หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2564

แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต - ดูน พิภพทราย (35)

 

 

 

 

 

 

คัมภีร์ที่ สาม

ผู้พยากรณ์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

           ไม่มีสตรี, ไม่มีบุรุษ, ไม่มีเด็กได้เคยสนิทสนมอย่างลึกกับพระบิดาของข้า. ที่ใกล้ชิดที่สุดที่ใครคนใดได้เคยมาถึงความสนิทสนมโดยบังเอิญกับ จักรพรรดิ ปาดิชาห์ เป็นสัมพันธภาพที่ถูกเสนอให้โดยเคานท์ ฮาสิมีร์ เฟนริง, สหายจากวัยเด็ก. มาตรขนาดแห่งมิตรภาพของเคานท์ เฟนริงอาจถูกได้พบเห็นอย่างแรกในสิ่งในแง่บวก: เขาลดทอนความสงสัยทั้งหลายของราชสำนักแลนด์สราอาดิให้น้อยลงหลังจากเหตุการณ์ อาราคิส. มันเสียค่าใช้จ่ายไปมากกว่าหนึ่งพันล้านโซลาริสในสินบนทั้งหลายของเครื่องเทศ, ดังที่พระมารดาของข้าลอก, และมีของขวัญทั้งหลายอื่นอีกด้วยเช่นกัน: ทาสหญิง, เครื่องราชย์, และอิสริยยศแห่งตำแหน่ง. หลักฐานหลักอย่างที่สองแห่งมิตรภาพเคานท์เป็นแง่ลบ. เขาปฏิเสธที่จะฆ่าชายผู้หนึ่งถึงแม้ว่ามันได้อยู่ภายในความสามารถทั้งหลายของเขาและพระบิดาของข้าได้บัญชามัน. ข้าจะเชื่อมโยงเรื่องนี้ในขณะนี้.

  ---“เคานท์ เฟนริง: เค้าโครงรูปลักษณ์” โดย เจ้าหญิง อีร์อูลาน

 

ท่านบารอน วลาดิมีร์ ฮาร์คอนเนนเดือดดาลลงไปตามระเบียงทางเดินจากห้องชุดส่วนตัวของเขา, จีบปากจีบคอผ่านแผ่นผืนแสงตะวันยามบ่ายแก่ที่เทลงมาจากหน้าต่างสูงทั้งหลาย. เขาผลุบโผล่และม้วนบิดในเครื่องพยุงแขวนทั้งด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง.

ผ่านครัวส่วนตัวเขาไปอย่างพายุ---ผ่านห้องสมุด, ผ่านห้องต้อนรับขนาดเล็กและเข้าไปในโถงพักหน้ามุขของคนรับใช้ทั้งหลายที่เครื่องผ่อนคลายอารมณ์ยามเย็นได้ถูกเข้าที่ทางแล้ว.

กัปตันยามรักษาการณ์, ไออาคิน เนฟุด, นั่งยองอยู่บนเก้าอี้นวมข้ามห้องโถงนั้นไป, อาการมึนเมาจากฤทธิ์เซมูตาอยู่ในใบหน้าแบนราบของเขา, เสียงโหยหวนครวญคร่ำของดนตรีเซมูตารายรอบตัวเขา. คณะของเขาเองนั่งอยู่ใกล้ๆเพื่อที่จะสนองคำบัญชาของเขา.

เนฟุด!” ท่านบารอนคำราม.

ผู้คนตะเกียกตะกายลุกขึ้น.

เนฟุดยืน, ใบหน้าของเขาสงบอยู่ด้วยฤทธิ์ยาเสพติดนั้นแต่ด้วยทับหน้าของความซีดเผือดที่บอกถึงความหวาดกลัวของเขา. ดนตรีเซมูตาได้หยุดลงแล้ว.

“ฝ่าบาทบารอน,” เนฟุดพูด. มีเพียงยานั้นที่คอยทำให้เกิดความสั่นเทาออกมาในน้ำเสียงของเขา.

ท่าบารอนกวาดสายตาตรวจสอบใบหน้านั้นที่รายรอบตัวเขา, มองเห็นท่าทีตื่นคลั่งอยู่ในความนิ่งเงียบในพวกเขา. เขาหันความสนใจของตนกลับมาที่เนฟุด, และพูดในเสียงดุจใยไหม.

  “นานเท่าไหร่แล้วที่เจ้าได้เป็นกัปตันยามรักษาการณ์ของข้า, เนฟุด?”

เนฟุดกลืนน้ำลาย. “ตั้งแต่ อาร์ราคิส, ฝ่าบาท. เกือบสองปี.”

“และเจ้ามักจะได้เตรียมการป้องกันอันตรายต่อตัวข้ามาเสมอไหม?”

“นั่นเป็นความปรารถนาอย่างยิ่งของข้า, ฝ่าบาท.”

“แล้วงั้น, ฟียด์-เราธาอยู่ที่ไหน?” ท่านบารอนคำราม.

เนฟุดหดตัว. “ฝบาท?”

“เจ้าไม่พิจารณาถึงฟียด์-เราธามีอันตรายต่อตัวข้ารึ?” อีกครั้ง, น้ำเสียงนุ่มรื่นใยไหม.

