หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ไดแอน มอน์แกน - ฟิโลมีนา ชังค์ ปะทะ ศจ. ไบรอัน ค็อกซ์

ไดแอน มอน์แกน - ฟิโลมีนา ชังค์ ปะทะ ศจ. ไบรอัน ค็อกซ์

Philomena Cunk vs Prof. Brian Cox

          https://youtu.be/Vi039BihSAk?si=Ub9EAq2NQ77OSgnT

           - https://www.abc.net.au/news/2023-02-14/what-to-know-about-cunk-on-earth-philomena-cunk-diane-morgan/101969760

            - ไดแอน มอร์แกน (เกิด 5 ตุลาคม 1975) เป็นนักแสดง นักแสดงตลก และนักเขียนชาวอังกฤษ เธอมีชื่อเสียงจากการรับบทฟิโลมีนา คันก์ ในรายการรีวิวCharlie Brooker's Weekly Wipe (2013–2020) ซีรีส์สารคดีล้อเลียนCunk on Britain (2018), Cunk on Earth (2022) และรายการพิเศษCunk on Life (2024) นอกจากนี้ เธอยังรับบทลิซในซิตคอมMotherland (2016–2022) ทางช่อง BBC Twoและรับบทแคธในซีรีส์ตลกร้ายAfter Life (2019–2022) ทาง ช่อง Netflixรวมถึงเขียนบทและแสดงในซีรีส์ตลกMandy (2019–ปัจจุบัน) ทางช่อง BBC Two

          - https://en.wikipedia.org/wiki/Brian_Cox_(physicist)

            - Brian Edward Cox (เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2511) เป็นนักฟิสิกส์และนักดนตรีชาวอังกฤษ ผู้เป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์อนุภาคในคณะฟิสิกส์และดาราศาสตร์มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์[ 2 [ 3 ]และศาสตราจารย์ Royal Society ด้านการมีส่วนร่วมของสาธารณะในวิทยาศาสตร์[ 4 ]เขาเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในหมู่สาธารณชนในฐานะผู้จัดรายการวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะซีรีส์The Infinite Monkey Cage and the Wonders of... ของ BBC Radio 4 [ 5 [ 6 ]และสำหรับหนังสือวิทยาศาสตร์ยอดนิยม รวมถึง Why Does E=mc 2 ?และThe Quantum Universe

เซอร์เดวิด แอตเทนเบอโรห์ได้บรรยายว่าค็อกซ์เป็นผู้สืบทอดรายการทางวิทยาศาสตร์ของBBC โดย เขา[ 7 ]ก่อนที่จะเข้าสู่วงการวิชาการ ค็อกซ์เคยเป็นนักเล่นคีย์บอร์ดให้กับวงดนตรีอังกฤษชื่อDareและD: Ream

 

          เพื่อที่จะค้นหาออกมา – ฉันก็เลยได้มาพูดจากับชายวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ และอดีตเคยเป็นมือคีย์บอร์ดให้วงDream, ดร. ไบรอัน ค็อกซ์. (To find out I spoke to expert scienceman and former Dream keyboardist, Dr. Brian Cox.)

ชังค์(Cunk):                โลกจะจบสิ้นยังไงคะ? (How will the world end?)

(Cox):            เอ้อ, ดวงอาทิตย์จะหมดเชื้อเพลิงในราวอีก 4 พันล้านปี หรือประมาณนั้น และตามความจริงก่อนหน้านั่นมันจะเริ่มต้นที่จะบวมขึ้น, ยืดแผ่ขยายออกและเช่นนั้นเองที่เราคิดว่าโลกจะถูกเผา. (Well, the Sun will run out of fuel in about 4 billion years or so and actually before that it will begin to swell up, expand and so we think the Earth will get incinerated.)

(Cunk):           คุณคิดว่าเราอาจจะสามารถทำไรบางอย่างกับมันนั่นได้มั้ย? (Do you think we might be able to do something about it?)

(Cox):            หยุดการถูกเผาเป็นจุลอ่ะรึ?  (Stop it being incinerated?)

(Cunk):           ใช่. หยุดมันในการเป็น โอ้ ดวงอาทิตย์เผาไหม้โลก, เราไม่สามารถเอาหัวฉีดน้ำอันใหญ่ๆไปใส่หรืออะไรสักอย่างเลยรึ? (Yes. Stop it being in oh the Sun burning the Earth, can’t we put it out with a big hose or something?)

