การประชุมเสวนา โป๋อาว ฟอรั่ม สามารถเปลี่ยนความทะเยอทะยานของเอเชียไปสวมเกราะติดอาวุธได้หรือไม่?
Can the Boao Forum turn Asia's ambition into armor?
https://youtu.be/4SAKC9aNpog?si=dD_QxA04CdNesaD9
ยาซีร์
มาสูด: เอเชียได้ถูกผลักดันขึ้นเป็นนำในนวัตกรรมสีเขียวและดิจิตอล เผชิญหน้ากับการแตกกระจายออกของห่วงโซ่อุปทานแบะการแบ่งแยกทางภูมิรัฐศาสตร์. (Asia’s push to lead in
green and digital innovation faces fractured supply chains and geopolitical
divides.)
ความทะเยอทะยานสามารถก้าวไปเร็วกว่าการแบ่งสรรได้ไหม?
ในการประชุมเสวนา โปอาว ฟอรั่ม ปี 2025 สำหรับจัดการปัญหาเอเชีย เหล่านี้คือหัวเรื่องที่ความท้าทาย,
ด้วยการที่นักยุทธศาสตร์ชาวออสเตรเลีย ดร. ดิ๊กบี เจมสิ์ วเรน เสนอตารางแผนก้าวไปข้างหน้า: 1. เปลี่ยนการสนทนาไปเป็นโครงสร้างพื้นฐาน 2. อัตราส่วนเครื่องยนต์นวัตกรรมของจีน
3. การสนับสนุนทางการเงินสำหรับ ปัญญาประดิษฐ์ และ เทคโนโลยีสีเขียว.
(Can ambition out pace division? The 2025 Boao Forum1 for
Asia tackles these challenges head-on, with Australian strategist Digby James
Wren2 charting a path forward: 1.
Turn dialogue into infrastructure 2. Scale China’s innovation engine
3. Unlock financing for AI and green tech.)
1
https://en.wikipedia.org/wiki/Boao_Forum_for_Asia
2
https://kh.linkedin.com/in/dgb365
ด้วย
RCEP (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค - ผู้แปล) และ ASEAN (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ผู้แปล) เป็นเช่นสมอเรือ/หลักยึดทั้งหลาย,
เขาได้สนับสนุนอย่างแรงกล้ากับ ตลาดแบบรวม, กระแสข้อมูลไร้รอยต่อ,
และ หุ้นส่วนระดับรากหญ้า (With RCEP3 and ASEAN4 as anchors, he
advocates unified markets5, seamless data flows6, and grassroots
partnerships7.)
5 https://www.bigcommerce.com/glossary/unified-commerce/
6 https://www.ascend.io/blog/data-flows-designing-strategies-for-seamless-integration
7 https://en.wikipedia.org/wiki/Grassroots
แต่ในโลกของ กำแพงภาษีนำเข้า
และการกระจายตัวทางตลาด, พหุภาคีนิยมยังคงสามารถที่จะแพร่หลายได้หรือไม่?
คำตอบของ BOAO คือ: กระบวนการขับเคลื่อนที่ไว้ใจได้,
ที่ซึ่งการพูดคุยกลายเป็นวันพรุ่งนี้. ต่อไปนี้คือ, ดร. ดิ๊กบี กับสะพานเชื่อมคำมั่นสัญญาทั้งหลายกับความก้าวหน้า.
(But in a world of tariffs8 and fragmentation9, can
multilateralism10 still prevail? Boao’s answer: trust-driven progress,
where talk becomes tomorrow. Next, Dr. Digby on bridging promises and progress.)
9 https://greedisgoods.com/fragmentation/
10 https://en.wikipedia.org/wiki/Multilateralism
ดร. ดิ๊กบี เจมสิ์ วเรน: “โป๋อาว ฟอรั่ม
เป็นแพลตฟอร์มแท้จริงสำหรับเอเชีย, และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.