เนฟุดเลียริมฝีปากของตนด้วยลิ้นของเขา. บางอย่างของความมึนมัวแห่งเซมูตาหายไปจากดวงตาของเขา. “ฟียด์-เราธาอยู่ในเขตทั้งหลายของพวกทาสขอรับ, ฝ่าบาท.”

“กับพวกผู้หญิงอีกแล้ว, ฮึ?”ท่านบารอนตัวสั่นด้วยความพยายามของการกดข่มโทสะ.

“แน่นอนเลย, มันน่าจะเป็นว่าเขา---“

“เงียบเถอะ!

ท่านบารอนไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าวเข้าสู่โถงหน้ามุขนั้น, สังเกตเห็นว่าคนเหล่านั้นได้ถอยหลังไป, เปิดพื้นที่เป็นนัยให้ว่างรอบตัวของเนฟุด, กำลังแยกตัวเองของพวกตนออกจากเป้าของความพิโรธ.

  “ข้าไม่ได้สั่งการเจ้าให้รู้ชัดตลอดเวลาหรอกหรือว่า ทายาท-บารอนอยู่ที่ไหน?” บารอนถาม. เขาเคลื่อนเข้าใกล้ไปอีกก้าว. “ข้าไม่ได้บอกกับเจ้าหรือ ว่าเจ้าต้องรู้อย่างชัดเจนว่า ทายาท-บารอนกำลังพูดอะไรอยู่ที่ตอลดเวลานั้น---และกับใคร?” อีกก้าว. “ข้าไม่ได้บอกกับเจ้าหรือ ว่าให้เจ้ารายงานกับข้าทุกเมื่อที่เขาไปยังเขตของพวกทาสหญิง?”

เนฟุดกลืนน้ำลาย. เหงื่อกาฬหลั่งไหลออกมาที่หน้าผากของเขา.

ท่านบารอนกุมเสียงของตนราบเรียบ, เกือบแทบปราศจากการเน้นใดทั้งสิ้น: “ข้าไม่ได้บอกสิ่งทั้งหลายเหล่านี้แก่เจ้าหรือ?”

เนฟุดผงกศีรษะรับ.

“และข้าไม่ได้บอกเช่นนั้นว่าให้เจ้าได้ตรวจตราทางเด็กชายทั้งหมดที่ส่งมาให้ข้าและว่าเจ้าต้องทำเช่นนั้นด้วยตนเอง....โดยตรง?

อีกครั้ง, เนฟุดผงกศีรษะรับ.

“แล้วเจ้า, โดยบังเอิญ, ไม่เห็นตำหนิด่างดวงบนขาอ่อนของรายหนึ่งที่ส่งให้ข้าเมื่อตอนเย็นนี้หรือ?” ท่านบารอนถาม. “มันเป็นไปได้หรือที่เจ้า---”

“ท่านลุง.”

บารอนหมุนตัวกลับ, จ้องยังฟียด์-เราธาที่กำลังยืนอยู่ในช่องประตู. การปรากฏของหลานตนที่นี่, ในตอนนี้---ท่าทางรีบเร่งของชายหนุ่มไม่สามารถที่จะปิดบังได้นัก---ทั้งหมดเผยให้เห็นอย่างมาก. ฟียด์-เราธามีระบบสายลับของตนเองจับจ้องอยู่กับท่านบารอน.

“มีร่างหนึ่งอยู่ในโถงวังของข้าที่ข้าปรารถนาให้ถูกขนย้ายออกไป,” ท่านบารอนพูด, และเขาเอามือของตนคงอยู่ไว้กับอาวุธยิงขีปนาวุธในภายใต้เสื้อคลุมของตน, ขอบคุณที่โล่ห์พลังของเขานั้นเป็นที่ดีที่สุด.

ฟียด์-เราธาชำเลืองดูสองยามรักษาการณ์ที่อยู่ติดผนังด้านขวามือ, พยักหน้า. สองคนนั้นปลดตนเอง, ลนลานออกไปทางประตูและลงไปตามโถงยังวังของท่านบารอน.

เจ้าสองคนนั่นรึ? ท่านบารอนคิด. อ้า, เจ้าอสูรหนุ่มนี้ยังมีอีกมากที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการสมคบคิด!

“ข้าทึกทักเอาว่าเจ้าคงทิ้งอะไรจากมาไว้อย่างสันติสุขในเขตทาสนั่นนะ, ฟียด์,” ท่านบารอนพูด.

“ข้าได้กำลังเล่นคีออฟ(cheops* - หมากรุกปิระมิด 9 ชั้น)อยู่กับนายกองทาส,” ฟียด์-เราธา

* https://dune.fandom.com/wiki/Cheops

พูด, และเขาคิด. เกิดอะไรผิดพลาดไปรึ? เจ้าเด็กชายที่ข้าได้ส่งไปให้ลุงของข้าได้ชัดเจนเลยว่าฆ่าเจ้านั่นไปแล้ว. แต่เจ้านั่นเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบในงานนี้. กระทั่งฮาวัตเองก็ไม่สามารถทำการเลือกให้ดีกว่านี้ได้. เจ้าเด็กนั่นสมบูรณ์แบบ!

