ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนรึ? ดูนี่สิ!
NOT
VACCINATED YET? Watch this!
-
ดร. คริสตี้ ไรซิงเจอร์ เป็นอายุรแพทย์(internist)อาศัยอยู่ใน ออสติน, เท็กซัส, กับสามีและลูกสี่คน. เธอได้ทำงานที่ Seton
Community Clinics ตั้งแต่ปี 2006.
เธอเข้าเรียนที่ Georgetown University School of Medicine และจบสาขา
Internal Medicine Residency ของเธอที่ Providence
Portland Medical Center ใน ปอร์ตแลนด์, โอเรกอน.
Dr. Christy answers the
question "Why bother getting vaccinated - it doesn't work anyway" in
response to the outbreak seen in Provincetown. If you are vaccine hesitant or
know someone that is, watch this video!
ดร.คริสตี้ ตอบคำถามที่ว่า
“ทำไมต้องยุ่งกับการรับฉีดวัคซีนด้วย - มันไม่ได้ผลอยู่ดี”
ในการตอบสนองต่อการระบาดอย่างรวดเร็วที่พบเห็นใน โพรวินซ์ทาวน์.
ถ้าคุณยังลังเลกับวัคซีนหรือรู้จักใครบางคนที่เป็นเช่นนี้, ดูวีดิโอนี้สิ!
ไฮ
และยินดีต้อนรับสู่อีกตอนหนึ่งของรายการ “สุขภาพของคุณ กับ
คริสตี้”. ดิฉันชื่อ ดร.คริสตี้ ไรซิงเจอร์(Christy Risinger, MD/ INTERNAL
MEDICINE PHYSICIAN).
และวันนี้ดิฉันกำลังจะให้ข้อมูลทันเหตุการณ์กับคุณในเรื่องของ
เดลต้า เปลี่ยนรูป(delta
variant).
เจ้าเดลต้า เปลี่ยนรูป(the delta variant)มาที่นี่เพื่ออยู่และในตอนนี้ถูกคิดว่าจะเป็นสาเหตุของกว่า 80% ขอการติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ของอเมริกา(the cause of over 80 percent of new US. covid-19
cases).
มีเสียงเล่าลือหนึ่งที่ดิฉันกำลังคิดว่ากำลังมีการลากดึงกันมากเกินไป(is getting too
much traction), ว่า วัคซีนโควิดทั้งหลายที่เราได้หาได้นั้น(available)นั้นไม่ได้ประสิทธิผล(are not effective)ในการต้านทานเจ้าเดลต้า
เปลี่ยนรูป(not effective against the delta variant).
และเรื่องนี้อาจจะเป็นการลดทอนอย่างมีศักยภาพต่อความกล้าหาญของผู้คน(may be
potentially discouraging people)จากการไปรับฉีดวัคซีนโควิด.
เรามาเริ่มต้นกับอะไรที่ดิฉันเห็นกับการระบาดแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว(saw with an
outbreak)ใน โพรวินซ์ทาวน์(Provincetown), แมสซาชูเซ็ตต์ส(Massachusetts),
หลังจากวันที่ 4 กรกฎาคมสุดสัปดาห์(the July 4th
weekend - วันชาติอเมริกา).
รัฐนี้เป็นที่สำคัญ(significant)เพราะว่ากว่า 70% ของประชากรที่เข้าเกณฑ์(its eligible population)ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19(has been vaccinated against covid-19).
ดังนั้น,
นี้คือรัฐหนึ่งที่ควรจะมีบางภูมิต้านทานหมู่โดยปกติธรรมชาติ(should have
some natural herd immunity).
แต่อะไรที่พวกเขาได้ค้นพบนั้นน่าประหลาดใจ(what they
found was surprising).
พวกเขาพบว่ากว่า 900 การติดเชื้อโควิดเป็นบวก(over 900 covid positive cases).
และนั่น, 75%
ของผู้ที่ติดเชื้อกับโควิด(those infected with covid),
ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่แล้ว(had been fully vaccinated).
และเกือบ 80% มีอาการของโรค(were
symptomatic)ที่ซึ่งน่าประหลาดใจจริงๆ, เพราะว่าวัคซีนPfizerที่ถูกคาดว่าจะเป็น 88%
ในประสิทธิผลกับการป้องกันอาการของโรค(is supposed 88% effective at
preventing symptomatic disease).
ขอบคุณอย่างเต็มที่,
ที่ไม่มีรายงานการเสียชีวิตทั้งหลาย(no reported deaths),
แต่เจ็ดรายได้เข้าบำบัดรักษาในโรงพยาบาล(hospitalized). และอย่างน้อยสี่รายจากเหล่านั้นได้รับการฉีดวัคซีนมาเต็มที่แล้ว(fully
vaccinated).
