ปรมฮัมสะ วิศวนันฑะ - ความแตกต่างระหว่าง ชีวอัตตา กับ จิตวิญญาณ
Difference between Soul & Spirit | Paramahamsa
Vishwananda
https://youtu.be/x7ZWAwkP9zo?si=o106sWPqLW7ip9Dn
(ผู้ถอดความ - ขออนุญาตอธิบายก่อนว่า
ในคำศัพท์ทาง-ลัทธิศาสน์ ของแต่ละศาสน์นั้น
ต่างมีความหมายแตกต่างกันไปตามพื้นเพผู้คน/ภูมิประเทศ/เชื้อชาติ ดังนั้น
“คำ”คำหนึ่งเมื่อเรานำมาใช้ ในภาษาของเราเอง – ผมก็เลยมักจะนำเอา-ต้นทาง/ต้นฉบับ
ที่นำมาถอดความนี้ มาประกอบในวงเล็บไว้ด้วย ว่า ถอดความมาจาก”คำ”เดิม”อะไร. ทีนี้
พอมาแปลเป็นคำในภาษาไทย ผมก็จะยึดเอา ตาม พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน เป็นหลัก
(เพราะเคยชินมาตั้งแต่รับราชการ ทางราชการให้ยึดเป็นหลักในการใช้คำ) ยกเว้นว่า
ไม่มี/หรือใช้กันแพร่หลายอย่างอื่นมากกว่า (ก็แทบไม่มี) ส่วนถ้าใช้คำทางพุทธศาสนา
- ก็จะเทียบอ้างอิงเอาจาก “พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม Dictionary of Buddhism”
ของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
ปัยหาส่วนใหญ่คือ ถ้าใช้คำทางพุทธศาสนา
ทับลงไป – บางครั้งก็ไม่ตรงทีเดียวนัก คือ ต้นทางเดิมของผมจะเป็นภาษาอังกฤษ
ที่ในบางครั้งก็แปลมาจากภาษาอื่นอีกทีหนึ่ง
บางครั้งคำในภาษาอังกฤษนั้นก็ไม่ค่อยตรงความหมายเดิม หรือมักจะ”แคบ”กว่า
คำทางพุทธศาสนา ที่เอามาจาก บาลี สันสกฤต ได้แยบคาย/รู้/เข้าถึงความหมาย - ได้มากกว่า.
เมื่อนำคำทางพุทธศาสนา(หรือบาลี)มาใช้แปลคำภาษาอังกฤษ
ก็เลยบางครั้งก็ไม่ตรงกับที่ผู้เอ่ยหมายถึงแคบๆ หรือใช้กันแพร่หลายในหมู่ของเขา
ลักษณะเช่นนี้ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์( ป.อ. ปยุตฺโต) และท่านพุทธทาสภิกขุ
จะสอนเอาไว้อยู่ตลอด ด้วยที่ท่านเป็น”ปราชญ์”ที่แท้จริง -
เป็น”นักวิชาการ”ที่แท้จริง.
อีกทั้ง
ปัญหาพุทธศาสนาของเราในเรื่องการศึกษาด้านนี้ คือ มักจะมีคำบาลี-สันสกฤต
มาปนไว้อยู่มาก ไม่เหมือนภาษาอังกฤษที่ - ไม่นำเอาคำภาษาละตินตรงๆมาใช้อธิบายนัก
คือภาษาอังกฤษจะใช้คำแบบ ชาวบ้านทั่วไป/ไม่ใช่คำวิชาการ จึงทำให้ผู้คนจะเข้าใจได้
แบบธรรมดา ไม่ต้องแปล ไทย-เป็น-ไทย อีกที.
ผมเองจึงพยายามใช้”คำ”ที่ให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าใจ
ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมในแต่ละคำ หรือความหมาย ก็จะนำlink ที่ให้รายละเอียดชัดเจนมาแปะไว้เพื่อความสะดวก คือ
เป็นแหล่งข้อมูลที่ผมเชื่อถือ แบบว่า เข้าใจตรงกันกับผม ไม่เกี่ยวกับ “ถูก/ผิด
ใช่/ไม่ใช่”.