         “เล่นหมากรุกปิระมิด,” บารอนพูด. “ช่างน่ารักจริง. เจ้าชนะไหม?”

         “ข้า.....อาห์, ใช่, ท่านลุง.” และฟียด์-เราธาดิ้นรนที่จะยับยั้งความกระวนกระวาย.

         ท่านบารอนดีดนิ้วของตน, “เนฟุด, เจ้าปรารถนาจะถูกฟื้นฟูต่อความกรุณาอันดีของข้าไหม?”

         “ขอรับท่าน, ข้าต้องทำอะไรหรือ?” เนฟุดพูดเสียงสั่นรัว.

         “นั่นไม่สำคัญแล้วในตอนนี้,” ท่านบารอนพูด. “ฟียด์ได้เอาชนะนายกองทาสที่หมากรุกปิระมิด. เจ้าได้ยินนั่นไหม?”

         “ใช่.....ขอรับท่าน.”

         “ข้าปรารถนาให้เจ้าเอาสามคนมาและไปที่นายกองทาส,” ท่านบารอนพูด. “การ์โรติ์เจ้านายกองทาส. นำร่างมันมาหาข้าเมื่อเจ้าได้ได้ทำเสร็จสิ้นนั่นแล้วข้าอาจจะดูว่ามันได้ทำอย่างเหมาะสม. เราไม่สามารถมีนักเล่นหมากรุกไร้ฝีมือเช่นนี้ในการจ้างงานของเราได้.”

         ฟียด์-เราธากลายเป็นหน้าซีดเผือด, ขยับไปข้างหน้าหนึ่งก้าว. “แต่, ท่านลุง, ข้า---”

         “ทีหลัง, ฟียด์,” ท่านบารอนพูด, และโบกมือ. “ทีหลัง.”

         ยามรักษาการณ์สองคนผู้ที่ได้ออกไปยังที่วังพำนักของบารอนเพื่อจัดการร่างของเด็กชายทาสนั้นเดินโซเซผ่านประตูห้องโถงมุขด้วยหามสิ่งนักมาในระหว่างพวกเขา, แขนลาก. ท่านบารอนเฝ้าดูจนกระทั่งพวกนั้นได้ออกไปพ้นสายตา.

         เนฟุดก้าวขึ้นมาข้างร่างของบารอน. “ท่านปรารถนาจะให้ข้าฆ่านายกองทาส, ในตอนนี้หรือ, ฝ่าบาท?”

         “เดี๋ยวนี้,” บารอนพูด. “และเมื่อเจ้าทำเสร็จสิ้นแล้ว, เพิ่มเจ้าสองคนที่เพิ่งผ่านไปนั่นไปในรายการด้วย. ข้าไม่ชอบวิธีที่มันลากร่างนั่น. ใครก็ควรจะทำงานเยี่ยงนี้อย่างประณีต. ข้าจะปรารถนาได้เห็นซากของพวกมัน, ด้วย.”

         เนฟุดพูด, “ฝ่าบาท, มีสิ่งใดที่ข้าได้---”

         “ทำอย่างที่นายของเจ้าได้บัญชาไป,” ฟียด์-เราธาพูด. และเขาคิด: ทั้งหมดที่ข้าสามารถวังได้ในตอนนี้คือการที่จะรักษาหนังศีรษะของข้าเองไว้ได้.

         ดี! ท่านบารอนคิด. เขายังรู้ว่าจะตัดความเสียหายทั้งหลายของเขาอย่างไร. และท่านบารอนยิ้มอยู่ข้างในให้กับตนเอง, คิด: เจ้าหนุ่มนี้รู้, ด้วยเช่นกัน, ว่าอะไรจะทำให้ข้าชอบใจและเป็นเรียนรู้ให้เร็วมากที่สุดที่จะอยู่ในที่ที่ความโกรธของข้านั้นไม่ร่วงลงไปใส่เขา. เขารู้ว่าข้าต้องเก็บถนอมเขาเอาไว้. ใครอื่นอีกล่ะที่ข้ามีผู้ที่สามารถรับบังเหียนทั้งหลายที่ข้าต้องทิ้งไว้ให้สักวันหนึ่ง? ข้าไม่มีผู้อิ่นที่สามารถทำได้. แต่เขาต้องเรียนรู้! และข้าต้องถนอมรักษาตัวข้าขณะที่เขากำลังเรียน.

เนฟุดให้สัญญาณคนมาช่วยตน, นำพวกนั้นออกประตูไป.

“เจ้าจะเป็นเพื่อนข้าไปที่โถงวังของข้าหน่อยได้ไหม, ฟียด์?” ท่านบารอนถาม.

“ข้าเป็นของท่านตามบัญชา,” ฟียด์-เราธาพูด. เขาโค้งคำนับ, คิด: ข้าโดนจับแล้ว.

“เจ้านำไปก่อน,” บารอนพูด, และเขาชี้ไปที่ประตู.