แล้วอะไรได้เกิดขึ้นหรือ?
การระบาดแพร่เชื้อนี้(this outbreak)ได้ถูกสัมพันธ์กับการชุมนุมรวมตัวกันในที่สาธารณะขนาดใหญ่ทั้งหลาย(was
associated with large public gatherings).
และแสดงให้เห็นว่าเจ้าเดลต้า
เปลี่ยนรูป(the
delta variant)คือ ผู้เล่นใหม่(a new player), เพราะว่ากระทั่งผู้ใหญ่ทั้งหลาย(even adults)ที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่แล้ว(fully
vaccinated)ได้ถูกคิดว่าจะมีความสามารถของการผ่านไปกับเจ้าSARS-Cov2
เดลต้า เปลี่ยนรูปนี้(be
capable of passing along the SARS-Cov2 delta variant)เมื่อเทียบกับผู้คนอื่น.
มันเป็นการตะโกนเรียก-ปลุก(a wake-up call)สำหรับผู้คนที่จะตระหนักถึง(to realize)ว่า,
ในขณะที่วัคซีนได้ทำงานอันมหัศจรรย์(a marvelous job), ในการป้องกันการติดเชื้อรุนแรงจากโควิดและการเสียชีวิตทั้งหลาย(a
severe covid infections and deaths),
คุณก็ยังคงสามารถได้รับการติดเชื้ออย่างอ่อนไปถึงปานกลาง(can still get a
mild to moderate infection)ที่สามารถเป็นที่ทุกข์ร้อน(can
be miserable)และรวมทั้งเป็นไข้(fever), ไอ(cough), ปวดศีรษะ(headache), ปวดเมื่อยตามตัวทั้งหลาย(body
aches)และเจ็บคอ(soar throat)ได้.
สำหรับวงการแพทย์แล้ว(the medical
community), อาการรุนแรง(severe)หมายถึงการต้องเข้ารับบำบัดรักษาในโรงพยาบาล(hospitalization).
แต่อย่างอ่อนไปถึงปานกลางนั้น(mild to
moderate)สามารถยังคงเป็นที่ทุกข์ทรมานกับผู้คน(still be
really miserable for people).
แต่ดิฉันไม่คิดว่านี้หมายถึงว่าวัคซีนทั้งหลายนั้นไม่ได้ผล(don’t think this
means that the vaccines don’t work), หรือว่าผู้คนควรทันทีทันใดได้ความประทับใจซาบซึ้ง(suddenly
get the impression)ที่เราได้ถูกหลอกลวงมา(been duped)โดยเรื่องนี้(by this).
ในบางหนทาง(in some ways), เรารู้ว่าเรื่องนี้จะบังเกิดขึ้นที่บางประเด็น(would happen at
some point)ว่าน่าจะเป็นเจ้าเปลี่ยนรูป(would be a
variant)ที่สามารถจะเป็นผ่านไปด้วยได้กับผู้อื่น(be passed along to others)กระทั่งในเหล่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว(in
those that are vaccinated).
และจำไว้ด้วยว่า,
ขณะที่ Pfizer ประกาศว่าที่ 88% ของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่(those
fully vaccinated)ควรที่จะไม่ได้มีอาการโรคทั้งหลายของโควิด(get
symptoms of covid)หลังจากวัคซีนของพวกเขา(after their
vaccine).
นั่นยังคงทิ้งไว้ให้อีก
12%, ที่จะได้รับอาการโรคทั้งหลาย(will get symptoms)และวัคซีนนั้นใช้การได้(and
the vaccine did work).
เราน่าจะได้มีคาดหวังการเข้าบำบัดรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้น(would have
expected more hospitalizations)กับผู้ที่ได้รับเชื้อเดลต้า
เปลี่ยนรูป(that got the delta variant),
และเราม่เห็นนั่นเลย.
กับการติดเชื้อกว่า
900 รายนั้น, มีเพียงแค่เจ็ดรายเท่านั้นที่รับการบำบัดรักษา ที่ในโรงพยาบาล(only
been seven hospitalizations)และขอบคุณอย่างเต็มเปี่ยมที่ไม่มีการเสียชีวิต(thankfully
no deaths).
แต่อะไรที่ได้บังเกิดขึ้นในโพรวินซ์ทาวน์(what happened
in Provincetown)คือ การตะโกนปลุก-เรียก(wake-up call)ต่อผู้ที่คิดว่าวัคซีนนั้นมีการป้องกัน 100%(vaccine
is 100% protective).
