หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

วัชรปาณีโพธิสัตว์ มนตร์ / ชำระกรรม

วัชรปาณีโพธิสัตว์ มนตร์ / ชำระกรรม
วัชรปาณีโพธิสัตว์ หมายถึง “สภาวะ เพชร” หรือ “สภาวะ-วัชระ”.  คุณลักษณะนี้คือ แข็งแกร่งดุจ วัชรโพธิสัตว์. โดยการฝึกฝนธรรมะของพระองค์, สานุศิษย์สามารถหลีกพ้นจากความคิดชั่วร้ายทั้งปวง, กำจัดสิ่งรบกวนจิตใจทั้งหลายและมีความสุขและปัญญาไร้จำกัด. รายละเอียดอีกที่ข้างล่างนี้...
พระองค์ปกติจะปรากฏอยู่ในกิริยานั่ง*ปทุมมาสนะ(lotus posture – ปทุม/ดอกบัว + อาสนะ).
* ท่านั่งแบบดอกบัว





พระองค์สวมมงกุฏที่มักจะเป็นภาพของ พระอักโษภยพุทธะ (Akshobhya), และแต่งกายและเครื่องประดับของ พระธยานิพุทธะ(Dhyani-Buddhisattva)** ที่พระอุระของพระองค์, พระองค์
** พระธยานิพุทธะหรือพระฌานิพุทธะ (บางแห่งเรียกพระชินพุทธะ) เป็นพระพุทธเจ้าในคติความเชื่อของมหายาน เชื่อว่าอวตารมาจากพระอาทิพุทธะ สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าด้วยอำนาจฌานของอาทิพุทธะ ไม่ได้ลงมาสร้างบารมีเหมือนพระมานุสสพุทธะ (พระพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์) ดำรงในสภาวะสัมโภคกาย มีแต่พระโพธิสัตว์ที่เห็นพระองค์ได้
พระธยานิพุทธะโดยทั่วไปมี 5 พระองค์ คือ พระไวโรจนพุทธะ พระอักโษภยพุทธะ พระรัตนสัมภวพุทธะ พระอมิตาภพุทธะ และพระอโมฆสิทธิพุทธะ พระธยานิพุทธะทั้ง 5 องค์นี้ได้สร้างพระธยานิโพธิสัตว์ขึ้นด้วยอำนาจฌานของตนอีก 5 องค์ คือ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์เกิดจากพระไวโรจนพุทธะ พระวัชรปาณีโพธิสัตว์เกิดจากพระอักโษภยพุทธะ พระรัตนปาณีโพธิสัตว์เกิดจากพระรัตนสัมภวพุทธะ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์เกิดจากพระอมิตาภพุทธะ และพระวิศวปาณีโพธิสัตว์เกิดจากพระอโมฆสิทธิพุทธะ.  https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B0



พระธยานิพุทธะ ศิลปะทิเบต

มักจะประคองหินวัชระ(vajra)อยู่ในพระหัตถ์ขวา; แต่หินวัชระ(vajra)บางครั้งลอยสมดุลย์อยู่บนฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์. ด้วยพระหัตถ์ซ้าย, พระองค์ถือกระดิ่งกันตะ(ganta)***ที่พระโสณี(สะโพก)




ถ้าเป็นปางยืน, พระองค์จะประคองหินวัชระ(vajra)ด้วยพระหัตถ์ขวาแนบพระอุระ, ขณะที่พระหัตถ์ซ้าย,ห้อยไว้ด้วยกระดิ่งกันตะ(ganta), ที่พระองค์แนบกระดิ่งกันตะนั้นไว้กับพระอูรุ(ต้นขา). ที่ไม่เหมือนกับ ธยานโพธิสัตว์ ทั้งหลายคือ, พระองค์มักจะทรงมงกุฏและมี(หรือบางครั้งไม่มี)****ศักติ(sakti)ของพระองค์, ผู้ซึ่งพระองค์แนบไว้ที่พระอุระในกิริยาลักษณะ *****ยิดัม( yab-yum), ด้วยพระหัตถ์ขวาประคองหินวัชระ, ขณะที่พระหัตถ์ซ้ายถือกระดิ่งกันตะไว้ที่พระอูรุ(สะโพก)ของพระองค์.