และ เอ่อ แปลความหมายจากการถกเถียง/อภิปรายเชิงนโยบาย เหมือนเช่นที่ โป๋อาว ไปสู่การริเริ่มสร้างสรรค์ที่กระทำได้
ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งง่ายๆที่จะทำ, แต่มันขับเคลื่อนแรงกระทบทางเศรษฐกิจ.
สิ่วงทั้งหลายนั้นเป็นคว่ามสำคัญจริงๆที่ชณะนี้ในการเปลี่ยนพลิกคำพูดไปสู่การกระทำ
คือกุญแจสำคัญ, และ เอ่อการจัดตั้งสถาบันกลไกซึ่งตามมา และการทำงานเป็นกลุ่มทั้งหลาย,
เปลี่ยนพลิกความคิดทั้งหลายไปสู่แบบพิมพ์เขียว, และการพัฒนารูปธรรมทั้งหลายที่ถาวร.
(“The Boao Forum is a
really great platform for Asia, and specially for Southeast Asia. And the uh
translating policy discussions like Boao into actionable initiatives is not
necessarily an easy thing to do, but it drives economic
impact. The things that are really important at the moment are turning dialogue
into action is the key, and uh institutionalizing the follow-up mechanism and
working groups, converting ideas into blueprints, and developing permanent
bodies.”)
ความสามารถในการปรับขนาด คืออีกสิ่งหนึ่ง.
ผมคิดว่านั่นสำคัญอย่างมาก, การทำได้เสร็จที่ความเร็วและขนาดคือเครื่องหมายคุณภาพแท้จริงของนวัตกรรมของประเทศจีน.
โป๋อาว ฟอรั่มสามารถที่จะเป็นแพลตฟอร์มได้ในการทำเช่นนั้น. (Scalability11 is another
thing. I think that’s very important, getting done at speed and scale are
really the hallmarks of China’s innovation. The Boao Forum enables a platform
to do that.)
11
https://en.wikipedia.org/wiki/Scalability
ดังนั้น, ผมชอบที่จะเห็นแบบจำลองการสร้างสรรค์ทั้งหลายที่สามารถถูกประยุกต์เข้ากับประเทศทั้งหลายที่แตกต่างกัน,
ตัวอย่างเช่น, ต่อปากีสถาน, กัมพูชา, มเลย์เชีย, อินโดนีเซีย
และเวียตนาม. และการระดมทุน. ผมคิดว่าทางการเงินทุนเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ยังมีไม่เพียงพอในการป้อนเข้าไป,
และมันยุ่งยากที่จะได้การติดต่อสัญญาทั้งหลายตามที่คุณจำเป็นต้องการอย่างทันเวลาสำหรับในเรื่องการสนับสนุนการเงิน.
(So,
I like to see more innovative models that can be applied to different
countries, for example, to Pakistan, Cambodia, Malaysia, Indonesia and Vietnam.
And mobilizing finance. I think finance is another area where there’s not
enough input, and it’s difficult to get the contracts you need at the right
time for financing.)
และแล้วอาจเป็นจริงได้ในสิ่งสุดท้ายคือ การจัดลำดับความสำคัญ
ทางดิจิตอลและสีเขียว. และผมคิดว่านั่นคือกุญแจสำคัญตัวจริง. จีนเป็นผู้นำในพื้นที่นี้ระดับสากล,
และผมอยากที่จะเห็นนั่นได้ถูกผลักดันหรือถูกสนับสนุนมากและแข็งแรงยิ่งขึ้นพุ่งตรงข้ามไปยังประเทศหุ้นส่วนทั้งหลายในเอเชีย.
(And then probably the last one
is prioritizing digital and green. And I think that’s really key. China’s
leading in that area globally, and I’d like to see that being pushed or
supported more strongly right across all of the partner countries in Asia.)
