญของการแก้ปัญหาสันติภาพและการพัฒนาตลอดมา
การพัฒนาของโลกจะตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความยากจนและล้าหลังของประเทศกำลังพัฒนาอันไพศาลตลอดไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและความปั่นป่วนไม่สงบของสถานการณ์ระหว่างประเทศ
ทำให้ประชาชนทั่วโลกที่ตื่นตัวมากขึ้น แนวโน้มที่ประเทศกำลังพัฒนาซึ่งประสบเคราะห์กรรมเช่นเดียวกันมาในประวัติศาสตร์ต้องการที่จะพิทักษ์เอกราชอธิปไตย
สามัคคีร่วมมือกันได้ดำเนินไปเข้มแข็งยิ่งขึ้น โลกต้องการสันติภาพ
ประเทศต้องการพัฒนา สังคมต้องการความก้าวหน้า เศรษฐกิจต้องการความเจริญรุ่งเรืองและชีวิตความเป็นอยู่ต้องการยกระดับสูงขึ้น
เหล่านี้ได้กลายเป็นความต้องการของประชาชนประเทศต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว
เบื้องหน้าสถานการณ์ระหว่างประเทศใหม่นี้
พรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐบาลจีนและประชาชนจีนจะพัฒนาความสัมพันธ์กับต่างประเทศต่อไปอย่างแข็งขัน
พยายามช่วงชิงให้การปฏิรูปเปิดประเทศและการสร้างประเทศให้ทันสมัยของประเทศเรามีสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศเป็นผลดีและสร้างคุณูปการของตนเองเพื่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก.
จีนดำเนินนโยบายต่างประเทศที่สันติเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเองอย่างเสมอต้นเสมอปลายตลอดมาไม่เปลี่ยนแปลง
การพิทักษ์เอกราชและอธิปไตยของประเทศเราส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลกเป็นเป้าหมายขั้นพื้นฐานของนโยบายต่างประเทศของจีน
ในปัญหาที่เกี่ยวถึงผลประโยชน์ประชาชาติและอธิปไตยของประเทศ จีนจะไม่จำนนต่อแรงกดดันใดๆ
ที่มาจากภายนอกอย่างเด็ดขาด จีนเป็นพลังที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ในการผดุงสันติภาพของโลก
จีนไม่สร้างพันธมิตรกับประเทศหรือกลุ่มประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ไม่เข้าร่วมกลุ่มการทหารใดๆ
ทั้งสิ้น จีนจะไม่วางตัวเป็นจ้าวและไม่ขยายอิทธิพลตลอดไป
ในขณะเดียวกันก็คัดค้านลัทธิวางตัวเป็นจ้าวการเมืองที่ถืออำนาจเป็นใหญ่ตลอดจนการรุกรานลารขยายอิทธิพลไม่ว่าในรูปแบบใดทั้งสิ้น
จีนคัดค้านการแข่งขันทางกำลังรบ มีความเห็นให้ลดกำลังรบและควบคุมกำลังรบอย่างมีประสิทธิภาพ
ตามหลักการที่เที่ยงธรรม สมเหตุสมผล ทั่วด้านและสมดุล ปัจจุบันนี้บางประเทศในโลกก็พูดถึงการลดกำลังรบแต่กลับมิได้ลดอาวุธที่เป็นไฮเทคชั้นยอดของพวกเขา
ในด้านจัดการกับกิจการระหว่างประเทศ จีนปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติและกติกาแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วไปอย่างเข้มงวด ยึดมั่นในจุดยืนขั้นหลักการที่แสวงหาสัจจะจากความเป็นจริงและเชิดชูความเป็นธรรม
จะสร้างระเบียบใหม่ระหว่างประเทศชนิดใดเป็นปัญหาสำคัญที่ประชาคมระหว่างประเทศขณะนี้เอาใจใส่กันที่วไป
จากประสบการณ์ในประวัติศาสตร์และสภาวะที่เป็นอยู่ เรามีข้อคิดเห็นให้สร้างระเบียบใหม่ระหว่างประเทศที่สันติ
มั่นคง ยุติธรรม และสมเหตุสมผลบนพื้นฐานแห่งหกลักการที่เคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกันไม่รุกล้ำซึ่งกันและกัน
ไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน เสมอภาคอำนวยประโยชน์แก่กัน
และอยู่ร่วมกันโดยสันติ ระเบียบใหม่นี้รวมถึงการสร้างระเบียบโลกใหม่ทางเศรษฐกิจระหกว่างประเทศที่เสมอภาคอำนวยประโยชน์แก่กันด้วย
โลกมีหลายรูปหลายนแบบ ระหว่างประเทศกับประเทศมีข้อแตกต่างกันชนิดต่างๆ
ประชาชนประเทศต่างๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกระบอบสังคมและหนทางพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพของประเทศตามสภาพรูปธรรมของประเทศตน
ประเทศไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก เข้มแข็งหรืออ่อนแอ ยากจนหรือมั่งคั่ง
ต่างก็ควรเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างประเทศในฐานะที่เป็นสมาชิกประชาคมระหว่างประเทศอย่างเสมอภาค
ระหว่างประเทศกับประเทศควรที่จะให้ความเคารพซึ่งกันและกัน แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง
ถ้อยทีถ้อยปฏิวัติต่อกันด้วยความเสมอภาคและอยู่ร่วมกันฉันท์มิตร ความขัดแย้งและข้อพิพาทระหว่างประเทศ
กับประเทศควรจะแก้ไขด้วยสันติวิธีโดยผ่านการปรึกษาหารือกันตามกฏบัตรสหประชาชาติและตามบรรทัดฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ
จะใช้กำลังอาวุธหรือข่มขู่โดยกำลังอาวุธไม่ได้ ลัทธิวางตัวเป็นจ้าวและการเมืองที่ถืออำนาจเป็นใหญ่
การที่ประเทศจำนวนน้อยไม่กี่ประเทศผูกขาดและควบคุมกิจกรรมระหว่างประเทศไปไม่รอดแล้ว
การสร้างระเบียบใหม่ระหว่างประเทศเป็นภาระหน้าที่ในระยะเวลาอันยาวนาน ประชาชนจีนจะร่วมกับประชาชนประเทศต่างๆ
ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละเพื่อการนี้
จีนในฐานะเป็นสมาชิกของสหประชาชาติและเป็นประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
สนใจบทบาทของสหประชาชาติและเข้าร่วมกิจการของสหประชาชาติอย่างแข็งขัน เราสนับสนุนสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ให้มีบทบาทที่แข็งขันในการผดุงสันติภาพของโลก ผลักดันกระบวนการลดกำลังรบ
ส่งเสริมการพัฒนาทั่วโลกตลอดจนแก้ข้อพิพาทระหว่างประเทศเป็นอาทิ
จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนา
การเสริมความสามัคคีและความร่วมมือกับประเทศโลกที่สาม
เป็นจุดยืนแห่งนโยบายต่างประเทศของประเทศเรา จีนจะปฏิวัติกับประเทศพัฒนาดังเช่นในอดีตคือสนับสนุนซึ่งกันและกันทางด้านพิทักษ์เอกราชและอธิปไตยของประเทศตน
ทำการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมากขึ้น
จีนได้เป็นผู้สังเกตการณ์ของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและได้สร้างความสัมพันธ์ที่สันติแน่นแฟ้นกับกลุ่ม
77 ประเทศแล้ว ต่อไปนี้จะกระชับความร่วมมือกับพวกเขาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
จีนยินดีที่จะพัฒนามิตรสัมพันธ์และความร่วมมือกับทุกประเทศบนพื้นฐานหลัก
5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติ ความแตกต่างทางระบอบสังคมและรูปการณ์จิตสำนึกไม่ควรเป็นอุปสรรคขัดขวาง
การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในการไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศจีนจะไม่ยัดเยียดระบอบสังคมและรูปการจิตสำนึกของตนให้แก่ผู้อื่นอย่างเด็ดขาด
