คุรุเทพ –
การเชื่อมติดต่อที่ซ่อนอยู่ ระหว่างดาวเคราะห์ทั้งหลายกับร่างกาย
Hidden Connection
Between The Planets and the Body | Gurudev
https://youtu.be/nUxBXrvXHec?si=mN9lcNhrSB4LJ2XQ
ผู้คนโบราณบอกไว้ว่า แต่ละส่วนของร่างกายเราได้เชื่อมติดต่อกับดาวเคราะห์ทั้งหลาย.
พวกคุณรู้นี้ไหม? มีบางอย่างที่ถูกเรียกว่า เวชโหราศาสตร์(medical
astrology1 - โหราศาสตร์ทางการแพทย์). โหราศาสตร์(astrology1)ไม่ได้แค่กำลังบอกโชคชะตาทั้งหลายกับคุณเท่านั้น,
ว่าคุณจะได้งานหรือว่าคุณจะสูญเสียงาน, ว่าการแต่งงานของคุณจะใช้การได้หรือไม่ได้.
นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวเท่านั้นของโหราศาสตร์(astrology).
1 https://en.wikipedia.org/wiki/Medical_astrology
จิตของคุณ(your mind)ได้ถูกเชื่อมต่อกับดวงจันทร์(Moon)เพราะว่าคุณได้เรียกว่า
จันทร์ดับ/วิกลจริต(lunatic3) เมื่อคุณไม่โอเคกับดวงอาทิตย์(Sun)ได้เชื่อมต่อเข้ากับจิตวิญญาณ, อัตตา/ตัวตนของเรา และดวงตา(is
connected with our soul, self and the eyes).
3 https://en.wikipedia.org/wiki/Lunatic
ดาวเสาร์(the planet Saturn)ได้ถูกเชื่อมต่อกับฟันและกระดูกทั้งหลายของเรา(is
connected to our teeth and bones).
ดาวพฤหัสบดี(Jupiter)ได้ถูกเชื่อมต่อกับสติปัญญาของคุณ(is
connected to your intellect4). ปัญญาของคุณ(your wisdom), สัมปชัญญะของคุณ(your
awareness).
4 https://en.wikipedia.org/wiki/Intellect
จมูกของคุณ(your nose), ตับของคุณ(your liver)ได้ถูกเชื่อมต่อกับดาวอังคาร(is
connected to Mars). และดาวอังคาร(Mars)ก็ถูกเชื่อมต่อด้วยเช่นกันกับสัตว์(to an animal), กับสี(to a color), กับเมล็ดธัญพืช(to
a grain), และกับรูปร่าง(to a shape).
ดังนั้นการเชื่อมต่อของมหจักรวาล และจุลภพ(this
connection of macrocosm and microcosm)คุณจะถามฉันว่าอย่างไร,
เมล็ดธัญพืชทั้งหลายได้ถูหกเชื่อมต่อกับสิ่งแตกต่างได้อย่างไร,
พืชสมุนไพรทั้งหลายได้ถูกเชื่อมต่อเข้ากับส่วนแตกต่างกันทั้งหลายของร่างกายเราเป็นเช่นจุดเวชศาสตร์ทั้งปวงนั้น(you’ll
ask me how, how the grains are connected like different, herbs are connected to
different parts of our body as whole Medical Science).
ถ้าคุณมีปัญหาในเรื่องตับ(liver issue)ที่พวกเขาให้สมุนไพรจำเพาะบางอย่างแก่คุณหรือไม่สมุนไพรใดเลย(they
give you some specific herbs or not any herb).
ยาพิเศษเฉพาะทางได้ถูกให้สำหรับสภาพของหัวใจ ก็เพราะว่าหัวใจได้ถูกเชื่อมต่อกับสมุนไพรพิเศษเฉพาะนั้น(a
particular medicine is given for heart condition because heart is particular
connected with a particular herbs, particular grain). ก็เช่นเดียวกันกับตับได้ถูกเชื่อมต่อกับเมล็ดธัญพืชพิเศษเฉพาะ,
สมุนไพรพิเศษเฉพาะ(so similarly liver is connected to particular
grain, particular herb).
และนั่นคือวิทยาศาสตร์ของยาเจริญก้าวหน้าอย่างไร(that’s
how science of medicine thrives).
คุณรู้ไหมว่าถั่ว(nuts)ได้ถูกเชื่อมต่อแอวัยวะที่แตกต่างกันทั้งหลายของร่างกายนี้?(are
connected to different organs of the body?) คุณเห็นรูปร่างของถั่วนั้นไหมว่ามัน(you
see the shape of the nut, it indicates which part of the body itself). อัลมอนด์–หัวใจ(almond-the heart), วอลนัต-สมอง(walnut-the
brain).