ฟียด์-เราธาบ่งบอกถึงความกลัวของเขาโดยแต่เพียงการลังเลใจที่เปล้าเปลือยที่สุดเท่านั้น. ข้าได้ล้มเหลวอย่างที่สุดรึ? เขาถามตนเอง. เขาจะแทงมีดอาบยาพิษใส่ด้านหลังของข้า.....อย่างช้าๆผ่านโล่ห์นี้มั๊ย? เขามีผู้สืบทอดทางเลือกอื่นแล้วรึ?

ให้เขาได้มีประสบการณ์ชั่วขณะเช่นนี้ของความสยดสยอง, บารอนคิดขณะที่เขาเดินตามไปทางด้านหลังหลานของเขา. เขาจะสืบทอดจากข้า, แต่ก็ในเวลาที่ข้าเป็นผู้เลือก. ข้าจะไม่ให้เขาได้โยนข้าทิ้งไปจากสิ่งที่ข้าสร้างมันขึ้นมาเอง!

ฟียด์-เราธาพยายามที่จะไม่เดินซวนเซ. เขารู้สึกว่าผิวหนังมีขนลุกชันที่ด้านหลังของเขาราวกับว่าตัวมันเองก็กังขาใจว่าเมื่อไหร่การฟาดฟันจะหวดลงมา. กล้ามเนื้อของเขาต่างเขม็งตึงและคลายลงสลับกันไป.

“เจ้าได้ยินข่าวล่าสุดจากอาร์ราคิสแล้วหรือยัง?” ท่านบารอนถาม.

“ยังไม่, ขอรับ ท่านลุง.”

ฟียด์-เราธาบังคับตนเองไม่หันกลับทางด้านหลัง. เขาเลี้ยวลงไปตามโถงออกจากเขตปีกคนรับใช้.

“พวกนั้นมีผู้พยากรณ์คนใม่หรือผู้นำทางศาสนาของอะไรบางอย่างในกลุ่มของพวกฟรีเมน,” ท่านบารอนบอก. “พวกนั้นเรียกเขาว่า มวดดิบ. ตลกมาก, จริงนะ. มันมีความหมายว่า “หนู”. ข้าบอกกับแร็บบานให้ปล่อยพวกนั้นมีลัทธิศาสนานั่นไป. มันจะช่วยคอยทำให้พวกนั้นอาศัยอยู่ได้.”

“นั่นน่าสนใจมาก, ท่านลุง,” ฟียด์-เราธาพูด. เขาเลี้ยวเข้าไปสู่ระเบียงส่วนตัวยังเขตวังของลุงของเขา, กังขา: ทำไมเขาคุยถึงเรื่องลัทธิศาสนา? มีบางเล่ห์เหลี่ยมนัยยะอะรับข้ารึ?

“ใช่แล้ว, มันไม่ใช่รึ?” ท่านบารอนพูด.

พวกเขาเข้ามาในวังของบารอนผ่านส่วนต้อนรับสังสรรค์รับรองเข้าไปยังโถงนอน. ร่องรอยทั้งหลายของการดิ้นรนต่อสู้ได้ต้อนรับพวกเขาที่นี่—โคมแขวนลอยอยู่ผิดที่ทาง, ฟูกเตียงลงมาอยู่บนพื้น, ม้วน-คลายอารมณ์คลี่ไหลกระจายเปิดอยู่เหนือขาตั้งเตียง.

“มันเป็นแผนการที่ชาญฉลาด,” ท่านบารอนพูด. เขาคงร่างของตนให้อยู่ในโล่ห์ป้องกันเปิดทำงานขึ้นไปถึงระดับสูงสุด, หยุด, เผชิญหน้ากับหลานชายของตน. “แต่ไม่ฉลาดพอ. บอกข้าสิ, ฟียด์, ทำไมเจ้าไม่จู่โจมใส่ข้าให้ล้มลงไปด้วยตัวของเจ้าเอง? เจ้าได้มีโอกาสอยู่เพียงพอ.”

ฟียด์-เราธาพบว่าเก้าอี้แขวนลอย, บรรลุผลในการข่มจิตใจขณะที่เขานั่งลงไปในมันโดยปราศจากการบอกสั่ง.

ข้าต้องกล้าหาญในตอนนี้, เขาคิด.

“ท่านสอนกับข้าเองว่ามือของตนเองนั้นต้องให้สะอาดไว้อยู่เสมอ,” เขาพูด.

“อ้า, ใช่,” ท่านบารอนพูด. “เมื่อเจ้าเผชิญหน้าต่อจักรพรรดิ, เจ้าต้องสามารถที่จะพูดความจริงได้อย่างเต็มที่ว่าเจ้าไม่ได้ทำกรรมอันใดนั้น. นังแม่มดที่ข้อศอกของจักรพรรดิจะได้ยินคำพูดของเจ้าและรู้ว่าถึงคำพูดนั้นของพวกเขาเป็นความจริงหรือเป็นความเท็จ. ใช่. ข้าได้เตือกเจ้าถึงในเรื่องนั้นแล้ว.”

“ทำไมท่านไม่เคยซื้อเบเน เกสเสอริตมาสักรายหนึ่งเลยล่ะ? ท่านลุง?” ฟียด์-เราธาถาม. “มีสัจวจนะกรอยู่ข้างกายท่าน---”

“เจ้ารู้รสนิยมของข้าดี!” ท่านบารอนสอดขัด.

