หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เมื่อ Covid Delta Variant จะกลายเป็นความเลวร้ายที่สุด

นี้คือเมื่อ โควิด เดลต้า เปลี่ยนรูป จะกลายเป็นความเลวร้ายที่สุด, ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผย

This is When COVID Delta Variant Will Become Worst, Expert Reveals

 

              - ENews Trends เป็นช่องข่าวเชิงการศึกษา(an educational news channel)ที่ขุดค้นลงไปในประวัติเบื้องหลังของประเด็นทั้งหลายในกระแสโลก(current global issues). วีดอโอสั้นของเราขุดลึกลงไปในโลกของวันนี้, รวมทั้งการเมือง, เทคโนโลยี, สิ่งแวดล้อม, ยารักษาโรค และวัฒนธรรม ของมัน.

 

นี้คือเมื่อ โควิด เดลต้า เปลี่ยนรูป จะกลายเป็นความเลวร้ายที่สุด, ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผย.

         โควิด-19 เดลต้า เปลี่ยนรูป(COVID-19 Delta Variant)กำลังกลายเป็นการคุกคามอย่างใหญ่หลวงยิ่งขึ้น(a much greater threat), เมื่อได้เปรียบเทียบกับรายอื่นที่เปลี่ยนรูปที่ซัดเอาในหลายเมืองใหญ่(compared to other variants that hit cities).

         แต่มันได้ส่งมอบเสร็จแล้วรึ(has it delivered all ready)?

         ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งบอกว่า, การกระแทกปะทะของจริงนั้นยังไม่มา(the real impact is yet to come), โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา(particularly in the US).

         นี้หมายความว่า, ผู้คนต้องยืนหยัดตัวพวกเขาเองต่อศักยภาพความเสียหายของเชื้อเปลี่ยนรูปนี้(the potential damage of this variant)กับครัวเรือนและเศรษฐกิจ(1to households and economy).

         ดังนั้นถ้าคุณยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน(not vaccinated yet), พิจารณาว่ากำลังไปฉีดเพื่อได้รับการปกป้องยิ่งขึ้น(consider getting one to receive more protection)ต่อเจ้าเดลต้า(against the Delta).

         อ้างอิงจาก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา(US. CDC), เจ้าเดลต้า เปลี่ยนรูป(the Delta variant)ได้รับผิดชอบต่อ 31.1% ของการติดเชื้อโควิด(was responsible for 31.1% of COVID cases)จากวันที่ 6 มิถุนายน ถึงวันที่ 19.

         มันเป็นแค่ 10.1% เท่านั้นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดลงวันที่ 5 มิถุนายน, และ 3.1% ในตอนสิ้นสัปดาห์ของวันที่ 22 พฤษภาคม.

         สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า, รวดเร็วอย่างไรของเจ้าเปลี่ยนรูป(the variant)กำลังแพร่กระจายไปทั่วประเทศ(is spreading in the country).

         ข่าวร้าย(the bad news)คือเจ้าเปลี่ยนรูป(the variant)ไม่ได้ปรากฏว่าจะเป็นที่เชื่องช้าลง(doesn’t appear to be slowing down).

         ในรายการของ CNBC’s Squawk Box, อดีตผู้อำนวยการองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ(former FDA commissioner), ดร.สก็อตต์ ก็อตลีบ(Dr.Scott Gottleib), บอกว่า, ดูเหมือนว่าจุดสูงยอดสุดของเดลต้า(the likely peak of Delta)นั้นอยู่ราวสิ้นเดือนกันยายน(around the end of September).

         นั่นยังคงเป็นอีกสองเดือนไปจากนี้(a couple of months away)แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้, ขึ้นอยู่กับ(depend on)ว่าผู้คนทำตัวอย่างไรข้างในและข้างนอกของบ้านของพวกเขา(how people act inside and outside of their homes).

         ก็อตลีบ(Gottleib)เสริมอีกว่า, บางพื้นที่ควรจะนำข้อห้ามบังคับทั้งหลายกลับมา(should return restriction)จนกว่าอัตราการได้รับวัคซีนสูงขึ้น(vaccination rates go up)และการติดเชื้อใหม่ลดลง(new cases go down).