(Cox):            มันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ตามกฎแห่งธรรมชาติครับ. (It’s an inevitable consequence of the Laws of Nature.)

(Cunk):           คุณเป็น, คุณได้พึงพอใจกับนั่น, คุณมีความสุขกับนั่น คุณสามารถมีชีวิตอยู่กับเรื่องนั้นรึ? (You’re, you’re pleased with that, you’re happy with that you can live with that?)

(Cox):            เอ้อ, ไม่มีอะไรที่ผมสามารถทำได้ครับ. (Well, there’s nothing I can do.)

(Cunk):           แล้ว. นี่คือกระชอน ฮีรอนอย่างแท้ๆ. แล้ว, ฉันคิดถูกไหมว่านี่อาจพิสูจน์ได้ว่ามีจักราอยู่จริงในร่างกายของมนุษย์? (So. This is the actual large Hyron Colander. So, am I right in thinking that this might prove the existence of Chakras within the human body?)

(Cox):            ไม่. (No.)

(Cunk):           คุณสนใจเรื่องจักราหรอกรึ? (You’re not interested in Chakras?)

(Cox):            ไม่. ในหนทางเดียวกันกับที่ผมไม่สนใจเรื่องผีอ่ะนะ. (No. In the same way I’m not interested in ghosts.)

(Cunk):           แต่ยายแคโรลของฉัน, เธอสามารถสัมผัสรู้สึกจักราได้ในร่างกายของใครบางคน และเธอไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรทั้งหลายใดๆ. (But my aunt Carol, she can sense Chakras in someone’s body and she doesn’t need any machines.)

 (Cox):           แล้วกาลีกซี่ แอนโดรมีดาก็กำลังจะชนเราด้วย? (Also the Andromeda Galaxy going to hit us.)

(Cunk):           กาแล๊กซี่ แอนโดรมีดา, ทั้งกาแล๊กซี่ก็กำลังจะชนเรา. (The Andromeda Galaxy, a whole galaxy is going to hit us) 

(Cox):            เย้. กับในราวมาตราส่วน-เวลาเดียวกันอย่างแท้จริง. แล้วในขณะที่ดวงอาทิตย์หมดเชื้อเพลิงและขยายตัวออกและเผาไหม้โลก, กาแล๊กซี่หนึ่งที่มีดาว 400 พันล้านดวงก็กำลังที่จะปะทะเข้ากับเรา. (Yeah. On about the same time-scale actually. So, as the Sun runs out of fuel and expands and incinerates the Earth, a galaxy of 400 billion stars is going to collide with us.)

(Cunk):           คุณนี่พูดอะไรมืดมนมัวยิ่งกว่าที่ฉันได้คาเอาไว้อีก. เพราะว่าคุณค่อนข้างจะช่างยิ้ม. (You’re much gloomier than I expected. Cuz you’re quite smiley.)

(Cox):            เอ่อ, เย้. มันเป็น, มันเป็นค่อนข้างยังอีกนานไกลในอนาคต. (Well, yeah. It’s, it’s quite a long time in the future. Yeah.)

(Cunk):           สิ่งนี้สามารถระเบิดได้ในนาทีไหนก็ได้, ไม่ใช่รึ? (This could explode at any minute, couldn’t it?)

(Cox):            ไม่หรอก. (No.)

(Cunk):           เร็วแค่ไหนที่พวกโปรตอนทั้งหลายในสิ่งนี้ไปได้? (How fast did the Protons in this thing go?)

(Cox):            99.999999% ของความเร็วแสง. (99.999999% the speed of light.)

(Cunk):           คุณสัมผัสรู้สึกถึงกลิ่นว่าเร็วกว่า, ไม่ใช่รึ? (Your sense of smell is faster, isn’t it?)

(Cox):            ไม่อ่ะ. (No.)

(Cunk):           เอ่อ, นั่นจะเป็นอย่างไรออกมาเมื่อใครบางคนกำลังทอดเบคอนอยู่ แล้วคุณเดินเข้าไปในครัว คุณสามารถได้กลิ่นมันโดยตรงเลยก่อนที่คุณจะได้เห็นมัน, คุณเคยได้ลองที่จะเอาเบคอนเข้ามาในอันนี้มั้ย? (Well, how come that when someone’s frying bacon and you walk in the kitchen you can smell it straight away before you’ve even seen it, have you ever tried putting bacon in here?)