ฟียด์-เราธาศึกษาลุงของตน, พูด: “กระนั้น, สักรายหนึ่งก็จะมีค่าได้สำหรับ---”

“ข้าไม่ไว้ใจพวกมัน!” ท่านบารอนกร่น. “และหยุดพยายามที่จะเป็นเรื่องซะที!

ฟียด์-เราธาพูดเสียงอ่อน: “ตามแต่ท่านปรารถนา, ท่านลุง.”

“ข้าจำได้ถึงตอนที่ในสนามสังเวียนเมื่อหลายปีก่อน,” ท่านบารอนพูด. “มันดูเหมือนว่าที่วันนั้นเจ้าทาสได้ถูกเตรียมมาเพื่อฆ่าเจ้า. นั่นเป็นความจริงอย่างที่มันเป็นหรือ?”

“มันผ่านมานานแล้ว, ท่านลุง. อย่างไรก็ตาม, ข้า---”

“อย่าได้บ่ายเบี่ยง, ได้โปรด,” บารอนบอก, และความเขม็งตึงในน้ำเสียงของเขาเผยถึงการบังคับตนกับความโกรธของเขา.

ฟียด์-เราธามองที่ลุงของเขา, คิด: เขารู้, มิเช่นนั้นเขาคงไม่ถาม.

“มันเป็นการแสร้งตบตา, ท่านลุง. ข้าได้เรียบเรียงมันเพื่อทำลายความเชื่อถือต่อนายกองทาสของท่าน.”

“ฉลาดมาก,” ท่านบารอนพูด. “กล้าหาญ, ด้วย. เจ้าทาสแกลดิเอเตอร์เกือบจัดการเจ้าได้, ไม่ใช่รึ?”

“ใช่.”

“ถ้าเจ้าได้มีไหวพริบและความละเอียดอ่อนที่เข้ากันได้กับความกล้าหาญเยี่ยงนั้น, เจ้าก็จะเป็นที่น่าเกรงขามอย่างแท้จริง.” ท่านบารอนส่ายศีรษะของเขาจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง. และดังเช่นที่เขาได้ทำมากมายครั้งตั้งแต่ตั้งแต่วันร้ายแรงมหันต์บนอาร์ราคิส, เขาพบว่าตัวเขาเองกำลังสำนึกเสียใจต่อการสูญเสียไปกับไพเตอร์, เมนทาตนั้น. ได้เคยมีชายผู้ประณีต, ละเอียดอ่อนอย่างโหดเหี้ยม. มันไม่ได้ช่วยชีวิตเขาได้, กระนั้น. อีกครั้ง, ท่านบารอนส่ายศีรษะของตน. โชคชะตาเป็นบางครั้งที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้.

ฟียด์-เราธาชำเลืองมองไปรอบๆโถงนอนนี้, ศึกษาถึงสัญญาณของการต่อต่อสู้ดิ้นรน, สงสัยว่าลุงของเขาได้เอาชนะได้อย่างไรต่อเจ้าทาสนั้นที่พวกเขาได้จัดเตรียมมันมาอย่างระมัดระวังยิ่งนัก.

“ข้าเอาชนะมันได้อย่างไรหรือ?” บารอนถาม. “อาห์-ห-ห, ที่นี้, ฟียด์---ให้ข้าได้เก็บงำอาวุธบางอย่างที่จะพิทักษ์ตัวข้าในอายุชราของข้านี้ไว้เถิด. มันดีกว่าที่เราใช้เวลานี้ที่จะทำการเคาะเจรจาต่อรองกัน.”

ฟียด์-เราธาจ้องมองเขา. การต่อรอง! เขาหมายถึงเก็บข้าไว้เป็นทายาทของเขาอย่างแน่นอน, งั้น. ไม่เช่นนั้นทำไมต้องเจรจาต่อรอง. หนึ่งเจรจาต่อรองกันด้วยความเท่าเทียมหรือเกือบจะเท่าเทียมกัน!

“ต่อรองอะไรหรือ, ท่านลุง?” และฟียด์-เราธาได้รู้สึกถึงความภาคภูมิใจที่น้ำเสียงของเขายังคงสงบและมีเหตุผล, การทรยศที่ไม่มีปีติยินดีอันใดที่ท่วมท้นตนเองอยู่.

ท่านบารอน, ด้วยเช่นกัน, สังเกตได้ถึงการควบคุมนั้น. เขาพยักหน้า. “เจาเป็นวัสดุที่ดี, ฟียด์. ข้าไม่ต้องการจะเสียเปล่าไปในวัสดุที่ดี. เจ้าดื้อรั้น, อย่างไรก็ตาม, ในการปฏิเสธที่จะเรียนรู้คุณค่าแท้จริงของข้าที่มีต่อเจ้า. เจ้ามีทิฐิมานะ. เจ้าไม่เห็นว่าทำไมข้าควรจะถูกถนอมรักษาเอาไว้ดุจใครบางคนของความเป็นสิ่งล้ำค่าสูงสุดต่อเจ้า. นี่.....” เขาแสดงท่าทางไปยังหลักฐานของการต่อสู้ในโถงนอนนั้น. “นี่เป็นความโง่เขลา. ข้าไม่ให้รางวัลต่อการโง่เขลาใด.”