ทีนี้ก็มาถึง คำว่า “soul” กับ “spirit” นี่แหละครับ
ที่หาคำแปลงง่ายๆชัดๆตรงๆ ไม่ได้ เพราะในทางพุทธศาสนาแล้ว เรามี แค่คำว่า “จิต”
กับ “วิญญาณ” แต่ในความหมายลึกๆแล้วก็ไม่ตรงชัดเป๊ะๆกับคำอังกฤษทั้ง 2
คำนี้ อย่าว่าแต่ภาษาไทยเลยครับ คนที่ใช้ภาษาอังกฤษ ก็ปวดหัวไม่เข้าใจแน่ชัด
อีกทั้ง คำนี้มีปรากฏใน คัมภีร์ไบเบิ้ล
ฉบับภาษาอังกฤษ(คือแปลเอามาจากภาษาอื่นต้นทางดั้งเดิม) ซึ่ง ความหมายในทางคริสต์
ฮินดู อิสลาม หรือพุทธ ก็คล้ายๆจะเหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจกันว่า ตรงกันมั้ย?
ช่างเหอะ เอาแค่ของเราดีกว่า.
ผมขออนุญาตใช้ คำว่า “soul”นี้ว่า “ชีวอัตตา” ส่วน “spirit” ก็ใช้คำว่า
“จิตวิญญาณ” และ “consciousness” ว่า “จิตสำนึก”
ดังที่ปรากฏในบทความทั้งหลายที่ผมได้ถอดความ/แปล เอามาแปะกันไปแล้ว.
ปัญหาก็อย่างเช่น คำว่า “consciousness” ในทางพุทธศาสนา
จะตรงกับคำว่า “วิญญาณขันธ์”ใน”ปฏิจจสมุปบาท. ทีนี้ มันก็มีระดับของconsciousอะไรตามฝรั่งของเขาอีก ที่เขามักจะไปแยกย่อยแบบวิทยาศาตร์
ศาสตร์ทางตะวันตก ไม่มองเป็น”องค์รวม-holistic”แบบพุทธเรา
อีกทั้งถ้าผมใช้คำว่า “วิญญาณ”แปล consciousness ก็อาจจะไปสสื่อความหมายอีกอันหนึ่ง
คือ วิญญาณ ที่ไม่ใช่ในขันธ์ อีก กลายเป็น ภูตผีไป.
อย่างคำว่า “soul”นี้ ท่านผู้แปล(นวพร เรืองสุวรรณ)เรื่อง “ มิลินทปัญหา: กษัตริย์กรีกถาม พระเถระตอบ- The Debate of KING MILINDA” ท่านใช้คำว่า “อัตตา-soul”
ไปเลยในคำกล่าวของพระเถระ. แต่เมื่อพูดถึงฝรั่งที่มักจะถามกันในตอนนี้
ท่านก็แปลคำว่า “soul” เป็น “วิญญาณ” คือ ทั้งสองมีบริบท(context)ที่ต่างกัน. ผมขอใช้คำว่า “ชีวอัตตา” แทนคำว่า “soul” เพราะในบางที่ของฝรั่งมีความเกี่ยวกันกับ “ชีวิต”
หรือสิ่งที่เป็นอินทรียวัตถุ ภายใน”ร่างกาย”อยู่ด้วย. “ตัวรู้” ถึง “จิตสำนึก”-
คือ รูปลักษณ์ทางอารมณ์ของ”จิต”(ที่เราใช้ เจตสิก) - the emotional aspect of the mind
.
เอาละ ที่ถอดความ/แปล clip อันนี้ เพราะอยากรู้ว่า อารยัน-ฮินดู จะอธิบาย สองคำนี้ ว่าอย่างไร?)
2 https://en.wikipedia.org/wiki/%C4%80tman_(Hinduism)
ของเงา.
(Itself
is covered by many layers of shade.) ผู้คนไม่ได้สำเหนียกรับรู้ถึงมัน, คุณรู้มั้ย,
พวกเขาไม่ได้สำเหนียกรับรู้ส่องแสง, พวกเขาไม่ได้สำเหนียกรับรู้ถึงแสงสว่างของมัน.
(People
don’t perceive it, you know, they don’t perceive the shine, they don’t perceive
the light of it.)
พวกเขารู้ว่ามีมันอยู่ที่นั้น.
(They know it is there.)
ทุกคนมีชีวอัตตา, ไม่รึ? (Everybody
has a soul, no?)