คุณต้องสำรวจค้นหา,
ถ้าคุณสำรวจค้นหา, ธรรมชาติกำลังบอกใบ้นัยให้คุณอยู่ว่า เฮ้ ดูสิ!
ฉันเชื่อมต่ออยู่ (if you explore, nature is giving you
many hints, hey look! I connected).
ผู้คนโบราณบอกไว้ว่า आपके भोजन में छह स्वाद होने चाहिए
ที่หมายความว่า อาหารของคุณควรมีหกรส(that
means your food should have sis tastes). รสฉุน
ขมเล็กน้อย, รู้ไหม, มะระ(pungent a little bitter, you know,
bitter gourd3),
เราใช้กันหมดที่
3 https://en.wikipedia.org/wiki/Momordica_charantia
ในอินเดีย(India),
ในจีน(in China), ทั้งหมดในประเทศทางตะวันออกทั้งหลาย(all of
Eastern countries). เราใช้มะระทานกัน(bitter
gourd)แต่ไม่ใช่ในทางตะวันตก.
รสชาติทั้งหมดทั้งหก(all
the six tastes), การใช้พวกเขาอย่างที่พวกเขาเป็น
มันดีต่อร่างกายของคุณ เพราะว่าทุกส่วนของร่างกายคุณสะท้องกังวาลกับการสั่นสะเทือนพิเศษเฉพาะ(it’s
good for your body, because every part of your body resonates with particular
vibration), สะท้อนกังวานกับบางสมุนไพร, บางเมล็ดธัญพืช และระดับมหจักรวาล,
บางดาวเคราะห์(resonates with certain herb, certain grains and the
macrocosm level, certain planets).
เราซึมเซา, ง่วงนอนเกินไป(so
drowsy, sleepy). เราไม่ได้มองไปยังสิ่งใดเลย(we
don’t look at anything). ถ้าฉันพูดว่า
มีการเชื่อมต่อระหว่างดวงตาของคุณกับท้อง, มันก็ไม่ได้ผิด(there
is connection between your eyes and stomach, it is not wrong).
พวกคุณทั้งหมดที่สวมแว่นตา
ฉันสามารถบอกกับคุณได้ว่า ท้องของคุณไม่ได้ดีนักด้วย,
การย่อยอาหารของคุณมันได้ส่งผลกระทบ, มันส่งผลกระทบต่อการมองเห็นภาพของคุณ(your
tummy is not being too well, your digestion it’s affected, it affects you
eyesight).
คุณไม่ได้ถูกแยกกั้นจากบางคน(you
are not isolated somebody). คุณอาจมีแพทย์ระบบจักษุแยกจากกัน
และแพทย์ระบบทางเดินอาหารแยกจากกัน(you may have ophthalmologist
separate and gastroenterologist separate), แต่คุณเป็นบุคคลหนึ่งเดียวที่มีทั้งสองอย่างนั้น,
คุณถูกเชื่อมต่อ(but you are one person who has both, you connected). ถ้าแพทย์ระบบทางเดินอาหารของคุณให้บางยา, ถ้ามันมีผลต่อดวงตาของคุณ,
คุรก็จะไม่ไปจากเขาเขา, ถูกไหม? (if your gastroenterologist give some
medicine, if it affects your eyes, you won’t leave him, right?)
เขาไม่สามารถให้คุณได้,
เขาไม่สามารถจ่ายยาให้คุณได้ ที่สามารถรักษาท้องของคุณแต่ทำให้คุณตาบอดได้(he
can’t afford to give you a drug which can cure your tummy but makes go blind).
ตุณเป็นหนึ่งชีวอินทรีย์มนุษย์(one
human organism), แล้วจักรวาลทั้งปวงก็เช่นเดียวกัน(so is
the whole universe). นักวิทยาศาสตร์จะพูดว่าแม้กระทั่งถ้ามีเพียงการเปลี่ยนย้ายเพียงหนึ่งใน
DNA สิ่งทั้งหลายก็ไม่สามารถดำรงอยู่, สรรพสิ่งทั้งปวงจะพังพินาศลงไปเลย(even
if there is a one shift in the DNA things cannot exist, the whole creation will
collapse). ตัวเลขเดียวได้ถูกเปลี่ยนในเลขคณิต,
ในคณิตศาสตร์ของสรรพสิ่ง สรรพสิ่งก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้(one number is
changed in arithmetic, in the mathematics of creation, creation cannot exist).
ในฐานะมนุษย์ทั้งหลาย(as
human beings), เราทั้งหมดมี DBA 99.9%
เป็นเหมือนกัน(is the same).