ยาซีร์ มาสูด: แต่ความก้าวหน้าต้องการมากกว่าความทะเยอทะยาน; มันจำเป็นต้องการชุดเกราะและอาวุธ. จากการกระจากสินค้าคอขวดทั้งหลายของกัมพูชาไปยังตงามก้าวหน้าในการขนส่งทางรางของอินโดนีเซีย,ห่วงโซ่สินค้าเอเชียกำลังเขียนขึ้นใหม่ในเรื่องความสามารถในการปรับตัว/ความยืดหยุ่น.
ดร. ดิ๊กบี้ ตัดไปหาแก่นคือ:
เสริมสร้างความเข้มแข็งในการเข้าถึง, รวมระบบครบวงจร,
จัดลำดับความสำคัญเสถียรภาพการทำงาน. (But progress demands more
than ambition; it needs armor. From Cambodia logistics bottlenecks to
Indonesia’s rail breakthroughs, Asia’s supply chains are rewriting resilience.
Dr. Digby cuts to the core: Strengthen access12, unify system13, prioritize
stability14.)
12
https://frontegg.com/guides/access-management
13
https://www.uctoday.com/unified-communications/what-is-unified-communications/
ตอนนี้,
เขาได้เข้าจู่โจมกับคำถามมูลค่าล้านล้านดอลลาร์: การเติบโตของแบบป้องกันอนาคตนี้
จะเป็นอย่างไรกับโลกที่แตกกระจายกันอยู่นี้? (Now, he tackles the
trillion dollars question: How do futureproof15 growth in a
fragmented world?)
ดร. ดิ๊กบี เจมสิ์ วเรน: สินค้าชั้นกลางทั้งหลาย,
โดยเฉพาะสินค้าชั้นกลางของจีน,
เกือบที่จะชัดเจนว่าเข้าถึงห่วงโซ่อุปทานทั้งหลายของการย้ายถิ่นธุรกิจไปยังพื้นที่ใหม่ใกล้เคียงเหล่านั้น.
นั่นเป็นสิ่งสำคัญ. ความยืดหยุ่นของห่วสงโซ่อุปทานเป็นที่ชัดเจนว่ากำลังที่จะต้องถู฿กเสริมสร้างความแข็งแรงและจัดลำดับความสำคัญ.
ตัวอย่างเช่น, บางประเทศอย่างกัมพูชา, มันยังเป็นสิ่งยุ่งยากลำบากมาก. แต่มีบางจุดที่สว่างไสวที่นี่.
เส้นทางรถไฟลาว - จีน, และเส้นทางรถไฟของอินโดนีเซีย จากจาร์กาต้าไปยังบันดุง.
(Intermediate goods16, especially Chinese
intermediate goods, nearly clearer access to those new nearshoring17 supply
chains. That’s important. Resilience of the supply chains is clearly going to
have to be strengthened and prioritized. For example, some countries like
Cambodia, it is still very difficult. But there are some
bright spot here, The Lao-China railway, and Indonesia’s railway from Jakarta
to Bandung.)
16
https://en.wikipedia.org/wiki/Intermediate_good
17
https://en.wikipedia.org/wiki/Nearshoring
การแตกกระจายทางภูมิรัฐศาสตร์/ภูมิศาสตร์การเมือง
เป็นปัญหาที่สร้างความไม่แน่นอนอย่างมาก.
การแตกกระจายนั้นเป็นสาเหตุแท้จริงที่ทำให้เกิดโดยแรงกดดันที่ได้สร้างขึ้น
โดยส่วนใหญ่ก็คือสหรัฐอเมริกาและยุโรป. จีนคือผู้จัดหาในระดับยิ่งใหญ่ที่สุดของเสถียรภาพให้กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,
ให้กับเอเชียกลาง, และพาดข้ามไปทั่วเอเชีย. (Geopolitical
fragmentation is very problematic. That fragmentation is really caused by
pressure that’s being caused by mostly the United States and Europe. China is
(providing) the greatest level of stability for Southeast Asia, for Central
Asia, and right across Asia.)