(Cox):            ไม่อ่ะ. (No.)

(Cunk):           เย้, คุณน่าจะลองดูนะ, คุณอาจจะทำควอนตัม เบคอนได้. (Yeah, you should try it, you might make Quantum Bacon.)

(Cox):            นั่นน่าจะทำให้มันน่าสนใจมากขึ้นรึ? (Would that make it more interested?)

(Cunk):           ก็นิดหน่อย. (A little bit.)

(Cox):            ทำไมมันน่าจะเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นด้วยรึ? เพราะว่าที่เขากำลังพยายาม...(Why would it be more interesting? Cuz what he’s trying…)

(Cunk):           ฉันกำลังอย่างสิ้นหวังอ่ะ, ฉันพยายามที่จะช่วยคุณข้างนอกนี่. ฉันกำลังพยายามที่จะแบบว่าทำให้มันกระทั่งว่าน่าสนใจมากขึ้นอีกสักนิดหน่อยกว่าที่มันเป็นอ่ะนะ. (I’m desperately, I’m trying to help you out here. I’m trying to like make it even slightly more interesting than it is.)

(Cox):            แต่อะไรที่มันได้ทำ, คือมันได้ทำพการตรวจพบสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า อนุภาคฮิคค์ส โบซอน, คุณ, ผม และทุกๆสิ่งอื่นๆที่เรารู้จักในจักรวาล, ถ้าไม่มีสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันก็จะไม่มีอยู่เลย. (But what it did, was it detected a thing called Higgs boson1 particle. Without the Higgs boson particle, you, me and everything else that we know of in the universe, none of those things would exists.)

          1https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%99

(Cunk):           ฮิคค์ส โบซอนนี่กรอเวลากลับได้มั้ย? (Can the Higgs boson rewind time?)

(Cox):            ไม่. (No.)

(Cunk):           สามารถ. มันสามารถบอกเราเมื่อแผ่นดินไหวกำลังจะเรอิ่มได้มั้ยอ่ะคะ? (Can. Can it tell when an earthquake’s going to go off?)

(Cox):            ไม่ได้ครับ. (No.)

(Cunk):           มันทำอาหารให้มีรสชาติมากขึ้นได้มั้ย? (Can it make food spicier?)

(Cox):            มันเป็นแค่อนุภาคอ่ะครับ.  มันเหมือนกับการพูดว่า, “อิเล็คตรอนสามารถบอกเราเมื่อตอนแผ่นดินไหวกำลังจะเกิดได้รึเปล่า?” นั่นแหละครับ.(It’s just a particle. It’s like saying, “Can electron tell when an earthquake’s going to go off.)

(Cunk):           ทำได้มั้ยอ่ะคะ? (Can it?)

(Cox):            ไม่ได้ครับ. (No.)

(Cunk):           คุณได้พูดว่าสิ่งทั้งหลายสามารถที่จะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ได้, แล้วทำไมเราไม่เชื่อใจในสิ่งใดที่คุณได้พูดไปแล้วเลยอ่ะ? (You said things can only get better, so why can we trust anything you ever say now?)

(Cox):            เย้. มันเป็นความเข้าใจผิดกันอย่างล้วน ๆในเรื่องกฎแห่งธรรมชาติที่มันควรจะเป็น, มันเป็นหนึ่งที่ทำให้เข้าใจผิดและความไม่แม่นยำทางวิทยาศาสตร์ของเพลงป๊อปที่ไม่เคยถูกเขียนกันขึ้นมา. (Yeah, it’s a gross misunderstanding of the Laws of Nature it should it’s, it’s one of the most misleading and scientifically inaccurate pop songs that’s ever been written.)

(Cunk):           จับใจอีกตั่งหากด้วย. (Catchy though.)

(Cox):            เย้, แต่มันเป็นแค่สิ่งทั้งหลายที่ไม่แม่นยำทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเลวร้ายอ่ะนะ.  (Yeah, but it’s just inaccurate scientifically inaccurate things get worse.)