เข้าไปถึงจุดนั่นเถอะ, เจ้าแก่โง่! ฟียด์-เราธาคิด.

“เจ้าคิดกับข้าว่าเป็นเช่นเจ้าแก่โง่,” ท่านบารอนพูด. “ข้าต้องตักเตือนเจ้าในเรื่องนั้น.”

“ท่านพูดถึงเจรจาต่อรอง.”

“อ้า, ความไม่อดทนของวัยหนุ่ม,” ท่านบารอนพูด. “เอาละ, นี่เป็นเนื้อหาสาระของมัน, งั้น: เจ้าจะหยุดการพยายามอันโง่เขลาเหล่านี้กับชีวิตของข้า. และข้า, เมื่อเจ้าพร้อมสำหรับมัน, จะก้าวออกไปด้านข้างตอบแทนความมีน้ำใจของเจ้า. ข้าจะเกษียณตนเองไปสู่ตำแหน่งที่ปรึกษา, ปล่อยให้เจ้าในที่นั่งของอำนาจ.”

“เกษียณหรือ, ท่านลุง?”

“เจ้ายังคงคิดว่าข้าเป็นเจ้าโง่,” บารอนพูด, “และนี้คือที่เป็นการยืนยันมัน, เอ๋? เจ้าคิดว่าข้ากำลังขอร้องเจ้า! ก้าวอย่างระมัดระวังไว้, ฟียด์. เจ้าแก่โง่ผู้นี้มองทะลุเห็นเข็มที่ซ่อนที่เจ้าได้ฝังเอาไว้ในขาอ่อนของเจ้าเด็กทาสนั่น. พอดีกับตรงที่ข้าจะเอามือของข้าวางลงไปบนมัน, เอ๋? แรงกดเล็กน้อยที่สุดและ---จึ๊ก! เข็มยาพิษจิ้มในฝ่ามือของเจ้าแก่โง่! อ้าห์-ห-ห-, ฟียด์.....”

ท่านบารอนส่ายศีรษะของเขา, คิด: มันจะไม่ได้ผล, ด้วยเช่นกัน. ถ้าฮาวัตไม่ได้เตือนข้าก่อน. เอาละ, ปล่อยให้เจ้าหนุ่มนี้เชื่อว่าข้าได้เห็นแผนการร้ายนี้ด้วยตนเองไป. ในวิธีนี้, ข้าทำ. ข้าเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตฮาวัตจากการพังพินาศของอาร์ราคิส. และเจ้าหนุ่มนี้จำเป็นที่ต้องเคารพนับถือมหาศาลยิ่งขึ้นต่อความสามารถที่เหนือกว่าของข้า.

ฟียด์-เราธายังคงนิ่งเงียบอยู่, ดิ้นรนต่อสู้อยู่กับตัวเอง. นี่เขากำลังแสดงความจริงใจอยู่รึ? นี่เขาตั้งใจที่จะเกษียณตนเองจริงๆรึ? ทำไมจะไม่ล่ะ? ข้าแน่นอนว่าจะได้สืบทอดต่อจากเขาในวันหนึ่งถ้าข้าเคลื่อนไปอย่างระมัดระวัง. เขาไม่สามารถอยู่ไปชั่วนิรันดร์ได้. บางทีมันเป็นการโง่เขลาที่จะพยายามไปรีบเร่งกระบวนการ.

“ท่านพูดถึงเจรจาต่อรอง,” ฟียด์-เราธาพูด. “อะไรคือข้อผูกมัดที่เราต้องทำเพื่อรัดยึดมันไว้?”

“เราจะสามารถไว้วางใจกันได้อย่างไร, เอ๋?” ท่านบารอนถาม. “เอาละ, ฟียด์, สำหรับเจ้า: ข้ากำลังจัดวางธูเฟอร์ ฮาวัตที่จะเฝ้าจับตามองต่อเจ้า. ข้าไว้วางใจความสามารถเมนทาตทั้งหลายของฮาวัตในเรื่องนี้. เจ้าเข้าใจข้าหรือไม่? และสำหรับตัวข้า, เจ้าจะต้องรับข้าเอาไว้ในความศรัทธา. แต่ข้าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ไปชั่วนิรันดร์, ใช่ไหม, ฟียด์? และบางทีเจ้าควรจะเริ่มต้นที่จะระแวงในตอนนี้ว่ามีหลายสิ่งที่ข้ารู้ในสิ่งที่เจ้าควรจะรู้.”

“ข้าให้ท่านด้วยข้อผูกมัดของข้าและอะไรที่ท่านให้ต่อข้าหรือ?” ฟียด์-เราธาถาม.

“ข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป,” ท่านบารอนพูด.