ยาซีร์ มาสูด: ความยืดหยุ่นกำลังถูกสร้างขึ้นทีละราง,
ทีละนโยบาย. แต่ดังที่ห่วงโซ่อุปทานมีเสถียรภาพ, คือเครื่องทดสอบที่ยากยิ่งขึ้นว่า:
พันธมิตรทางเศรษฐกิจของเอเชีย สามารถก้าวขึ้นนำหน้าการแบ่งแยกเชิงภูมิรัฐศาสตร์
ได้หรือไม่? (Resilience is being built rail
by rail, policy by policy. But as supply chains stabilize, a tougher test
looms:
ดร. ดิ๊กบี เปลี่ยนถ่ายจุดเพ่งสนใจไปที่กฎทั้งหลายของความสัมพันธ์/ผูกพัน: “พหุภาคีนิยมแบบวงกว้างไม่ใช่ทางเลือก. มันคือทางรอด.”
จากการรวมอำนาจเข้าหากันของRCEP ในการที่จะทำการยุทธดิจิตอลกับกระบวนการแบ่งแยกพื้นที่แบบบอลช่าน,
เขาได้ทำบัญชีตารางเส้นทางที่สะพานหัวเว่ยทั้งหลายที่เชื่อมอาเซียนและที่ซึ่งโป๋อาวกลายเป็นเครื่องมือสัมบูรณ์สุด.
(Dr. Digby shifts focus to
the rules of engagement: “Inclusive multilateralism isn’t
optional. It’s survival.” From RCEP’s unifying power to battling digital
Balkanization18, he charts a path where Huawei bridges ASEAN and where
Boao becomes the ultimate toolkit.)
18
https://en.wikipedia.org/wiki/Balkanization
ตอนนี้,
เขาได้เปิดผ้าคลุมกลยุทธนี้คือ: ทำอย่างไรที่กรอบโครงการทำงานแบบพหุภาคีเปลี่ยนชิ้นแตกเล็กๆทั้งหลายไปเป็นฐานที่มั่นคง.
(Now, he unveils the strategy: How multilateral frameworks19 turn
fractures into footholds.)
19
https://www.truedigitalacademy.com/blog/6-product-management-framework-examples
ดร. ดิ๊กบี เจมสิ์
วเรน: พหุภาคีนิยมแบบครอบคลุมเป็นหนทางสิ้นสุดที่จะไปในที่นี่.
โป๋อาวต้องมุ้งเน้นที่สิ่งทั้งหลายซึ่งเรามี,
โครงข่ายทั้งหลายที่ได้มมีอยู่ในที่นั้นแล้ว, เหมือนเช่นอาเซียนและRCEP, นั่นสมบูรณ์แล้ว; ในเอเชียกลาง, ด้วยกลุ่มการค้า-เศรฐกิจทั้งหลายที่มีอยู่; และด้วยเช่นกัน, ภูมิภาคทั้งหลายด้วยหุ้นส่วนในอาฟริกาและอเมริกาใต้,
ที่จะลดการแตกกระจัดกระจายและสร้างสรรค์ตลาดแบบรวมให้มากขึ้น. (Inclusive
multilateralism is end way to go here. Boao needs to concentrate on
the ones we do have, the networks that are already in place, like Asean and
RCEP, that’s perfect; in Central Asia, with the existing economic blocks; and also,
the regional ones with the partners in Africa and South America, to reduce
fragmentation and create for more unified market.)
ตัวอย่างเช่น,
อาเซียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คือผู้ชนะอย่างกระจ่างชัด เพราะว่ามันเป็นหุ้นส่วนทางการค้าใหญ่โตที่สุดสำหรับจีน.
