อะไรคือความแตกต่างระหว่าง สัมปชัญญะ และ วิญญาณขันธ์/จิตสำนึก?
What is the difference
between Awareness and Consciousness?
:เบอธัญญะ สวามี ทิเอร์รา – เป็นครูสอนเชิง”จิตวิญญาณ”(a
Spiritual Teacher)และนักประพันธ์1
1 https://www.youtube.com/channel/UCGtnj3yGaSQnTL3SCMIHN2g
ฉันอยากจะทำความกระจ่างชัดของคำศัพท์ที่ฉันใช้บ่อยๆในการสอนทั้งหลาย(often
use in teachings)และหนึ่งนั้นคือจิตสำนึก/วิญญาณขันธ์2(consciousness-หมายถึง
วิญญาณขันธ์)และอีกอันนั้นคือสัมปชัญญะ(awareness).
2https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C
และเราโน้มเอียงที่จะทำให้เท่ากัน(tend
to equalize)ของสองคำศัพท์นี้(these
two terms)และความเป็นจริงนั้น, ฉันได้หมายถึงเป็นสิ่งที่แตกต่างกัน(meant
different things).
จิตสำนึก/วิญญาณขันธ์(consciousness)คือ
ความสามารถสมรรถนะของคุณในการที่มีสัมปชัญญะ(your
capability of being aware of)การตื่นรู้ต่อ อะไรคือสิ่งนั้น?
(what
is it)และ คุณกำลังอยู่ที่ไหน? (where
you are).
ดังนั้นฉันมีสำนึกของจิต(conscious)ว่า
ฉันกำลังอยู่ในสวนของฉัน(I am in my garden).ฉันมีสำนึกของจิต(conscious)ว่า
ฉันกำลังพูดคุยกับคุณ(I am talking to you).
ฉันมีสำนึกของจิต(conscious)ว่า
ฉันกำลังรู้สึกหนาวเย็น หรือร้อน หรือสบาย(I am
feeling chilly or hot or pleasant).
ฉันมีสำนึกของจิต(conscious)ว่า
อะไรที่ฉันกำลังคิดอยู่(what I’m thinking)
ฉันมีสำนึกของจิต(conscious)ถึง
อะไรที่ความรู้สึกของการชี้แนะนำทางของฉันกำลังบอกกับฉันว่าให้จงมีสำนึกของจิต(what
is that my sense of guidance is telling me that is to be conscious).
มีบางอย่างในนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจิตสำนึก/วิญญาณขันธ์(some
things that part of conscious)ที่หลบหนีจากสัมปชัญญะของเรา(escape
our awareness)หรือ หลบหนีความสนใจคำนึงถึงของเรา(escape
our attention), และนั่นอาจไม่เป็นไร,
ฉันไม่ได้กำลังใส่ใจสนใจจริงๆ(not really paying attention)ต่อเสียงของนกทั้งหลาย(sound
of the birds)ที่กำลังดำเนินไปอยู่ในฉากหลัง(are
going in the background). หรือว่าประสาทรับรู้ทั้งหลายของฉัน(my
senses)กำลังแค่เพ่งจับ(just focusing)อยู่ในที่นี้(ด้านหน้า
– ผู้แปล)และไม่ใช่ในที่รอบๆนอก(not in
periphery).
และบางอย่างที่ประสาทรับรู้ทั้งหลายของฉัน(my
senses), ดวงตาของฉัน(my eyes),
จมูกของฉัน(my nose), ผิวของฉัน(my
skin), ได้รู้สึกตื่นรู้(is aware)และไม่ได้มีเป็นการย่อยหยั่งแยกอย่างสมบูรณ์(not
being completely digested), รวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์(completely
incorporated), ในประสบการณ์รับรู้ของฉัน(in my
experience)และนั่นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตใต้สำนึก(part
of subconscious). สิ่งที่คุณไม่สามารถที่จะติดต่อจัดการ(not
able to deal)หรือคุณไม่ได้ตื่นรู้(not aware)ถึงอะไรได้กำลังบังเกิดอยู่ที่นั้น.
แล้วนั่นคือทั้งหมดที่เป็นส่วนหนึ่งของการมีสำนึกของจิต(that is part of being conscious) หรือการอยู่ในจิตใต้สำนึก(being in the subconscious), หรือการอยู่ในจิตไร้สำนึก/ภวังคจิต(being unconscious)3.
3 https://www.novabizz.com/NovaAce/Mind.htm
ดังเช่นนั้น,
ฉันกำลังทำนั่นและฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันกำลังทำมัน.
สัมปชัญญะ(awareness) นั้นมากยิ่งไปกว่าสภาวะการมีอยู่(the
state of being)ในที่ซึ่งทุกสิ่งได้ถูกรวมไว้ทั้งหมด(is encompasses), ในที่ซึ่งทุกสิ่งได้ถูกฝังตรึงในสัมปชัญญะอันพิสุทธิ์(is embedded in the pure awareness).
ที่คุณสามารถเรียกมันได้ว่า
ความศักดิ์สิทธิ์(divinity). คุณสามารถเรียกมันได้ว่า จักรวาลปัญญา(the cosmic intelligence). คุณสามารถเรียกมันได้ว่า สรวงสวรรค์(the divine). คุณสามารถเรียกมันได้ว่า เต๋า(the tao). คุณสามารถเรียกมันได้ว่า พระเจ้า(God).
แต่นี้คือส่วนของที่ได้ตื่นรู้ของตัวมัน(is aware of itself)เมื่อคุณกำลังได้ตระหนักรู้(when you are realizing)ว่านั่นคือทุกแห่งหน(that
is everywhere).