และยินยอมให้คำเตือนให้ระวังภัยล่วงหน้าได้ถูกโยนทิ้งไปในสายลม.
นี้อย่างง่ายๆว่าไม่ใช่การติดเชื้อ(not the case)และแน่นอน, และแน่นอน,
ข้อมูลจากโพรวินซ์ทาวน์(Provincetown)คือเหตุผลที่ CDC(ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and
Prevention, CDC)ออกมาเรื่องใบหน้ากับคำแนะนำทั้งหลาย(an
about face on recommendations)ว่าในการสวมหน้ากากสำหรับผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเต็มที่แล้ว(for
mask wearing for fully vaccinated adults).
ไม่นานนี้(previously), พวกเขาบอกว่า,
หน้ากากทั้งหลายไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้วถ้าคุณได้รับวัคซีนครบเต็มที่(masks
were no longer needed if you’re fully vaccinated).
แต่ตอนนี้, พวกเขากำลังแนะนำ(recommending)ว่าหน้ากากต้องถูกสวมในที่สาธารณะ(be worn in public), ภายในอาคารทั้งหลายในพื้นที่ที่มีการแพร่เชื้อหนาแน่น(areas
with substantial and high transmission). ซึ่งว่ากันตามสัตย์แล้ว,
ส่วนมากที่สุดของสหรัฐอเมริกาอยู่ที่จุดนี้.
แล้ว,
ดิฉันได้ยินผู้คนพูดกันว่า, ทำไมต้องไปวุ่นวายรับการฉีดวัคซีนด้วย, มันใช้การไม่ได้ผลอยู่ดี?(why bother
getting the covid vaccinated it doesn’t work anyway).
แต่นี่อย่างแน่นอนเป็นที่สุด(this is
absolutely)ไม่ใช่เรื่องการติดเชื้อนั้น(the case).
วัคซีนทั้งหลายที่เรามีใช้สามารถหาได้(available)มีประสิทธิภาพต่อการต้านทานโควิด-19(are
effective against covid – 19), กระทั่งจากเดลต้า เปลี่ยนรูป(delta
variant).
ข้อมูลที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารนิว
อิงแลนด์ในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ว่า, กว่า 23,000 ผู้คน,
ได้แสดงให้เห็นว่าวัคซีน Pfizer นั้น 88% มีประสิทธิผลต้านทานอาการเจ็บป่วยจากเชื้อโรค(88%
effective
against symptomatic disease), และ 96%
ต่อความจำเป็นที่ต้องเข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาลจากเดลต้า เปลี่ยนรูป(96%
against needing hospitalization from the delta variant).
ดิฉันคิดว่าสถิติเหล่านี้(these
statistics)เป็นที่น่าประทับใจจริงๆ(are really impressive). แต่มันสำคัญที่จะได้รับการฉีดทั้งสองโดส(important to get both
shots), เพราะความมีประสิทธิภาพต่อการต้านทานอาการติดเชื้อทั้งหลาย(the
effectiveness against symptomatic disease)ลดลงถึง 33% หลังจากการฉีดเพียงหนึ่งโดสของวัคซีนPfizer(drops
to 33% after only one dose of the Pfizer vaccine).
เราไม่มีข้อมูลมากนักกับวัคซีนModerna(the Moderna vaccine),
แต่อะไรที่เราได้มีนั้นมาจากผู้ผลิต(come from the manufacturer), และพวกเขาประกาศอ้างว่า(state quote)มีการลดลงปานกลาง(the
modest reduction)ในการทดสอบระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลต้า
เปลี่ยนรูป(in neutralizing titers against delta).
แต่พวกเขาไม่มีผลิตสร้างอะไรกับตัวเลขทั้งหลายที่ชัดเจน.
และสุดท้าย, วัคซีนJohnson &
Johnson, ที่จำกันได้ว่าเป็นวัคซีน-โดสเดียว(one-shot
vaccine), ได้ถูกรายงานว่าวัคซีนของมันนั้นมีประสิทธิผลดีกับเดลต้า(is
effective with delta),
แต่หนึ่งการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์ลงในวารสารด้านวิทยาศาสตร์(scientific
journal). แต่ดิฉันจะเอาlinkในคำอธิบายมาเล่า,
ชี้แนะว่าวัคซีนของมัน(Johnson & Johnson)มีประสิทธิอผลน้อยต่อเจ้าเปลี่ยนรูปนั้น(less
effective against the variant). แต่พวกเขาใช้การศึกษาทั้งหลายในห้องปฏิบัติการทดลอง(lab
studies).