(Cunk):           แล้ว, หลังจากจักรวาลสิ้นสุด, ก็ไม่มีอะไรเลยรึ? (So, after the universe ends, there’ll be nothing?)

(Cox):            ขึ้นอยู่กับว่า อะไรที่คุณหมายถึงที่ว่า จักรวาลสิ้นสุด. (Depends what you mean by after the universe ends.)

(Cunk):           เอ่อ, มันได้ระเบิดแตกไปอ่ะ. (Well, it’s exploded.)

(Cox):            เอ่อ, มันไม่ได้กำลังจะระเบิดแตกไปนะ. มันกำลังที่จะ, ที่เราคิดว่า, แผ่ยืดขยายออกไปเรื่อย ๆเช่นนี้ตลอดกาล. (Well, it’s not going to explode. It’s going to we think carry on expanding right and then forever.)

(Cunk):           เอ่อ, นั่นไม่เป็นไรไม่ใช่รึ? เรากะลังต้องการพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้นกันอยู่. อะไรคือฟิสิกส์ควอนตัมคะ? (Well, that’ll fine won’t it we need the space. What is quantum physics?)

(Cox):            ฟิสิกส์ควอนตัม, ฟิสิกส์ควอตัมหรือที่เรียกกันว่ากลไกควอนตัม คือทฤษฎีที่ดีที่สุดของเราในเรื่องที่ว่าโลกเราทำงานยังไง. มันบรรยาย/อธิบายได้ในทุกสิ่งที่เราได้สังเกตพบที่มากไปกว่าเรื่องแรงโน้มถ่วง. (Quantum physics, quantum physics is so, quantum mechanics is our best theory of how the world works. It describes everything that we’ve observed other than gravity.)

(Cunk):           กระจกเงาทำงานอยู่กับฟิสิกส์ควอนตัมมั้ยคะ? (Do mirrors run on quantum physics?)

(Cox):            ทำงาน? (Run?)       

(Cunk):           เย้. (Yeah.)

(Cox):            แบบว่าในนั้น? (As in?)

(Cunk):           เอาละ, อ้างตามฟิสิกส์ควอนตัม, กระจกเงาไม่น่าจะทำงาน, มันเป็นปาฏิหาริย์. (Well, according to quantum physics, mirrors shouldn’t work they’re a miracle.)

(Cox):            นั่นไม่ถูกต้องนัก. คุณไปที่ประเด็นที่ว่าถ้ามันดำเนินต่อไปในการทำนั่น, แล้วกาแล๊กซี่ทั้งหลายได้ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ และระบบสุริยะได้ถูกฉีกออกจากกันและแล้วกระทั่งดาวเคราะห์ทั้งหลายก็ได้ถูกฉีกออกจากกัน, และกระทั่งอะตอมทั้งหลายก็ถูกฉีกออกจากกัน. (That’s not correct. You get to the point if it carries on doing that, then galaxies get ripped apart and then Solar Systems get ripped apart and then even planets get ripped apart, and even atoms get ripped apart.)

(Cunk):           แต่, แล้วไง? (But, so what?)

(Cox):            ดวงดาวทั้งหลายทั้งหมดจะตายและกระทั่งหลุมดำ ที่ทิ้งอะไรในจุดสิ้นสุดท้ายทั้งหลายของมวลมหาดวงดาวทั้งหลายที่จะระเหยจากไป. (All the stars will die and even all the black holes that are left the final sort of end points of the most massive stars will evaporate away.)

(Cunk):           ทฤษฎีควานตัมไรนั่น พิสูจน์ว่ามีพหุภพแบบอนันต์/ไม่รู้จบ(เหมือนเงาในกระจกเงา) เหมือนเช่นในหนังทั้งหลายนั่น, ใช่มั้ย? (Quantum theore-nics proves there’s infinite multiverses2 like in Marvel films, doesn’t it?)

          2 https://en.wikipedia.org/wiki/Multiverse

(Cox):            นั่นเป็นการตีความหมายอย่างหนึ่งของทฤษฎี. (That’s one interpretation of the theory.)

(Cunk):           แลเวมันมีพหุภพอนันต์อยู่มากมายเท่าไหร่ล่ะคะ? (How many infinite multiverses are there?)