ดังนั้น, นั่นคือส่วนที่งดงามของการได้รับสัมปชัญญะ(the beautiful part of gaining
awareness), ทีละนิดทีละนิด,
คุณเริ่มต้นการตระหนักรู้(realizing)ว่า โอ้
พืชนี้หรือบุคคลนี้(this
plant or this person)มีคุณลักษณะความดีเลิศทั้งหลายอย่างเดียวกันชัดเจน(have the same exact qualities)ดังเช่นที่ฉันเองมี.
สติสัมปชัญญะนั้น(that
awareness), ความสามารถในการติดต่อเชื่อมโยงนั้น(that connect ability)และ ความเหมือนกัน(similarity)ระหว่างทุกสรรพสิ่ง(between
everything),
มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต(alive
or not alive),
ในมิตินี้หรือในมิติที่หก(in
this dimension or in the sixth dimension)หรือใน สิ่งมีชีวิตนอกโลกทั้งหลาย(in extraterrestrials)หรือสิ่งใดก็ตาม(or
anything) ก็อยู่ในนั้น(is in there).
และด้วยเช่นนั้น,
สัมปชัญญะ(awareness), คุณก็อยู่ใน(you
are in)และด้วยเช่นกันก็อยุ๋ที่รายรอบด้วย(and also around).
ดังนั้นในขณะที่คุณแผ่ขยายจิตสำนึกของคุณออกไป(expand your consciousness), ในขณะที่คุณกลายมามีมากยิ่งขึ้นในสำนึกของจิตของสัมปชัญญะ(become more conscious of the awareness), ของการตื่นรู้อันบริสุทธิ์(of the pure aware), คือ สัมปชัญญะ(awareness), ดังนั้นแล้วคุณก็กำลังเริ่มต้นการแผ่ขยาย(start expanding). คุณกลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น(become part of that).
และคือบางอย่างที่, ในประเพณีของผู้เลื่อมใสเวทย์อาคมทั้งหลาย(in the tradition of mystics)และความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณ(spirituality)ได้เข้าใจผิดในเรื่องนี้ว่า โอ ฉันจำเป็นต้องตาย
ฉันจำเป็นต้องปล่อยทิ้งตัวเองไป(let go
of myself) เพื่อที่จะกลายเป็นบางอย่างอื่น(to become something else).
แต่มันจริงๆแล้วเกี่ยวกับการได้รวมเข้าไป(being included)หรือการได้รู้สึกถึงว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ต่อสัมปชัญญะที่ยิ่งใหญ่กว่า(are part of belonging to the greater
awareness).
ดังนั้น,
ในชั่วขณะที่คุณสำนึกในจิตเพียงเล็กๆของตัวคุณเอง(you little conscious of yourself), ฉัน, ฉันเอง, ตัวฉันเอง,
มันก็เริ่มต้นที่จะเห็นเลยโพ้นนั้น(start
to see beyond that). คุณเริ่มต้นการเชื่อมโยงกับสัมปชัญญะ(start relating to awareness). คุณเริ่มต้นมองเห็นว่าคุณอยู่ในมหาสมุทรกว้างใหญ่แห่งเชาวน์ปัญญา(in the great ocean of intelligence), แห่งรัก(of love), แห่งระเบียบการผันแปร(order alchemy), ความปีติทั้งปวง(all
joy), ทั้งหมดที่เป็นสัมปชัญญะ(all that is awareness). มันเป็นความบริสุทธิ์ที่ไม่สามารถบ่งแยกได้ของเชาวน์ปัญญาแห่งรักและการแปรเปลี่ยนของสิ่งรังสรรค์(the pure undivided intelligence of love
and alchemy of creation)และทุกสรรพสิ่ง(and everything).
ดังนั้นแล้ว, คำศัพท์ทั้งสองนี้(these two terms)...พวกเขาถูกเชื่อมโยงกันอย่างมาก(they are very much related). แน่นอนละ. แต่ถ้าคุณสร้างมันแค่เพื่อประโยชน์ของความกระจ่างชัดข้างใน(for the sake of inner clarification), คุณก็สามารถเรียกมันว่า จิตสำนึกหรือคำอะไรอื่นก็ได้(consciousness or another word) หรือ สัมปชัญญะในคำอื่น(or awareness another word).
ฉันใช้สองคำนี้เพื่อสร้างความแตกต่างกันนี้(to make this distinction)ง เพราะว่ามันสามารถกระจ่างชัดได้(can clarify)ว่าที่ไหนที่คุณกำลังไป. ที่คุณกำลังไปคือที่ที่คุณเป็นอยู่(where you’re going is where you are). และที่ซึ่งคุณเป็นอยู่ คือที่ที่คุณกำลังไป(where you are is where you’re going). ดังนั้นมันคือพาหนะ(the vehicle).
และยิ่งน้อยลงเท่าไหร่ที่คุณไร้จิตสำนึก(the less you are unconscious)ในการกระทำทั้งหลายของคุณ(of your acts), ในคำพูดทั้งหลายของคุณ(of your words), คุณก็จะยิ่งได้สัมปชัญญะมากยิ่งขึ้น(the more awareness you gain).
ดังนั้น, ยิ่งมากสำนึกของจิต(the more conscious)ยิ่งมากสัมปชัญญะ(the
more awareness).
ยิ่งมากการเข้าไปรวมด้วยกัน(the
more inclusion)ในมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ไพศาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น