แต่เรื่องนี้ได้มีการประชุมถกเถียงอย่างฉับไว(prompted
discussion)ในเรื่องผู้รับการทดลองทั้งหลายของ JJ(JJ recipients)อาจจำเป็นต้องรับการฉีดโดสที่สอง(need
second shot)และอาจเป็นไปได้ว่าจากหนึ่งของวัคซีนmRNAทั้งหลาย, แทนที่จะเป็นโดสที่สองของวัคซีนJohnson & Johnson.
แต่นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายดูเหมือนว่าจะไม่แปลกใจ(have not seem
surprised)ว่าวัคซีน J&J
อาจจะมีประสิทธิผลน้อย(may be less effective)เพราะว่าการฉีดหนึ่งโดสของแอสตร้าเซเนก้า(one
shot of the AstraZeneca vaccine)ซึ่งคล้ายคลึงกับวัคซีน J&j, แต่มันไม่ได้ใช้กันในปัจจุบันที่สหรัฐอเมริกา, เป็นแค่ 33% ของประสิทธิผลเท่านั้นต่อการต้านทานฤทธิ์เดชของเจ้าเดลต้า.
แต่ดิฉันต้องการหยุดสักหนึ่งนาที(pause for a
minute), ฉันคิดว่าเรื่องนี้คือที่ซึ่งผู้คนได้สับสน(get
confused)เกี่ยวกับข้อมูล(about the data)แล้วกระโจนเข้าไปสู่การลงเอย(jump
to the conclusion)ว่า วัคซีนJohnson & Johnson นั้นมีแค่ 33% ของประสิทธิผล(33% effective), แล้วทำไมต้องไปวุ่นวายกับการฉีดวัคซีนด้วย(why bother getting
vaccinated).
แต่นั่นไม่ใช่ที่ข้อมูลนี้หมายถึง(this data
means), 33% ความประสิทธิผล(33%
effectiveness)หมายความว่า, 33%ของผู้คนที่ไม่มีการป้องกันต่อเดลต้า
เปลี่ยนรูป(exposed to the delta variant)ไม่ได้เกิดอาการป่วยทั้งหลายของโควิด(not
get symptoms of covid).
แต่เรารู้ว่าวัคซีนทั้งหลายเหล่านี้มีประสิทธิภาพเห็นได้ชัดในการป้องกันการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงจากโควิด(remarkably
effective at preventing severe covid illness). เพราะว่า 95% ของผู้คนที่ถูกการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล(are hospitalized)หรือการเสียชีวิตจากโควิด(or dying from covid)นั้นไม่ได้รับการฉีดวัคซีน(are not vaccinated).
ใช่, ได้มีการเจาะทะลวงของการติดเชื้อทั้งหลาย(breakthrough
infections). และข่าวนั้น(the news)ดูเหมือนว่าจะพูดกันถึงเรื่องเหล่านี้กันอย่างมากมาย(seems
to talk about these a lot).
ที่จริงแล้ว,
พวกเขาพูดกันถึงพวกนั้นบ่อยมากเกินไป, ที่ดิฉันคิดว่าพวกเขากำลังให้ความประทับใจ(giving the
impression)ว่ามันได้กำลังปรากฏขึ้นบ่อยครั้งมากเกินไปกว่าที่เป็นจริง(it’s
occurring more often than it actually is).
แน่นอนว่า,
ที่เราได้เห็นในโพรวินซ์ทาวน์ที่กำลังยุ่งยากวุ่นวายนี้,
แต่นี่เป็นข้อยกเว้นอย่างชัดเจน(definitely the exception).
ตามที่ CDC แจ้ง,
น้อยกว่า 0.004% ของผู้คนที่ได้รับวัคซีนอย่างเต็มที่ต้านโควิด-19(have been fully vaccinated against covid-19)ได้ประสบกับการเจาะทะลวงเหตุติดเชื้อจนมีผลลัพธ์เป็นการเข้าบำบัดรักษาที่ในโรงพยาบาล(experienced
a breakthrough case resulting in hospitalization).
และน้อยกว่า 0.001% ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อนี้(have died from the disease).
นั่นราวหกพันหกร้อยของเหตุการทะลวงผ่านติดเชื้อรุนแรง(6,600 severe
breakthrough cases)ออกมาจากกว่า 163
ล้านของผู้คนที่รับวัคซีนอย่างเต็มที่(fully vaccinated people).