และก็จะไม่อนุญาตให้ประเทศอื่นยัดเยียดระบอบสังคมและรูปการจิตสำนึกไม่ควรเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในการไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศจีนและไม่ยัดเยียดระบอบสังคมและรูปการณ์จิตสำนึกของตนให้แก่ผู้อื่นอย่างเด็ดขาด
และก็จะไม่อนุญาตให้ประเทศอื่นยัดเยียดระบอบสังคมและรูปการจิตสำนึกของเขาให้แก่จีนอย่างเด็ดขาดเช่นกัน
จุดยืนขั้นหลักการของเรานี้จะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด
จีนดำเนินการเปิดประตู่ต่อภายนอกอย่าวงเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
ยินดีจะเสริมและขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีกับประเทศต่างๆ
ในโลกอย่างไม่ขาดสายบนพื้นฐานแห่วความเสมอภาคและอำนวยประโยชน์แก่กัน จะเสริมการแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรม
การศึกษา การสาธารณสุข การกีฬาเป็นต้นให้แข็งขันขึ้น
พรรคคอมมิวนิสต์จีนสนใจความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับพรรคการเมืองต่างๆ
ของโลก ปัจจุบันนี้พรรคคอมมิวนิสต์ที่มีอยู่กับพรรคการเมืองต่างๆ ของโลก
ปัจจุบันนี้พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มีการติดต่อสัมพันธ์ในรูปแบบที่ต่างกันกับพรรคการเมืองหรือองค์การการเมืองมากมายของร้อยกว่าประเทศ
เราจะสร้างและพัฒนามิตรสัมพันธ์กับพรรคการเมืองของประเทศต่างๆ
ต้องไปตามหลักการที่เป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง เสมอภาคเท่าเทียมกัน
เคารพซึ่งกันและกันและไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน
เพิ่มพูนความเข้าใจและความร่วมมือกันด้วยเจตนารมณ์ที่แสวงหาจุดร่วมสงวนจุดต่าง
การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ประกาศความสิ้นสุดของประวัติศาสตร์อันน่าเศร้าสลดที่ประชาชนชาติต่างๆ
ของจีนต้องถูกรุกราน กดขี่และข่มเหงรังแกมาเป็นเวลายาวนาน ภาวะสิทธิมนุษยชนได้รับการปรับปรุงดีขึ้นในขั้นมูลฐาน
ประชาชนได้เป็นเจ้าของประเทศและได้สร้างชีวิตใหม่ของตนอย่างต่อเนื่อง
รัฐธรรมนูญจีนได้ประกันสิทธิชนิดต่างๆ ของประชาชนในด้านมูลฐาน
จีนได้เข้าร่วมกติกาสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนมากมายและเห็นด้วยให้มีการวิสาสะกันอย่างเสมอภาคระหว้างประเทศในปัญหาสิทธิมนุษยชน
พูดให้ถึงที่สุดแล้วปัญหาสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องที่อยู่ในปริมณฑลอธิปไตยแห่งชาติ
เราคัดค้านการใช้ปัญหาสิทธิมนุษยชนแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นอย่าวงเด็ดเดี่ยว
ความจัดเจนทางประวัติศาสตร์บอกเราไม่ว่าจะใช้อะไรเป็นข้ออ้าง
หากเป็นการล่วงล้ำเอกราขและอธิปไตยของประเทศอื่น แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ใช้ใหญ่ข่มเล็ก
ใช้แข็งรังแกอ่อน ใช้ความมั่งคั่งกดขี่ความยากจน
ก็จะไม่เป็นที่พอใจแก่ผู้คนทั้งสิ้น ผู้ใดที่ยื่นมือออกไปเสียนยาว ผู้ใดที่กดขี่ข่มเหงผู้อื่น
ผู้นั้นจะถูกประชาชนทั่วโลกประณามและคัดค้าน มีธรรมะคนช่วยมาก ขาดธรรมะคนช่วยน้อย
จะอย่างไรก็ตาม พลังที่เป็นธรรมะจะไม่มีใครพิชิตได้เลย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น