การปฏิบัติ วัชรปาณีโพธิสัตว์ (Do-rje sems-dpa’) นั้นเป็นการปฏิบัติสมาธิแบบตันตระ(tantric  meditation) เพื่อทำกรรมให้บริสุทธิ์ (purification karma). เช่นเดียวกับปฏิบัติสมาธิของ มหายาน(Mahayana practice), เป็นการดำเนินการโดยตั้งโพธิจิต(bodhichitta aim)เพื่อชำระกรรมทั้งปวงของเราให้บริสุทธิ์(to purify all our karma) เพื่อไปถึงพุทธิปัญญา(enlightenment)อย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้มีความารถดีที่สุดที่จะช่วยบรรดาผู้อยู่ในภาวะจำกัด(sentient-สัญญีภาวะ-มีความรู้สึก).


ความหมายของหนึ่งร้อยพยางค์ ของ วัชรปาณีโพธิสัตว์ (vajrasattva) นี้เป็นคำสวดที่ก่อให้เกิด กระแสจิต(mindstream)แห่ง พุทธะ(Bhuddas).

โอม (OM)
พยางค์ ของการเปล่งเสียงสรรเสริญสูงสุด (Syllable of the most supreme exclamation of praise.)

เบนซาระ สะโต สะ มา ยา (BENZAR SATO SA MA YA)
สัมมายะ(สมาธิ) ของวัชรปาณีโพธิสัตว์ (Vajrasattva’s Samaya.
)

มานุ ปา ลา ยะ เบนซาระ สา ธุ (MA NU PA LA YA BENZAR SATO)
โอ วัชรปาณีโพธิสัตว์, ปกป้องสมาธิ. (
O Vajrasattva, protect the samaya.
)

เต โน ปา ติสสะ ตรี โธ เม ภา วะ (TE NO PA TISHTHA DRI DHO ME BHA WA)
ขอพระองค์ทรงประทับแน่นในกายข้า. (May you remain firm in me.)

สุ โท กา โย เม ภา วะ (SU TO KA YO ME BHA WA)
ประทานข้าในสุขสมบูรณ์สิ้น (Grant me complete satisfaction.
)

สุ โป กา โย เม ภา วะ (SU PO KA YO ME BHA WA)
เจริญในกายข้า (เพิ่มกุศลจิตภายในกายข้า) (Grow within me (increase the positive within me).
)

อานุ รัคโต เม ภา วะ (ANU RAKTO ME BHA WA)

โปรดเมตตารักต่อข้า Be loving towards me.

สาระวะ สิทธิ เม พระ ยาตสะ (SARVA SIDDHI ME PRA YATSA)
ประทานข้าให้บรรลุผลสำเร็จทุกประการ (Grant me all the accomplishments,
)

สาระวะ การมา สู ตสะ เม (SARVA KARMA SU TSA ME)
เช่นเดียวกับการกระทำทั้งหลาย (As well as all the activities.
)

สิทตาม เสร ยาม คุ รุ (TSITTAM SHRE YAM KU RU)
ทำให้จิตข้าอยู่ในธรรม ( Make my mind virtuous.
)

หุง (HUNG)
พยางค์ เปล่งเสียงของแก่นจิต, พยางค์เมล็ดพันธุ์(ต้นกำเนิด)ของ วัชรโพธิสัตว์). (Syllable of the heart essence, the seed syllable of Vajrasattva.
)

หะ หะ หะ หะ (HA HA HA HA)
 พยางค์ของ สี่ความไม่สิ้นสุด, สี่ความีพลังอำนาจ, สี่ความปีติ, และสี่ กาย(kayas). (Syllables of the four immeasurables, the four empowerments, the four joys, and the four kāyas.)

โห (HO)
พยางค์ของการหัวเราะอย่างปีติในตน. (Syllable of joyous laughter in them.
)

ภะ คะ วัน สารวะ ตะ ถา กะ ตา (BHA GA WAN SARVA TA THA GA TA)
ภควัน ผู้รวมร่างวัชร ตถากตา (Vajra Tathāgatas) ทั้งหมด. (Bhagawan, who embodies all the Vajra Tathāgatas,
)

เบนซระ มา เม มันทสะ (BENZRA MA ME MUNTSA)
อย่าได้ละทิ้งขาไป (Do not abandon me.
)

เบนซรี ภา (BENZRI BHA) 
ประทานข้าซึ่งการตระหนักรู้ถึง วัชรธรรม. (Grant me realization of the vajra nature.
)

มา สะ มา ยะ สา ธุ (MA SA MA YA SATO)
โอ สมายะสัตตวา อันยิ่งใหญ่ (O great Samayasattva
)






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น