ในหมู่ผู้ที่เข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล(among
hospitalized)หรือเหตุจากการเจาะทะลวงถึงตาย(fatal
breakthrough cases)ถูกรายงานต่อ CDCเมื่อวันที่
19 กรกฎาคม. 74% เป็นผู้มีอายุ 65 ปีหรือมากกว่านั้น. อเมริกาได้เฝ้าสังเกตศึกษาหนึ่งพบว่า 44% ในการติดเชื้อเจาะทะลวงผ่านทั้งหลายนี้(breakthrough infections)อยู่ในหมู่ผู้คนที่ได้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง(among people who were
immunocompromised).
ดิฉันต้องการจะดำเนินต่อไปในการเน้นเป็นพิเศษ(to stress)ว่า, ราว 95% ของการเข้ารับบำบัดรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตทั้งหลาย(the
hospitalizations and deaths)ที่เรากำลังเห็นกันคือ จากผู้คนที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่(have
not been fully vaccinated).
เหตุติดเชื้อสูงสุดที่แพร่กระจายและรุนแรง(the highest
spread of cases and severe)ปรากฏผลออกมา(outcomes)กำลังบังเกิดขึ้นในสถานที่ซึ่งมีอัตราการรับฉีดวัคซีนต่ำ(with low
vaccination rates).
ขณะที่เด็กๆกลับไปยังโรงเรียน(as children go
back to school)และเราดำเนินชีวิตของเราต่อไปที่จะเริ่มใหม่อีก(continue
to resume our lives), ความน่าจะเป็นไปได้(likelihood)ว่าคุณกำลังถูกเปิดตัวไม่ป้องกันต่อเดลต้า เปลี่ยนรูปของ SARS-Cov2(be exposed to the delta variant SARS-Cov2)นั้นสูงมาก(very
high).
เดลต้า เปลี่ยนรูป(the delta
variant)นั้นมีความสามารถในการแพร่เชื้อมากยิ่งขึ้น(more
transmissible)กว่าหวัดธรรมดา(the common cold)และไข้หวัดใหญ่(influenza), และเป็นแพร่กระจายเชื้อด้วยการสัมผัสเช่นเดียวกับไข้ทรพิษ(as
contagious as chickenpox).
ในอดีต, มันถูกคิดกันว่าบางคนที่มีเชื้ออัลฟ่า
เปลี่ยนรูป(with
the alpha variant)หรือการเปลี่ยนรูป(the variant)ที่ได้เริ่มต้นในสหราชอาณาจักรบริเทน(started in Great Britain),สามารถผ่านมันไปสู่ผู้อื่นได้ 2.5 คน(pass
it along to two and a half others), ถ้ามันอยู่ในสภาพแวดล้อมปราศจากหน้ากากหรือวัคซีน(in
an environment without masks or vaccines).
แต่กับเดลต้า
เปลี่ยนรูป(the delta variant), มันถูกคิดว่าบางคนสามารถส่งผ่านมันไปให้ผู้อื่นได้ถึง
3.5-4 คน. และเมื่อเร็วๆนี้กับลำดับของการเปลี่ยนรูปทั้งหลาย(with
prior variants).
การเปิดเผยต่อโควิดภายหลังการได้รับวัคซีนแล้วนั้น(exposure to covid
after vaccination)ได้หมายความคุณได้ถูกปกป้องจากการติดต่อกับเชื้อไวรัส(were
protected from contracting the virus)และถูกปกป้องจากการส่งผ่านเชื้อไปสู่ผู้คนอื่น(protected
from passing it along to other people), แต่เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงอีกต่อไป(this
is no longer true).
และเรื่องนี้ได้เป็นที่คาดหวัง(to be expected)ว่าในขณะที่เจ้าไวรัส(the virus)ดำเนินต่อไปที่จะเปลี่ยนรูป(to
mutate)และได้ดีขึ้นและดีขึ้นอีก(get better and better)ในการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อ(at infecting and spreading).
นี้คือทำไมทุกคนในวงการแพทย์(in the medical
community)รวมทั้งตัวดิฉันเอง, ยังขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ทุกคนรับการฉีดวัคซีน(vaccinations). เพราะว่ายิ่งน้อยผู้คนที่ติดเชื้อ, ก็ยิ่งน้อยลงที่ไวรัสจะมีการเปลี่ยนรูป.
และในท้ายสุดของวันนี้,
ดิฉันก็ขอพูดต่อผู้ฟังทั้งหลายว่า, ได้โปรดไปรับการฉีดวัคซีน. ไม่ว่าวัคซีนโควิดใด,
อันไหนก็ไม่ได้ดีกว่าอันอื่นนัก. พวกเขามีประสิทธิผลเหมือนกัน.
ขอบคุณที่มาร่วมกับดิฉันค่ะ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น