(Cox):            ถ้ามีตัวเลขไม่รู้จบของพหุภพแล้ว มันก็ไม่รู้จบนั่นแหละ. (If there were an infinite number of multiverses then the number of multiverses would be infinite.)

(Cunk):           เห็นมั้ย, ฉันคิดว่ามีอยู่สองชั่วโมงกับอีกหนึ่งในกระจกเงาทั้งหลาย. ดังนั้น, เราสามารถที่เราจะหล่นลงไปในหลุมดำได้มั้ย? (See, I think there’s two hours and the one in mirrors. So, can we could we fall down a black hole?)

(Cox):            คุณหล่นลงไปเป็นหนึ่งได้. (You could fall into one.)

(Cunk):           นั่นเป็นสิ่วเดียวกันไหม เพราะฉันได้ยินมาว่าคุณอาจจะเป็นได้ถ้าคุณรู้ว่าสิ่งนี้คือหนทางหนึ่งที่โลกสามารถจบสิ้นได้. ว่านั่นเราทั้งหมดเพียงแต่โดนดูดออกไปผ่านหลุมดำ มันแบบว่า, ฉันหมายความว่านั่นเป็นที่น่าเลวร้ายแหละ. คุณสามารถจิตนาการอะไรที่มันน่าจะรู้สึกแบบว่าโดนดูดออกไปผ่านรูนี่ได้มั้ย?  (Is that the same thing because I heard that you could be if you know this is one way that the world could end. Is that we’re all just sucked off through a hole it’s uh it’s, I mean that must be terrible. Can you imagine what it would feel like to be sucked off through a hole.)

(Cox):            เย้. (Yeah.)

(Cunk):           กระจกเงาทั้งหลายของหน้าต่างเข้าไปในจักรวาลอะไร, พวกนั้นไม่ได้รึ?  (Mirrors of Windows into what universes, aren’t they?)

(Cox):            ไม่. (No.)           

(Cunk):           คู่รักฉัน, พอลบอกว่า, พวกเขากำลังทำงานกับพลังควอนตัมและนั่นคือทำไมที่คุณสามารถมองเห็นเข้าไปในมิติคู่ขนาน ซึ่งในทุกสิ่งเป็นเช่นเดียวกับอาณาจักรของเรา แต่กลับด้านกัน. (My mate Paul says, they run on Quantum power and that’s why you can see into an alternative dimension in which everything’s the same as our realm but backwards.)

          2 "Alternative dimension" หรือ "มิติอื่น" ในภาษาไทย หมายถึง มิติที่แตกต่างจากมิติที่เราคุ้นเคยหรือมิติที่เราอาศัยอยู่ ซึ่งอาจมีกฎฟิสิกส์ หรือสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป อ้างอิงจากวิกิพีเดีย ในบริบทของจักรวาลวิทยา หรือนิยายวิทยาศาสตร์ มักถูกใช้เพื่ออธิบายแนวคิดของ "มัลติเวิร์ส" หรือจักรวาลคู่ขนาน ซึ่งประกอบไปด้วยจักรวาลมากมายที่อาจมีอยู่จริง โดยแต่ละจักรวาลอาจมีคุณสมบัติหรือกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันไป 

ดังนั้น "an alternative dimension" จึงมีความหมายใกล้เคียงกับ "จักรวาลคู่ขนาน" หรือ "มิติอื่น" ในภาษาไทย และมักถูกใช้เพื่ออธิบายแนวคิดของความเป็นไปได้ที่นอกเหนือจากจักรวาลที่เราสัมผัสได้ 

(Cox):            พอลทำงานอะไรรึ? (what does Paul do?)

(Cunk):           เอ่อ, เค้าทำงานในโรงงานทำ เอ่อ ลูกเทนนิส ที่เขาต้องคอยตะครุบจับมัน แต่เต้าโดนไล่ออกจากงานไปแล้วจากเรื่องนั้น. ตอนนี้, เค้าตกงงาน. เสียใจค่ะ, ที่ทำให้คุณเสียเวลาไปเปล่าๆ. (Well, he worked in uh a tennis ball factory where he had to catch the tennis balls but he was fired from that. Now he was unemployed. Sorry I’m wasting your time.

(Cox):            เย้. (Yeah.)

          https://youtu.be/Vi039BihSAk?si=CrmJZmyYaWGkgRT4

  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น