อีกครั้ง, ฟียด์-เราธาศึกษาลุงของตน. เขาตั้งฮาวัตมาคุมข้า! เขาจะพูดว่าอย่างไรถ้าข้าบอกกับเขาว่าฮาวัตเป็นผู้วางแผนเล่ห์กลกับแกลดิเอเตอร์นั้นที่มีราคาเป็นนายกองทาสของเขา? เน่าจะพูดว่าข้าได้กำลังโกหกในการพยายามนี้ที่จะลดความน่าเชื่อถือของฮาวัต. ไม่, ธูเฟอร์ผู้แสนดีเป็นเมนทาตและได้เข้ามามีส่วนในชั่วขณะนี้.

“เอาละ, เจ้าจะพูดว่าอย่างไรล่ะ?” ท่านบารอนถาม.

“ข้าจะพูดอะไรได้? ข้ายอมรับ, แน่นอน.”

และฟียด์-เราธาคิด: ฮาวัต! เขาเล่นทั้งสองปลายต่อต้านตรงกลาง.....มันเป็นเช่นนั้นรึ? เขาย้ายมาที่ค่ายของลุงข้าเพราะว่าข้าไม่ได้ปรึกษาหารือเขาในการพยายามเรื่องเจ้าเด็กทาสนี้รึ?

“เจ้าไม่ได้พูดสิ่งใดเลยเกี่ยวกับการจัดวางฮาวัตให้คอยเฝ้าดูเจ้า,” ท่านบารอนพูด.

ฟียด์-เราธาทรยศต่อความโกรธด้วยการพ่นลมหายใจจมูกบานออกมา. ชื่อฮาวัตได้เป็นสัญญาณอันตรายหนึ่งในครอบครัวฮาร์คอนเนนมานานหลายปีแล้ว.....และในตอนนี้มันได้มีความหมายใหม่: ยังคงอันตรายอยู่.

ฮาวัตคือของเล่นที่เป็นอันตราย,” ฟียด์-เราธาพูด.

“ของเล่น! อย่าทำเป็นโง่. ข้ารู้ว่าอะไรที่ข้ามีในฮาวัตและวิธีที่จะควบคุมมันอย่างไร. ฮาวัตมีอารมณ์อย่างลึกทั้งหลาย, ฟียด์. ชายผู้ที่ปราศจากอารมณ์ทั้งหลายนั้นเป็นผู้ที่ต้องน่ากลัว. แต่อารมณ์อย่างลึก.....อาห์, ตอนนี้, คนเหล่านั้นสามารถถูกดัดลงมาหาความจำเป็นต้องการของเจ้าได้.”

ท่านลุง, เข้าไม่เข้าใจท่าน.”

“ใช่, นั่นกระจ่างพอ.”

เพียงหนังตาที่กระตุกวูบวาบเท่านั้นที่ทรยศต่อช่องทางของความขุ่นเคืองผ่านฟียด์-เราธา.

“และเจ้าก็ไม่ได้เข้าใจฮาวัต,” ท่านบารอนพูด.

หรือไม่ก็เจ้าด้วยเช่นกัน! ฟียด์-เราธาคิด.

“ใครกันที่ฮาวัตกล่าวโทษสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของเขานี้?” ท่านบารอนถาม. “ข้ารึ? อย่างแน่นอนละ. แต่เขาเป็นเครื่องมือของอะไทรดิสและเอาชนะข้ามาหลายปีจนกระทั่งจักรวรรดิยื่นมือเข้ามา. นั่นคืออย่างไรที่เขาเห็นมัน. ความเกลียดของเขาต่อข้าคือสิ่งไม่น่าสนใจในตอนนี้. เขาเชื่อว่าเขาสามารถเอาชนะข้าเมื่อไรก็ได้. การเชื่อเช่นนี้, เขาก็ถูกเอาชนะ. สำหรับข้าที่กำกับความสนใจของเขาไปที่ซึ่งข้าต้องการมัน---ต่อต้านจักรวรรดิ.”

ความตึงเครียดของการได้รู้สิ่งใหม่ขีดเส้นตรงแน่นข้ามผ่านหน้าผากของฟียด์-เราธา, บีบเรียวริมฝีปากของเขา. “ต่อต้านจักรพรรดิรึ?”

ปล่อยให้หลานรักของข้าได้ลองลิ้มรสชาติของการนั้น, ท่านบารอนคิด. ปล่อยให้เขาพูดกับตัวเขาเอง. “จักรพรรดิ ยด์-เราธา ฮาร์คอนเนน!” ให้เขาถามตัวเขาเองว่านั่นมีมูลค่ามากเท่าไร. อย่างแน่นอนที่มันต้องเป็นมูลค่าคุ้มกับชีวิตของหนึ่งลุงเฒ่าผู้สามารถทำความฝันนั้นได้ผ่านมา!

อย่างช้าๆ, ฟียด์-เราธาเลียริมฝีปากตนเองด้วยลิ้นของเขา. มันสามารถเป็นความจริงในอะไรที่เจ้าเฒ่าโง่กำลังพูดอยู่รึ? ได้มีอะไรมากกว่าที่นี้ที่ได้ดูเหมือนจะเป็น.

“และอะไรที่ฮาวัตต้องจะทับเรื่องนี้?” ฟียด์-เราธาถาม.