และ RCEPด้วยเช่นกันที่จัดหาแรงกำลังแม่เหล็กเชิงบวก,
ที่ซึ่งดีสำหรับคนออสเตรเลียนทั้งหลาย,คนนิวซีแลนด์, คนญี่ปุ่น,
และเกาหลีใต้. บริษัททั้งหลายในจีน, เช่น หัวเว่ย, เสี่ยวมี่
และอื่นๆ, สามารถที่จะได้เกี่ยวข้องในธรรมาภิบาลที่ดีขึ้น, ผมคิดว่า,
ธรรมาภิบาลในการสื่อสารโทรคมนาคม และธรรมาภิบาลในการแบ่งปันข้อมูล. (For
example, ASEAN especially is a clear winner because it is the biggest trading
partner for China. And the RCEP is also providing a positive magnetic force, which
is good for Australians, New Zealanders, Japanese, and South Koreans. Companies
in China, like Huawei, Xiaomi, and others, can all be involved in better
governance, I think, communication governance and data-sharing governance.)
นั่นจำเป็นที่ต้องถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว.
เราไม่ต้องการการแตกแยกกระจัดกระจายแบบบอลข่านของประเทศทั้งหลายในอาเซียน
เพียงแค่เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะเชื่อมต่อกับระบบเก็บข้อมูลทั้งหลายของพวกเขา.
เราจำเป็นต้องมีชุดเครื่องมือสำหรับการนั้น, ผมคาดว่าโป๋อาวน่าจะเป็นหนทางที่ดีในการที่จะจัดตั้งชุดเครื่องมือสำหรับการนี้.
(That needs to be looked at fairly closely. We don’t want the
Balkanization of all these ASEAN countries just because they don’t want to
connect to their storage systems. We need a toolkit for that, I suppose. Boao
would be an very good way to set up a toolkit for doing that.)
ยาซีร์ มาสูด: อนาคตของเอเชียเปลี่ยนแปลงไปตามสามเสาหลักนี้: อัตราเร็ว, อัตราส่วน, อัตรารวมพลัง(Asia’s
future hinges on three pillars: Speed, Scale, Solidarity.)
จากเส้นทางรถไฟ ลาว - จีน สู่หนทางการเป็นผู้เปลี่ยนเกมของ
RCEP, สมุดแผนผังการเล่นของ ดร. ดิ๊กบี
เขียนไว้ชัดเจน. เปลี่ยนการโต้วาทีไปเป็นสะพานทั้งหลาย. เปลี่ยนความขัดแย้งเสียดสีไปสู่โครงร่างงานทั้งหลาย.
เปลี่ยนการแบ่งแยกหมวดหมู่ทั้งหลายไปสู่การขับเคลื่อน.
นี่ไม่ใช่การทะเลาะถกเถียงทางการค้าทั้งหลาย. มันเกี่ยวกับการเขียนแก้กฎกติกาขึ้นใหม่.
จากการก้าวกระโดดทางดิจิตอลของหัวเว่ย ไปสู่รากหญ้าอันอดทน. โป๋อาว
คือชุดเครื่องมืออันสัมบูรณ์ของเอเชีย. ชาติพันธุ์ไม่ใช่การต่อต้านของการแข่งขันทั้งหลาย.
มันยังต่อต้านต่อเวลา. และเส้นชัย. (From the Laos –
China railway to RCEP’s game-changing way, Dr. Digby’s playbook is clear: Turn
debate into bridges. Turn friction into frameworks. Turn divisions into drive. This
isn’t about trade spats. It’s about rewriting the rules. From Huawei’s digital
leaps to grassroots grit, Boao is Asia’s ultimate toolkit. The race isn’t
against rivals. It’s against the clock. And the finish line)
โลกคือการแบ่งปันอนาคต
ไม่ใช่เป็นแค่การโต้วาที. พวกมันต้องถูกก่อสร้างขึ้นมา. (A
world where shared futures aren’t just debated. They’re built.)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น