มันเป็นเพียง 1% ของDNA
ที่ได้นำไปสู่ความแตกต่างมากมายเหลือเกินในโลกนี้(it’s only 1% of DNA
which has brought so many difference in the world).
จักรวาลทั้งปวงมีชีวิต
เป็นเช่นลูกสำหรับคุณ(the whole universe is alive as a child for you).
จักรวาลทั้งปวงได้กำลังมีชีวิตมา(the whole universe is, was living).
ต้นไม้ทั้งหลายได้กำลังพูดคุยกับคุณ, สัตว์ทั้งหมดแสดงอารมณ์รู้สึก
พวกเขาทั้งหมดพูดคุย, จักรวาลทั้งปวงได้เต็มไปด้วยชีวิต(the
trees were talking to you, all animals express emotions they all talk, the
whole universe is full of life).
ฉันไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นเมื่อเราเติบโตขึ้น,
เราคิดว่าทุกคนเป็นเช่นวัตถุทั้งหลาย(I don’t know what happen
when we grow up, we think everybody as objects). ฉันได้รับการบอกเล่าว่าในบางประเทศทั้งหลาย,
ในการทหาร พวกเขาได้ให้การฝึกต่อผู้คนของตนให้มองเห็นว่า บุคคลที่เป็นศัตรูนั้นไม่ได้เป็นเช่นมนุษย์
แต่คือวัตถุที่กำลังเข้ามาโจมตีใส่คุณ(I was told in some
countries, in the military they give the training to
people to see the person the enemy not as human being but an object that is
coming to take attack you). บอกว่า มีเพียงตอนนั้นเท่านั้นที่คุณสามารถที่จะโจมตีพวกเขาได้(only
then you are able to attack them). ถ้าคุณมองว่าคือมนุษย์เป็นบุคคลหนึ่ง,
ที่ไหนสักแห่งคุณก็หยุดยั้งรั้งกลับ, คุณจะไม่ก้าวร้าว(if you see human
being in the person somewhere you hold back, you can’t be aggressive).
ดังนั้นเราโน้มเอียงที่จะสูญเสียสัมผัสรู้สึกของชีวิตนี้,
ในสรรพสิ่งทั้งปวงกำลังกลับมาหาคุณ คือมนุษยธรรมที่แท้จริง(so we
tend to lose this sense of life, in the whole creation getting back to you is
real humanism).
สำหรับคุณแล้ว, ทุกสิ่งมีชีวิตอยู่, คุณก็ควรมีชีวิตอยู่(everything is alive, you should be alive). ผู้คนพื้นเมืองดั้งเดิมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่แคนาดา, นิวซีแลนด์, อินเดีย หรืออัฟริกา, พวกเขามักจะได้รู้สึกถึงว่าธรรมชาตินั้นมีชีวิต, กำลังมีชีวิต(the Aboriginal people around the world whether it’s Canada, New Zealand, India or Africa, they always felt the nature is alive, is living).
แม่น้ำทั้งหลายมีชื่อ,
ไม่ว่าจะเป็นชื่อชายหรือหญิง, แม่น้ำทั้งหลายมีชีวิต, น้ำมีชีวิต,
ภูเขาทั้งหลายมีชีวิต, ต้นไม้ทั้งหลายมีชีวิตอยู่(rivers have names,
either male or female names. Rivers have life, water has life, mountains have
life, trees are alive).
พวกเขาทั้งหมดมีอารมณ์รู้สึกทั้งหลาย,
น้ำมีอารมณ์สึกทั้งหลาย, โมเลกุลทั้งหลายของน้ำดูดซับอารมณ์รู้สึกทั้งหลาย
พวกเขาก็แผ่รังสีอารมณ์รู้สึกออกมา(they all have emotions, water
has emotions, water molecules absorb emotions they radiate emotion).
อนุภาคทั้งหลายของน้ำมีความทรงจำ(water
particles have memory). ถ้าคุณไปที่วิหารหรือสถานที่ทั้งหลายของชาวพุทธ,
พวกเขามักจะมีส่วนหนึ่งของน้ำเก็บรักษาไว้ในโบสถ์พุทธทั้งหลายนั้น. ในวิหารฮินดู,
โบสถ์คริสต์, พวกเขาก็เก็บน้ำเช่นนี้ไว้ด้วยเช่นกัน, น้ำมนตร์/น้ำศักดิ์สิทธิ์(if you
go to the temples or places of Buddhist, they always keep
a part of water in the Buddhist temples. in the Hindu temples, Church, also
they keep water, Holy water).