         เขาทำให้กระจ่างชัดได้ง่ายว่า การชี้แนะของสาธารณสุข(public health guide)ต้องถูกระบุชัดในที่ซึ่งสถานการณ์กำลังเลวร้าย(must be addressed where the situation is going bad).

         ดังนั้น, ไม่มีข้อบัญญัติ/พรก.แห่งชาติทั้งหลายอีกต่อไปในระเบียบขั้นตอนเคร่งครัดทั้งหลาย(no more national mandates of strict protocols), นอกการปฏิบัติการทั้งหลายระดับภูมิภาค(regionalized actions)เพื่อป้องกันการระบาดอย่างรุนแรงรวดเร็ว(to prevent outbreaks)จากการหลุดมือ(from getting out of hands).

         ถ้าคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่กำลังมีการติดเชื้อสูง(are living in an area where cases are high), ขอให้พิจารณาใคร่ครวญในการระมัดระวังอันตรายทั้งหลาย(consider taking precautions)จะตามหรือไม่ตามที่รัฐบาลท้องถิ่นประกาศบังคับ(with or without the mandate from).

         แล้วสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนเต็มที่(fully vaccinated)แล้วล่ะ?

         พวกเขาควรยึดถือเข้มงวดต่อข้อควรระมัดระวังอันตรายเหล่านี้ด้วยไหม(should they strictly adhere to these precautions)?

         ก็อตลีบ(Gottleib)ได้ให้คำปรึกษาว่า(advised)แม้กระทั่งกับสองโดส(even with two doses), ผู้คนที่ได้รับวัคซีนอย่างเต็สมที่(fully vaccinated people)ก็ควรยังคงดูแลความปลอดภัยและเฝ้าระวัง(should remain vigilant and on the lookout).

         กรณีการพัฒนาการติดเชื้อทั้งหลาย(breakthrough cases)ยังไม่มีการถูกได้ยินได้ฟังถึง(are not unheard of).

         ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล(may not get hospitalized), พวกเขาอาจจะเป็นการเสี่ยงต่อผู้อื่นทั้งหลายที่ยังไม่ได้รับวัคซีน(risk to others who aren’t vaccinated yet).

         กระนั้น, การนำความระมัดระวังอันตรายทั้งหลายมาใช้(adopting precautions)เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ(in public) หรือในพื้นที่ทำงาน(in the working space)ก็เป็นการเลือกที่ดี(a good choice).

         หลังจากนั้น(after all), การสวมหน้ากาก(wearing mask), ล้างมือเป็นระยะๆ(washing hands frequently), และรักษาระยะห่างทางกายภาพ(physically distance)สามารถมีความหมายต่อผู้อื่นอีกมากมายที่เราเป็นห่วงใยใส่ใจ(can mean a lot to those we care about).

         ในวารสาร Clinical Microbiology and Infection(CMI), นักวิจัยค้นคว้าชาวอิสราเอลทั้งหลาย(Israeli researchers)ได้พิมพ์รายงานออกมาว่า, กรณีการพัฒนาการติดเชื้อโรคทั้งหลายนั้น(breakthrough cases)ถูกรายงานว่าพบในเหล่าผู้คนที่ได้รับวัคซีนPfizer(those who received the Pfizer vaccine).

         จาก 152 ผู้ป่วยที่ถูกวิเคราะห์(152 patients analyzed), ผู้ป่วย 38 รายเข้าใจได้ว่าผลออกมานั้นแย่กว่าที่คาด(were deemed with poor outcomes).

         ผู้ป่วยเหล่านี้ถูกระบุชี้ชัดว่ามีระดับทั้งหลายสูง(were identified with high levels)ของ SARS-Cov-2.

         พวกเขายังลงความเห็นว่าผลที่ออกมาแย่นั้น(conclude that poor outcomes)เป็นเหมือนจะมีสาเหตะจาก(likely due to)โรคที่เกิดขึ้นร่วมกันทั้งหลายหลายชั้น(multiple comorbidities)และยากดภูมิคุ้มกันทั้งหลาย(immunosuppressants.

         ดังนั้น, ผู้ป่วยลักษณะนี้สมควรได้รับคำชี้แนะ(deserve guidance)ถึงการปกป้องอย่างสูงสุด(maximized protection)ที่จะได้โดยวัคซีนโควิดทั้งหลาย(given by COVID vaccines).

         https://youtu.be/BPkQzEPHLKw 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น