แต่จิตวิญญาณในตัวมันเองก็คือ
เมื่อเงานี้, ที่ปกปิดอาตมะอยู่, ได้ถูกย้ายออกไป. (But the Spirit itself is when this shadow, which covers Atma, is
removed.) แล้วอะไรที่ผุดขึ้นมาจากชีวอัตตาก็คือ จิตวิญญาณของพระเจ้า.
(So,
what emerge from the Soul is the Spirit of God.)
นั่นคือความแตกต่างระหว่าง อย่างไรที่ชีวอัตตาเป็น,
เราพูดกันว่าชีวอัตตาเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า. แต่ในเวลาเดียวกันก็มีความแตกต่าง.
(That
is the difference between how the Soul is, we say the Soul is part of God. But the
same time there is a difference.)
ชีวอัตตาถูกผูกมัดไว้โดยกรรม
ในขณะที่จิตวิญญาณนั้นไม่ได้ถูกผูกมัดไว้ด้วยกรรมใด. (The
Soul is bound by Karma3, whereas
the Spirit is not bound by any Karma.)
3 https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1
ดังนั้นเมื่อชีวอัตตาสะท้อนแสงสว่างของพระเจ้า, -
เมื่อคุณกลายนเป็นชีวอาตมะ, ตัวอย่างเช่น, หรือ ชีวา มุคตา แล้วคุณก็กลายเป็นจิตวิญญาณนั่น,
จิตสำนึก, จิตสำนึกระดับสูง ถ้าคุณจะเรียกมันเช่นนั้น, จิตสำนึกพระเจ้า.
(So,
when the Soul reflects the light of God – when you become Jivatma4, for
example, or Jiva Mukta5 then
you become that Spirit, the Consciousness, the High Consciousness if you want
to call it, or God Consciousness.)
4 https://en.wikipedia.org/wiki/Jiva
* https://sanatanfacts.quora.com/What-is-the-difference-between-Atma-Jivatma-and-Paramatma
5 https://en.wikipedia.org/wiki/Jivanmukta
ดังนั้นมันเป็นสิ่งเดียวกัน. ผู้อาศัยของชีวอัตตาก็คือ
จิตวิญญาณ. (So, it’s the same. The indweller of the Soul is the Spirit.)
นั่นคือทำไมคุณพูดว่า “จิตวิญญาณแห่งพระเจ้า” (That’s
why you say “the Spirit of God.”)
คุณไม่พูดว่า “ชีวอัตตาแห่งพระเจ้า”. (You
don’t say ‘the Soul of God.’)
หรือที่คุณพูดว่า, “จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้พูดผ่านใครบางคน,
คุณไม่ได้พูดว่า, “ชีวอัตตาแห่งพระเจ้าได้พูดต่อใครบางคน.” (Or you
say, ‘the Holy Spirit spoke through somebody,’ you don’t say, ‘the Soul of God has
talked to somebody.’)
เพราะว่ามันแตกต่างไปจากชีวอัตตาของปัจเจกบุคคล. (Because
it’s different from the individual soul.)
ดังนั้น, จิตวิญญาณคือผู้อาศัยของชีวอัตตาในตัวมันเอง.
(So,
the Spirit is the indweller of the Soul itself.)
ดังนั้น, นั่นคืออะไรที่เหล่าผู้ซึ่งตระหนักในตัวพวกเขาเองได้ตระหนักรู้.
(So,
that’s what those who realize themselves, realize.)
ในโลกของชนคริสเตียน, พวกเขาใช้คำว่า “จิตวิญญาณ”.
แต่, แน่นอนว่า, ในอินเดีย, พวกดเขาไม่ใช่คำว่า “จิตวิญญาณ”,
พวกเขาจะเรียกมันว่าจิตสำนึกขั้นสูง, หรือ อธิจิตสำนึก, จิตสำนึกพระเจ้า
หรือจิตสำนึกพระกฤษณะ, อะไรก็ตามที่คุณต้องการจะใส่ชื่อไปในมัน. (In the
Christian world, they use the word ‘Spirit’. But. Of course, in India, you
would not use the word ‘Spirit’, they would call it Higer Consciousness, or
Super-Consciousness, God Consciousness or Krishna Consciousness, whatever you
want to put the name to it.)
ในตอนจบ, มันคือสิ่งเดียวกัน. (In the
end, it is the same.)
แล้วนี่คืออะไรที่ได้พูดผ่านมาหา. (So, this is what speaks through.)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น