เหล่านี้คือเครื่องหมายโบราณทั้งหลาย(ancient
signs), รู้ไหม, บางครั้งคุณสงสัยว่า,
ผู้คนโบราณนี้รู้ทั้งหมดนี้ได้อย่างไร ที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่กำลังตระหนักรู้ยอมรับ(sometimes
you wonder, how did this ancient people knew all this which today modern
science is recognizing).
ดังที่ฉันได้พูดไปก่อนหน้านี้, ตอนนี้จะพูดว่า ทุกวัตถุมีจิตสำนึก
ในจักรวาลนี้(every object has a consciousness in the universe).
นั่นหมายความว่า, ดาวอังคารมีจิตสำนึก, ดาวพฤหัสบดีมีจิตสำนึก,
ดวงดาวทั้งหลายมีจิตสำนึก(the Mars has Consciousness, Jupiter has
Consciousness, stars have Consciousness).
นั่นหมายความว่า พวกเขาสามารถรู้สึกได้, พวกเค้าสามารถส่งคลื่นได้(that means
they can feel, they can send wave4).
แสงอาทิตย์ทั้งหลายไม่ได้มีแค่ความร้อน, มันยังแผ่รังสีจิตสำนึกด้วยเช่นกัน(sun
rays have got not just heat and energy, it also radiates5
Consciousness), หมายความว่ามันมีอารมณ์รู้สึกทั้งหลาย(means
it has emotions).
4https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99
อะไรคืออารมณ์รู้สึก? มันเป็นอะไรของคลื่นชนิดหนึ่งด้วยเช่นกัน,
ไม่ว่าคุณจะมองทุกสิ่งเป็นเพียงเช่นวัตถุเท่านั้น
หรือคุณมองทุกสิ่งเป็นเช่นชีวิต, มันจะมีการเปลี่ยนแปลงร่าง(what
is emotion? it’s also some sort of wave, either you see everything as only
object or you see everything as life, there will be transformation).
ทุกสิ่งในฐานะวัตถุคืออย่างที่คุณเห็น,
สามีหรือภรรยากำลังมา, คุณพูดว่า เขามี 65 กิโลของกรดอะมิโน, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน
กำลังเดินมายังฉัน(everything as object is, you see, your husband or wife coming,
you say he has 65 kg of amino acid, carbohydrate, protein walking towards me).
คุณเคยไปตลาดผักไหม? และแค่จ้องมองฟักทองลูกหนึ่งและพูดว่า เฮ้
ฟักทองลูกนี้สามารถกลายเป็นได้ในวันพรุ่งนี้(hey this pumpkin could become me
tomorrow).
เรามองเห็นทุกสิ่งเป็นเช่นวัตถุ, มนุษย์เป็นเช่นวัตถุ
แล้วก็ไม่มีชีวิต, ไม่มีอารมณ์รู้สึก, ไม่มีอะไรเลย(we see
everything as object, human beings as object then there is no life, no emotion,
nothing).
หรือว่าคุณมองเห็นทุกสิ่งเป็นเช่นชีวิต, แล้วจิตสำนึกของคุณก็ถูกยกขึ้นไปสู่อีกระดับอื่น
(or
you see everything as life, then your Consciousness is up lifted to another
level). มันช่างเป็นจักรวาลอันน่าทึ่งเหลือเกินที่เราได้มี(it’s
such an Universe we have). เราได้มองเห็นโลกนี้ผ่านดวงตาของฉัน,
คุณรู้ไหม, มันเป็นความเชื่อมต่อที่แตกต่างอย่างมากๆยิ่ง ระหว่างจุลภพ และ มหจักรวาล
นั้นไม่อาจโต้แย้งหักล้างได้. คุณไปหนึ่งขั้นไกลขึ้น แม้กระทั่งพูดใช้คำว่า “ความเชื่อมต่อ”
นั้นก็ผิด, เพราะว่ามันทั้งหมดคือ หนึ่งชีวิต/ชีวอินทรีย์(it’s a very, very different the connection between the microcosm and macrocosm is irrefutable. You go
one step further even to say use the word “connection” is wrong, because it’s all
one organism).
เราแค่ถูกจับติดอยู่ในบางอย่างเล็กๆ และคอยหมุนม้วนไปอยู่เรื่อยๆ เข้าไปในนั่น(we just get caught up in a little something and keep reeling into that), ที่จำเป็นต้องตื่นขึ้นมามองให้เห็น(that need to wake up and see). ชีวิตช่างล้ำค่ายิ่ง(life is so precious). ช่างล้ำค่าเกินไปกว่าจะทำให้สูญเปล่าไปกับทั้งหมดนั้น(so precious to waste it all that).
นี้คือวิทยาศาสตร์ทางจิตวิญญาณ(this
is spiritual science). นี้เป็นความรู้ทางจิตวิญญาณ(this
is spiritual knowledge).
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น