“เขาคิดว่าเขาใช้เราที่จะทำลายล้างของการล้างแค้นของเขาเอากับองค์จักรพรรดิ.”

“และเมื่อนั่นสัมฤทธิ์ผลแล้วล่ะ?”

“เขาไม่ได้คิดโพ้นเลยไปกว่าการล้างแค้นของเขา. ฮาวัตคือชายผู้ที่ต้องรับใช้ผู้อื่น, และไม่ได้กระทั่งรู้เรื่องนี้เกี่ยวกับตัวเขา.”

“ข้าได้เรียนรู้อย่างมากจากฮาวัต,” ฟียด์-เราธาเห็นด้วย, และรู้สึกถึงสัจในคำนั้นขณะที่เขาพูดพวกมันออกไป. “แต่ยิ่งข้าเรียนรู้มากเท่าไร, ข้าก็ยิ่งรู้สึกว่าเราควรจัดการเขา.....โดยเร็วด้วย.”

“เจ้าไม่ชอบความคิดในการเฝ้าดูของเขาต่อเจ้าหรือ?”

ฮาวัตเฝ้าดูทุกคนอยู่แล้ว.”

“และเขาอาจเอาเจ้าขึ้นสู่บัลลังก์. ฮาวัตเป็นคนฉลาดหลักแหลม. เขาเป็นสิ่งอันตราย, หลอกลวง. แต่ข้าจะยังไม่ระงับการให้ยาแก้พิษจากเขา. ดาบนั้นอันตราย, ด้วยเช่นกัน, ฟียด์. เรมีฝักดาบสำหรับรายนี้, ด้วย. ยาพิษในตัวเขา. เมื่อเราเพิกถอนยาแก้พิษ, ความตายก็จะสวมฝักลงใส่เขา.

“ในทางหนึ่ง, มันเหมือนกับสนามสังเวียน,” ฟียด์-เราธาพูด. “กลลวงภายในกลลวงภายในกลลวงทั้งหลาย. ท่านเฝ้าดูที่ได้เห็นหนทางที่เจ้าแกลดิเอเตอร์เรียนรู้, หนทางซึ่งเขามอง, วิธีที่เขาถือมีดของเขาอย่างไร.”

เขาพยักหน้าให้กับตนเอง, มองเห็นว่าคำพูเหล่านี้ทำความพอใจให้กับลุงของเขา, แต่ก็คิด: ใช่! เหมือนในสนามสังเวียน! และที่ล้ำหน้าไปก็คือจิตใจ!

         “ตอนนี้เจ้ามองเห็นแล้วสินะว่าเจ้าจำเป็นต้องการข้าอย่างไร,” ท่านบารอนพูด. “ข้ายังไม่หมดการใช้ประโยชน์, ฟียด์.”

         ดาบที่ต้องถูกไร้คมจนกว่าเขาจะทื่อเกินไปที่จะใช้งาน, ฟียด์-เราธาคิด.

         “ใช่, ท่านลุง,” เขาพูด.

         “และตอนนี้,” ท่านบารอนพูด, “เราจะลงไปที่เขตพักพวกทาส, เราสองคน. และข้าจะเฝ้าดูตอนที่เจ้า, ด้วยมือของเจ้าเอง, ฆ่าผู้หญิงทุกคนในปีกรื่นรมย์ใจนั้น.”

         “ท่านลุง!

         “ยังมีผู้หญิงอื่นอีก, ฟียด์. แต่อย่างทีข้าได้บอกไว้ว่า เจ้าจะทำผิดพลาดอย่างม่ใส่ใจกับข้าไม่ได้.”

         ใบหน้าของฟียด์-เราธาดำคล้ำ. “ท่านลุง, ท่าน---”

         “เจ้าจะยอมรับโทษทัณฑ์ของเจ้าและเรียนรู้บางอย่างจากมัน.” ท่านบารอนพูด.

         ฟียด์-เราธาพบกับการจ้อมองอย่างอิ่มอกอิ่มใจในแววตาของลุงของตน. และข้าต้องจดจำไว้กับคืนนี้, เขาคิด. และการจดจำมัน, ข้าต้องจำถึงคืนอื่นๆอีก.

         “เจ้าจะไม่ปฏิเสธ,” บารอนบอก.

         เจ้าสามารถทำอะไรได้ถ้าข้าปฏิเสธ, เจ้าแก่? ฟียด์-เราธาถามตนเอง. แต่เขารู้ว่าอาจจะเป็นการลงทัณฑ์บางอย่างอื่นอีก, บางทีจะฉลาดยิ่งกว่าอันนี้, ไม้คานโหดเหี้ยมอย่างยิ่งที่จะดัดงอเขา.

         “ข้ารู้เจ้าดี, ฟียด์,” ท่านบารอนพูด. “ว่าเจ้าจะไม่ปฏิเสธ.”

         เอาละ, ฟียด์-เราธาคิด. ข้าจำเป็นต้องการเจ้าในตอนนี้. ข้าเห็นนั่น. การเจรจาต่อรองได้ทำลงไปแล้ว. แต่ข้าจะไม่จำเป็นต้องมีเจ้าตลอดไปเสมอ. และ.....สักวันหนึ่ง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น